ที่มีคนสงสัยว่า ทำไมไม่เรียกเก็บภาษีหุ้นชินจากลูกๆ ของทักษิณ
แต่มาใช้วิธีเรียกเก็บจากตัวทักษิณ
ทั้งๆ ที่ มันเป็นการขายหุ้นชินฯ นอกตลาดหลักทรัพย์ส่วนที่อยู่ในการถือครองของแอมเพิล ริช มาให้ “พานทองแท้กับพินทองทา” ในราคาหุ้นละบาทเดียว ต่ำกว่าราคาจริงในตลาดหุ้นขณะนั้น?
โปรดฟังทางนี้....
คนที่สงสัยข้างต้น คงลืมไปว่า ลูกๆ ของนายทักษิณ เคยมีข้าราชการกังฉินช่วยเหลือในเรื่องภาษีอย่างไรในยุคระบอบทักษิณครองเมือง
จำได้ไหม “พานทองแท้ กับพินทองทา” รอดตัว ไม่ต้องจ่ายภาษีหุ้นชินฯ เกือบ 8 พันล้านบาท เพราะมีข้าราชการกังฉินช่วยเหลืออย่างไร?
ข้าราชการทุจริต ถูกศาลพิพากษาจำคุก ต้องติดคุกไปแล้ว
จำได้ไหม เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 นางสาวปราณี เลขาฯส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน อดีตภริยาอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ทำหนังสือถามชงไปยังสรรพากร ทำนองว่า กรณีนายพานทองแท้ซื้อหุ้นชินคอร์ปฯ จากบริษัทแอมเพิล ริช ต้องเสียภาษีหรือไม่?
นางเบญจา หลุยเจริญ ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร ทำหนังสือลงวันที่ 21 กันยายน 2548 ตอบข้อหารือ แถมอธิบายชี้ช่องทางให้ล่วงหน้าเสร็จสรรพ เกินกว่าคำถามเสียด้วยซ้ำ
หลังจากนั้น ปี 2549 พานทองแท้และพินทองทาก็ซื้อหุ้นชิน คนละ 164 ล้านหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาทราคาหุ้นในตลาดขณะนั้นอยู่ที่ 49.25 บาท ทั้งสองถือเป็นผู้ได้รับเงินพึงประเมิน และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น แต่ได้อิงอาศัยแนวทางของข้าราชการกังฉินช่วยเหลือทำให้ไม่ต้องเสียภาษี
ครอบครัวชินวัตรประหยัดเงินภาษีไปกว่า 7,900 ล้านบาทแต่ประเทศชาติเสียหาย
สุดท้าย ป.ป.ช. ไต่สวน ชี้มูลความผิด และฟ้องคดีที่ศาลปราบโกง
28 ก.ค. 2559 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษาจำคุกข้าราชการกังฉิน ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำคุกคนละ 3 ปี ส่วน น.ส.ปราณี คุก 2 ปี
19 ต.ค. 2560 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ต่อมา ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ลดโทษให้ เป็นจำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ และพวก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
จำคุกเลขาฯส่วนตัวคุณหญิงพจมาน 2 ปี ไม่รอลงอาญาเช่นกัน
ลูกๆ ของนายทักษิณไม่ต้องจ่ายภาษี ทั้งๆ ที่ เป็นการซื้อขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์
ย้ำว่า นี่คือเงินได้การซื้อขายหุ้นชินฯ จากแอมเพิล ริช มาสู่ลูกๆ ของทักษิณ นอกตลาดหลักทรัพย์ เกิดรายได้ส่วนต่างราคาหุ้น ต้องเสียภาษี
หลังจากนั้น จึงทำการขายต่อไปให้กลุ่มเทมาเส็กในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนหลังนี้ไม่ต้องเสียภาษี
เมื่อศาลฎีกาฯ พิพากษาชี้ขาด ถึงที่สุด ว่าแท้จริงหุ้นเป็นของทักษิณ ลูกๆ และแอมเพิล ริช เป็นตัวแทนเชิด สรรพากรจึงได้มีการประเมินเรียกเก็บภาษีจากทักษิณ เจ้าของหุ้นตัวจริง
โดยสรรพากรได้ประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2549 จากทักษิณ เป็นเงิน 17,629 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายทักษิณเห็นว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงได้ต่อสู้ฟ้องศาลภาษีอากรกลาง จนกระทั่งมีข่าวว่าทักษิณชนะคดีในชั้นต้นล่าสุดนั่นเอง
สาเหตุที่ทักษิณชนะคดี ในคำพิพากษาระบุว่า เพราะเจ้าพนักงานประเมินมิได้ออกหมายเรียกตรวจสอบนายทักษิณภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร
ต้องติดตามว่า กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร จะอุทธรณ์คดีเมื่อไหร่ อย่างไร และผลคดีถึงที่สุดจะออกในรูปใด?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี