ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐที่ตึงเครียดมาอย่างยาวนาน ในขณะที่ผู้นำสองมหาอำนาจโลกพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย ไม่ให้ลุกลามใหญ่ กลายเป็นสงครามจริง แต่เมื่อนางร้ายราดน้ำมันเข้าไปในกองไฟหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ไฟจะไหม้ถึงอเมริกาอย่างน่าเวทนาแก่อเมริกันชนธรรมดาที่กำลังประสบปัญหารุมเร้า
กรณี นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครตเดินทางเยือนไต้หวัน ถือเป็นการยั่วยุท้าทายจีนอย่างไร้เหตุผล ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ทนไม่ได้ อาจเป็นเหตุให้กลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ได้ทุกขณะ
เมื่อประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เตือน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก่อนหน้านี้ว่า “อย่าเล่นกับไฟมันจะไหม้ผู้จุดไฟเอง”
นางเพโลซี เป็นนักการเมืองอเมริกันผู้มีอคติและมุ่งร้าย หมายทำลายจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่วัยสาวจนย่างเข้าวัยชราอายุ 82 ปี
นางเพโลซี โจมตีใส่ร้ายจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่เริ่มเล่นการเมืองใหม่ๆ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นวุฒิสภาจนก้าวหน้ามาเป็น ประธานสภาคองเกรส นางยังไม่เลิกนิสัยมุ่งร้ายทำลายจีน จากความอคติฝังใจว่า จีนไม่เป็นประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นประเทศอำนาจนิยมที่คนทั่วไปไม่มีเสรีภาพในการแสดงออก
ปี 2536 ตอนเข้ามาเล่นการเมืองใหม่ๆ ในฐานะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ นางเพโลซี นำคณะสี่ห้าคนไปแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลปักกิ่ง ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินตอนนั้นนางอ้างว่า ไปแสดงความรำลึกถึงวีรชนประชาธิปไตยที่ถูกฆ่าตายจากการประท้วงใหญ่ในจัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2532
ตอนนั้นนางเพโลซี แอบนำผืนผ้าที่เขียนตัวหนังสือเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษประณามรัฐบาลปักกิ่ง พร้อมกับคำสรรเสริญวีรชนประชาธิปไตยที่ตายระหว่างการปราบปรามผู้ประท้วง นางคลี่ผืนผ้าที่มีข้อความการประณามรัฐบาลปักกิ่งได้ไม่ถึงสองนาทีก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดผืนผ้านั้นได้ ทำให้คณะของนางหนีกระเจิดกระเจิงโชคดีที่ทางสถานทูตสหรัฐช่วยไว้ได้
ปี 2550 นางเพโลซี เป็นตัวตั้งตัวตี เป็นแกนนำการรณรงค์ต่อต้านคัดค้าน ไม่ให้จีนได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก แต่ความพยายามของนางมิได้เกิดผลใดๆ
ปี 2550 เช่นกันนางเพโลซี เป็นตัวตั้งตัวตี ในการสนับสนุนให้ไต้หวันสมัครเป็นสมาชิกสหประชาชาติ แต่ถูกนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ เวลานั้นปรามไว้
ในการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2550 นายบัน คี มูน กล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ไต้หวันเข้ามาเป็นสมาชิกยูเอ็น เพราะต้องยึดตามมติที่ 2785 ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 26 เมื่อเดือนตุลาคม 2524 ที่รื้อฟื้นสิทธิชอบธรรมทางกฎหมายทุกอย่างของสาธารณรัฐประชาชนจีนและให้จีนมีที่นั่งในสหประชาชาติแทนที่ผู้แทนจากไต้หวัน#จึงเป็นไปไม่ได้ที่ทางกฎหมาย จะรับการยื่นขอเข้าเป็นสมาชิกยูเอ็นของไต้หวัน”นายบัน คี มูน กล่าว
และ เสริมด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2525นี่เป็นความพยายาม ครั้งที่ 14 แล้ว ที่จะให้ไต้หวันเป็นสมาชิกยูเอ็นแต่มันเป็นไปไม่ได้ทางกฎหมาย
นับว่าเป็นครั้งที่สามแล้ว ที่นางเพโลซีพ่ายในสมรภูมิสงครามน้ำลายให้แก่ปักกิ่ง แต่เมื่ออายุย่างเข้า 82 ปี นางเพโลซี ได้เป็นประธานสภาคองเกรส เป็นบุคคลสำคัญอันดับสามของสหรัฐ คือ หากประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี เป็นอะไรไป นางเพโลซีก็จะสวมหน้าที่ ประธานาธิบดีทันที
ดังนั้นในบั้นปลายชีวิต นางคิดว่า ต้องเอาชนะจีนให้ได้สักครั้ง ถึงไม่ชนะในสงครามน้ำลาย ก็แค่ให้จีนขายหน้าโดยการเสี่ยงเล่นกับไฟดื้อรั้นเดินทางไปเยือนไต้หวันจนได้
ในสงครามน้ำลายครั้งสุดท้ายนางเพโลซีตัดสินใจไปเยือนไต้หวันแบบกลัวๆ กล้าๆ เพราะปักกิ่งลั่นวาจาไว้ว่า “อย่าเล่นกับไฟมันจะเผาไหม้เอาได้”
นางเพโลซีเลยไม่ได้แจ้งในกำหนดการเดินทางล่วงหน้า แต่แสร้งทำเป็นว่านางไปเยือนสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้และญี่ปุ่น และเมื่อมั่นใจว่า ทางวอชิงตัน ได้เตรียมป้องกันอันตรายแก่นางสิงห์ร้ายเต็มที่ โดยมีกองเรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐติดอาวุธนิวเคลียร์ 4 ลำ เตรียมพร้อมอยู่ในทะเลทางตะวันออกของไต้หวัน ระหว่าง ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ พร้อมปฏิบัติการยั่วยุท้าท้ายจีนเต็มที่
นางเพโลซี เลยแอบมุดออกจากมาเลเซีย โดยขึ้นเครื่องบินกองทัพอากาศสหรัฐไปลงจอดในสนามไต้หวันในเวลาเกือบห้าทุ่ม เป็นฤกษ์ผานาทีที่กองทัพประชาชนจีนซึ่งเตรียมอยู่แล้วทำอะไรไม่ได้ เพราะกลัวภัยอันตรายจะเกิดกับประชาชนผู้บริสุทธิ์
ถึงแม้นางเพโลซีจะเยือนไต้หวันได้อย่างปลอดภัย แต่ไฟสงครามได้จุดติดขึ้นแล้ว
ไฟกองแรก คือ ตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐหุ้นดาวโจนส์ในวอลล์สตรีทร่วงลงกว่า 400 จุด ทันทีที่นางเพโลซีไปถึงไต้หวัน
ไฟกองที่สอง คือ จีนสั่งห้ามสินค้าเกษตร และ สินค้าทุกชนิดจากไต้หวันเข้าประเทศ จีนแผ่นดินใหญ่เป็นตลาดสินค้าเกษตรรายใหญ่สุดของไต้หวัน
ไฟกองต่อไป คือ ไฟสงครามจริงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะทั้งกองทัพประชาชนจีน และ กองทัพเรือสหรัฐเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก กำลังเผชิญหน้ากัน และ สงครามจริงพร้อมระเบิดขึ้นได้ทุกขณะ
นางเพโลซีอาจสะใจ ที่ทำให้จีนเสียหน้าแต่นาทีแรกที่นางเพโลซีกระดกก้นจากไป เกาะไต้หวัน จะไม่มีวันเป็นสุขอีกต่อไป เพราะนางเพโลซีได้จุดไฟแห่งสงครามจุดไฟแห่งความทุกข์ระทมทิ้งไว้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี