วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
ไทยจะประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอย หรือไม่

ดูทั้งหมด

  •  

ในขณะที่มีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนอย่างมากว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก และสหรัฐอเมริกาไม่น่าจะรอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย และมีความเชื่อตรงกันอีกว่าประเทศเหล่านั้นจะเผชิญสภาพปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในช่วงกลางปีหน้าและปัญหานี้จะกินเวลาไปอีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6-8 เดือน หรืออาจจะลากยาวไปเป็นปี ถ้าหากไม่สามารถแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ 

ถ้าประเทศในกลุ่มยุโรปตะวันตก และสหรัฐอเมริกาต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย คำถามคือแล้วประเทศไทยจะรอดพ้นจากวิกฤตนี้ได้หรือ 


สำหรับกลุ่มคนที่ติดตามปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปตะวันตก และสหรัฐอเมริกามาอย่างต่อเนื่องต่างมีความเห็นตรงกันว่า อย่างช้าที่สุดคือในช่วงกลางปีหน้า (พ.ศ. 2566) สหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ คาดการณ์กันว่าจะมีชาวอเมริกันตกงานเป็นจำนวนหลายล้านคนและธุรกิจเอกชนจะต้องปิดตัวลงเป็นจำนวนมากแม้กระทั่งธุรกิจขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับข้ามประเทศก็จะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจใดจะสามารถประคองตัวให้อยู่รอดปลอดภัยได้เท่านั้น หากไม่สามารถรักษาตัวให้รอดพ้นจากวิกฤต ก็หมายความว่าต้องถึงกาลอวสานโดยไม่มีข้อยกเว้น 

ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ที่ประชาคมโลกรับรู้โดยทั่วกันก็คือ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 สหรัฐฯ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.75 ซึ่งเป็นการประกาศขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.00-3.25 และก็ยังมีแนวโน้มอีกว่าในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ สหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก  

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นทันทีประมาณร้อยละ 0.8ส่วนค่าเงินบาทก็อ่อนค่าลงทันทีเช่นกัน โดยลงไปอยู่ที่อัตรา 37.210 บาทต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ  

คาดการณ์กันว่าก่อนจะหมดปีนี้ สหรัฐฯ จะปรับดอกเบี้ยไปแตะระดับร้อยละ 4 และอาจจะสูงกว่าร้อยละ 4 ได้ด้วย ส่วนเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับร้อยละ 8.3 ต่อเดือนในเดือนกันยายน  

เมื่อสหรัฐฯ แสดงอาการออกชัดเจนเช่นนี้แล้ว ก็ต้องหันมาจับตามองเศรษฐกิจไทยโดยทันที เพราะไม่มีทางที่เศรษฐกิจไทยจะไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพียงแต่ต้องดูว่าจะได้รับผลกระทบด้านลบมากหรือน้อยเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ถามว่าเศรษฐกิจไทยจะได้ผลดีจากเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่นั้น ตอบได้ชัดเจนตรงประเด็นว่า ไม่มีทาง 

หากติดตามการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯมาโดยตลอดจะพบว่าตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นกลไกควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศ หลังพบว่าราคาสินค้าสำคัญๆ เช่น เชื้อเพลิง และอาหารเพิ่มราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็พบว่าดัชนีความมั่นใจผู้บริโภคลดลง การซื้อขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวอย่างชัดเจน แถมอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ กลับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา 

ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจโรม พาวเวลล์แถลงข่าวและยอมรับว่า เศรษฐกิจบางส่วนกำลังชะลอตัวลงและส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงหลายเดือนต่อจากนี้ เพื่อควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี 

ขณะเดียวกันเมื่อมองไปยังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็เคยออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเสี่ยงเข้าสู่สภาวะถดถอย และจะพบด้วยว่าบริษัทที่ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ที่เคยได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมที่ต่ำในช่วงระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมาถึงกับต้องประกาศลดพนักงาน และชะลอการจัดซื้อจัดจ้างลง 

และยังมีสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่น่าไว้วางใจอีกประการคือ ปิแอร์ โอลิวิเอร์ เการินชาสผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของกองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ยอมรับว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกดูเสมือนว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นจึงพบว่าต่อมาเพียงไม่นานธนาคารกลางแห่งยุโรป (ECB) ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอัตราสูงสุดในรอบ 11 ปี ส่วนธนาคารกลางแห่งอังกฤษ ก็ประกาศขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ อีกหลายสิบประเทศที่ต้องประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน 

ที่ได้สาธยายเรื่องปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ มายืดยาวนั้น ก็เพียงเพื่อยืนยันว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศบนโลกใบนี้กำลังประสบปัญหา เมื่อเราได้เห็นชัดแล้วว่านานาประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ก็ทำให้ต้องกลับมามองสภาพเศรษฐกิจของไทย แล้วตั้งคำถามว่า แล้วประเทศไทยจะรอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้หรือ  

เราคงไม่ปฏิเสธว่าเศรษฐกิจไทยนั้นจะเฟื่องฟูหรือซบเซาก็มีเหตุปัจจัยมาจากระบบเศรษฐกิจของโลก เพราะเศรษฐกิจไทยนั้นต้องพึ่งพิงระบบเศรษฐกิจโลก เนื่องจากระบบเศรษฐกิจของไทยเพียงลำพังนั้นไม่สามารถยืนอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงใคร ยิ่งในยุคที่เราต้องผลิตเพื่อส่งออกมากกว่าผลิตเพื่อใช้อุปโภค-บริโภคภายในประเทศ เพราะว่าตลาดในประเทศ และกำลังซื้อในประเทศของเรานั้นมีไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตจนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ 

เพราะฉะนั้น เมื่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงจนอาจเข้าถึงสภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้วยแล้ว ก็คงจะยากที่เศรษฐกิจไทยจะรอดพ้นจากการต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่จะตามมาในไม่ช้า 

คำถามคือคนไทยทุกคนเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ค่อนข้างเลวร้ายนี้อย่างไร รัฐบาลวางนโยบายใดเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วหรือยัง อย่าลืมว่าหากเราส่งออกได้น้อยลง เราจะหนีไม่พ้นวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดกับเราอย่างแน่นอน หรือเราจะแก้ปัญหาโดยเพิ่มการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้น คำถามคือประชากรส่วนใหญ่ของเรามีกำลังซื้อจนสามารถทดแทนการส่งออกได้หรือ  

หลายคนอาจบอกว่าเรายังมีทางออกคือ เราเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเข้ามาเที่ยว คำถามก็คือ เราจะยังคงหวังพึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกนานแค่ไหน หากกำลังซื้อของคนต่างชาติหดหายไปเพราะทุกคนก็ล้วนตกอยู่ในชะตากรรมเลวร้ายไม่ต่างกันโดยเฉพาะหากเกิดเศรษฐกิจถดถอยพร้อมๆ กันทั่วทั้งโลกคำถามคือจะยังหลงเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้ออีกสักกี่คน แล้วเมื่อถึงวันที่เลวร้ายเช่นนั้น ไทยจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาจุนเจือระบบเศรษฐกิจไทยหรือ  

ฝากคำถามเหล่านี้ให้คนไทยทุกคนช่วยกันคิดและฝากคำถามนี้ให้รัฐบาลคิดแล้วเร่งหาทางแก้ไขวิกฤตโดยด่วน โปรดอย่ารอจนทุกอย่างสายเกินแก้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:55 น. เสียงกรี๊ดสนั่นโดม! แม่ทัพภาคที่ 2 ขวัญใจโซเชียล พบปะนักเรียนชายแดน อย่างเป็นกันเอง
21:32 น. (ว่าที่)สะใภ้นายกฯกริบ! 'เพลง ชนม์ทิดา'อัพสตอรีออกกำลังกาย ไร้โมเมนต์อวยพรวันเกิด'อนุทิน'
21:29 น. หนึ่งเดียวในเอเชีย! 'บิว'ทะยานรอบรองกรีฑาโลก (ชมคลิป)
21:16 น. ชื่นมื่น!!! แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี 'อนุทิน' อวยพรเป็นนายกฯอีก 4 ปี
20:51 น. 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ชี้ 'เนปาลโมเดล' คือบทเรียนความวุ่นวาย จากการแทรกแซงของตะวันตก
ดูทั้งหมด
โพสต์เด็ด! 'อาร์ต พศุตม์'พูดถึง'ทักษิณ'หลังศาลสั่งจำคุก 1 ปี
(คลิป) 'ทักษิณ' ติดคุก! อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
เกิดอะไรขึ้น? 'เปิ้ล นาคร'ออกประกาศร่อนจดหมายปลดพนักงาน
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'ตู่ นันทิดา'คัมแบ็กวงการบันเทิง! เปิดใจครั้งแรกสาเหตุยุติเส้นทางการเมือง
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 13 กันยายน 2568
หุ้นเด่น : 13 กันยายน 2568
จีนจัดระเบียบกัมพูชา ก่อนอาเซียนซัมมิตเดือนตุลาคม
ทหารห้องแอร์กับทหารรบจริง
บุคคลแนวหน้า : 13 กันยายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เสียงกรี๊ดสนั่นโดม! แม่ทัพภาคที่ 2 ขวัญใจโซเชียล พบปะนักเรียนชายแดน อย่างเป็นกันเอง

(ว่าที่)สะใภ้นายกฯกริบ! 'เพลง ชนม์ทิดา'อัพสตอรีออกกำลังกาย ไร้โมเมนต์อวยพรวันเกิด'อนุทิน'

หนึ่งเดียวในเอเชีย! 'บิว'ทะยานรอบรองกรีฑาโลก (ชมคลิป)

ดาราดัง'โอ๊ต วรวุฒิ'พูดตรงๆหาเงินใช้หนี้ ประกาศขายที่ดิน3ไร่ที่ชะอำ

ปืนโหด!ถล่มเจ้าป่ายับ3-0ขึ้นฝูงชั่วคราว

'ภท.'คึกคักช่วงเย็น! 'นิพนธ์'กระซิบอวยพร 'อนุทิน' ส่งโค้ดลับ 4+4 นั่งนายกฯ 4 เดือน + 4 ปี

  • Breaking News
  • เสียงกรี๊ดสนั่นโดม! แม่ทัพภาคที่ 2 ขวัญใจโซเชียล พบปะนักเรียนชายแดน อย่างเป็นกันเอง เสียงกรี๊ดสนั่นโดม! แม่ทัพภาคที่ 2 ขวัญใจโซเชียล พบปะนักเรียนชายแดน อย่างเป็นกันเอง
  • (ว่าที่)สะใภ้นายกฯกริบ! \'เพลง ชนม์ทิดา\'อัพสตอรีออกกำลังกาย ไร้โมเมนต์อวยพรวันเกิด\'อนุทิน\' (ว่าที่)สะใภ้นายกฯกริบ! 'เพลง ชนม์ทิดา'อัพสตอรีออกกำลังกาย ไร้โมเมนต์อวยพรวันเกิด'อนุทิน'
  • หนึ่งเดียวในเอเชีย! \'บิว\'ทะยานรอบรองกรีฑาโลก (ชมคลิป) หนึ่งเดียวในเอเชีย! 'บิว'ทะยานรอบรองกรีฑาโลก (ชมคลิป)
  • ชื่นมื่น!!! แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี \'อนุทิน\' อวยพรเป็นนายกฯอีก 4 ปี ชื่นมื่น!!! แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี 'อนุทิน' อวยพรเป็นนายกฯอีก 4 ปี
  • \'อดีตบิ๊กข่าวกรอง\' ชี้ \'เนปาลโมเดล\' คือบทเรียนความวุ่นวาย จากการแทรกแซงของตะวันตก 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ชี้ 'เนปาลโมเดล' คือบทเรียนความวุ่นวาย จากการแทรกแซงของตะวันตก
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทักษิณหนีคดีอีกแล้ว แต่จะไม่กลับมาอีก???

ทักษิณหนีคดีอีกแล้ว แต่จะไม่กลับมาอีก???

7 ก.ย. 2568

มีนายกรัฐมนตรีใหม่ ประเทศไทยจะดีขึ้นหรือไม่

มีนายกรัฐมนตรีใหม่ ประเทศไทยจะดีขึ้นหรือไม่

31 ส.ค. 2568

นายกรัฐมนตรีขายชาติได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ใช่ไหม

นายกรัฐมนตรีขายชาติได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ใช่ไหม

24 ส.ค. 2568

เมื่อนายกรัฐมนตรีขายชาติ ชาติไม่พินาศได้อย่างไร

เมื่อนายกรัฐมนตรีขายชาติ ชาติไม่พินาศได้อย่างไร

17 ส.ค. 2568

การแถลงนโยบาย ประจำปี 2025 โดยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ที่ไทยน่าจะนำมาศึกษา

การแถลงนโยบาย ประจำปี 2025 โดยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ที่ไทยน่าจะนำมาศึกษา

10 ส.ค. 2568

รัฐบาลชุดปัจจุบัน รักษาผลประโยชน์แห่งชาติ จริงหรือ

รัฐบาลชุดปัจจุบัน รักษาผลประโยชน์แห่งชาติ จริงหรือ

3 ส.ค. 2568

กัมพูชารุกรานไทย ยิงจรวดใส่ soft target

กัมพูชารุกรานไทย ยิงจรวดใส่ soft target

27 ก.ค. 2568

ทักษิณ ชินวัตร จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์?

ทักษิณ ชินวัตร จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์?

20 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved