วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
.jpg)
มีคำอธิบายอะไรที่มันฟังเข้าท่า หากรัฐจะจ่ายเงินแพงกว่าที่ควรจะเป็นอย่างน้อย 68,000ล้านบาท????
ย้ำ... เงิน 68,000 ล้านบาท
นั่นมันเท่ากับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาตลอดสาย หรือจะเอาไปซื้อหัวจักรรถไฟมาเพิ่มบริการประชาชนก็จะได้ไม่ต่ำกว่า 500 หัวจักร หรือจะเอาไปซื้อเครื่องฟอกไตนำไปไว้คอยช่วยชีวิตชาวบ้านตามโรงพยาบาลระดับตำบลทั่วประเทศจะได้ไม่น้อยกว่า 100,000 เครื่อง!!!
มันมีเหตุผลอะไรที่รัฐจะจ่ายเงินแพงกว่าที่ควรจะเป็นอย่างน้อย 6.8 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ได้เอกชนเข้ามาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตกช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ และเดินรถตลอดสาย กับงานซ่อมบำรุง ทั้งๆ ที่ หากไม่ล้มการประมูลครั้งแรก ก็จะได้ประหยัดเงินส่วนนี้ได้แน่นอน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องคิดให้หนัก ตั้งหลักให้ดี ถ้าจะปล่อยให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่กำลังดำเนินการประมูลคัดเลือกเอกชนอยู่เดินไปตามนั้น ท่ามกลางข้อครหาท้วงติง
เอาเป็นว่า ถ้า รฟม.เสนอมาให้พิจารณา โดยไม่มีคำอธิบายที่มันเข้าท่า ก็ขอให้ทราบเถิดว่า เขากำลังมองท่านเป็นเหมือน รปภ. ตามที่นักพูดตลกเขาเย้ยหยันนั่นเอง
1. เงิน 6.8 หมื่นล้าน มาจากไหน ?
ในการประมูลครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 รฟม.ประกาศเชิญชวนเอกชนให้ร่วมลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) และเดินรถตลอดสายทั้งช่วงตะวันตกและตะวันออก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) แต่ในระหว่างการประมูล รฟม. ได้เปลี่ยนเกณฑ์ประมูล ทำให้ BTSC ฟ้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาว่า เกณฑ์ประมูลเดิมชอบด้วยกฎหมายแล้ว และการแก้ไขเกณฑ์ประมูลนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย (แต่ รฟม.ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด)
ในการประมูลครั้งที่ 1 นั้น มีเอกชนยื่นข้อเสนอ 2 ราย ประกอบด้วย (1) BTSC และ (2) BEM
เมื่อล้มการประมูลครั้งที่ 1 ไปแล้ว รฟม.ก็เปลี่ยนแปลงแก้ไขเงื่อนไขการประมูลใหม่ เปิดประมูลครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้ บริษัท BTSC และพันธมิตร ไม่สามารถเข้าร่วมประมูลตามเงื่อนไขใหม่ได้เสียแล้ว ยังผลให้บริษัท BEM ชนะไป ด้วยข้อเสนอผลตอบแทนดีที่สุด
แม้การประมูลครั้งที่ 1 จะถูกล้มไปแล้ว แต่เมื่อเร็วๆ นี้ BTSC ได้ขอเอกสารที่ยื่นประมูลคืนจาก รฟม. และได้เปิดซอง “ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน” ต่อหน้าสื่อมวลชน พบว่า BTSC ได้เสนอเงินตอบแทนให้ รฟม. 70,144.98 ล้านบาท และขอรับเงินสนับสนุนค่าก่อสร้างจาก รฟม. 79,820.40 ล้านบาท
ดังนั้น หลังจากหักเงินตอบแทนที่ BTSC เสนอให้ รฟม. แล้ว (79,820.40-70,144.98)
เท่ากับว่า รฟม.จะต้องให้เงินสนับสนุนแก่ BTSC แค่ 9,675.42 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับเงินที่ รฟม. จะต้องสนับสนุนผู้ชนะการประมูล ครั้งที่ 2 คือ BEM ทำให้ผู้ติดตามการประมูลช็อค ขนแขนสแตนด์อัพ เพราะกรณีไม่ล้มการประมูลครั้งที่ 1 อาจเป็นไปได้ที่ BTSC จะชนะการประมูล ส่งผลให้ รฟม. จะต้องให้เงินสนับสนุนเพียง 9,675.42 ล้านบาทเท่านั้น แต่กรณีล้มการประมูลครั้งที่ 1 และเปิดการประมูลครั้งที่ 2 ทำให้ รฟม. ต้องให้เงินสนับสนุนเพิ่มขึ้นเป็น 78,287.95 ล้านบาท
เท่ากับว่า รฟม.ต้องให้เงินสนับสนุนมากขึ้นถึง 68,612.53 ล้านบาท (78,287.95-9,675.42)
2. แม้ภายหลัง รฟม.จะออกเอกสารข่าวชี้แจง แต่ก็ยังฟังไม่ขึ้น
ล่าสุด ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ จึงได้มีข้อเสนอที่น่ารับฟังว่า “รฟม. ตอบไม่ตรงคำถามเปิดเวทีเสวนาดีกว่า ! ปมส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน ประมูลสายสีส้ม”
เนื้อหาบางตอน พึงสดับพิจารณา เพื่อปกป้องดูแลผลประโยชน์ของแผ่นดินส่วนรวม ระบุว่า
“...เพื่อให้สาธารณชนหายเคลือบแคลงสงสัย ผมจึงได้เสนอให้ รฟม. และ ACT พิจารณาดำเนินการดังนี้
(1) รฟม. ควรเปิดเผยรายงานการประชุม และ/หรือ เทปบันทึกเสียงให้เห็นว่ามีการทักท้วงจากผู้สังเกตการณ์หรือไม่ ?
(2) ACT ควรเปิดเผยความเห็นของผู้สังเกตการณ์ว่ามีการทักท้วงการประมูลอย่างไร? หรือไม่?
(3) กรณี ITD ซึ่งมีกรรมการคนหนึ่งได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก อาจทำให้มีคุณสมบัติขัดหรือแย้งกับประกาศของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ทั้งนี้ รฟม. เคยให้ข่าวว่า จะสอบถามขอความกระจ่างไปยังคณะกรรมการฯ ถึงเวลานี้ รฟม. ควรเปิดเผยความเห็นของคณะกรรมการฯ ว่ามีความเห็นอย่างไร ? อีกทั้งรฟม. ควรเปิดเผยรายงานการประชุม และ/หรือ เทปบันทึกเสียงให้เห็นว่ามีการทักท้วงกรณีคุณสมบัติของ ITD หรือไม่ ?
รฟม. ไม่ได้ชี้แจงข้อเสนอแนะของผมในส่วนที่ รฟม. เกี่ยวข้องตามข้อ (1) และ ข้อ (3) ดังกล่าวข้างต้น
....
ปมปริศนาที่ทำให้เกิดส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน มี 2 ปมหลัก ผมจึงอยากให้ รฟม. ช่วยไขปมปริศนาดังกล่าวซึ่งประกอบด้วย
(1) ในการประมูลครั้งที่ 1 เหตุใด รฟม. จึงเปลี่ยนเกณฑ์ประมูล แล้วนำไปสู่การล้มประมูลในที่สุด? การเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลเป็นไปตามคำขอของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD หลังจาก ITD ได้ขอให้เปลี่ยนเพียงแค่ 2 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่ รฟม. ได้ใช้เวลาศึกษามาอย่างละเอียดรอบคอบถึงเกือบ 2 ปี
ข้อสังเกตของผมก็คือ หาก รฟม. ไม่เปลี่ยนเกณฑ์ประมูลและไม่ล้มประมูล มีความเป็นไปได้ที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ร่วมกับบริษัทซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC จะชนะการประมูล เพราะขอรับเงินสนับสนุนค่าก่อสร้างจาก รฟม. ต่ำแค่เพียง 9,675.42 ล้านบาท
(2) ในการประมูลครั้งที่ 2 เหตุใด รฟม. จึงเพิ่มคุณสมบัติของผู้รับเหมาขึ้น แต่ลดคุณสมบัติของผู้เดินรถไฟฟ้าลง ? ในทางที่ถูกต้อง หาก รฟม. ต้องการได้ผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติสูงขึ้น ก็ควรเพิ่มคุณสมบัติทั้งของผู้รับเหมาและของผู้เดินรถไฟฟ้า ไม่ใช่เพิ่มคุณสมบัติของผู้รับเหมาขึ้น แต่ลดคุณสมบัติของผู้เดินรถไฟฟ้าลง
ข้อสังเกตของผมก็คือ หาก รฟม.เพิ่มคุณสมบัติของผู้เดินรถไฟฟ้าขึ้น หรือคงคุณสมบัติไว้เท่าเดิมเป็นอย่างน้อย จะทำให้ Incheon Transit Corporation หรือ ITC ผู้เดินรถไฟฟ้าจากเกาหลีใต้ไม่สามารถร่วมยื่นประมูลกับ ITD ได้ จะทำให้เหลือเอกชนที่สามารถยื่นข้อเสนอได้เพียงรายเดียวเท่านั้น นั่นคือบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ซึ่งขอรับเงินสนับสนุนค่าก่อสร้างจาก รฟม. สูงถึง 78,287.95 ล้านบาท ในกรณีมีเอกชนยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว รฟม. จะสามารถดำเนินการประมูลได้สำเร็จหรือไม่ ?
.... เสนอให้จัด “เวทีเสวนา” การตอบโต้กันด้วยข้อเขียนเป็นการยากที่จะทำให้สาธารณชนเข้าใจได้ ผมจึงขอเสนอแนะให้ รฟม. หรือ ACT พิจารณาจัดเวทีเสวนา “ไขปมปริศนาส่วนต่าง6.8 หมื่นล้าน ประมูลสายสีส้ม” ขึ้น โดยให้มีผู้เกี่ยวข้องครบทุกฝ่าย ทั้งผู้แทนจาก รฟม.และผู้แทนจาก ACT รวมทั้งผม (ดร.สามารถ)ด้วย...”
ขอสนับสนุนแนวทางข้อเสนอของ ดร.สามารถ และจะติดตามนำข้อมูลที่มีประโยชน์จากเวทีเสวนามาเผยแพร่ต่อด้วยอีกแรง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม ให้สังคมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน อย่างแท้จริง
สันติสุข มะโรงศรี

‘อดีตผู้พิพากษา’ชี้นายกฯยุบสภาได้ จนกว่าประธานสภาบรรจุวาระยื่นซักฟอก
ดราม่าระดับชาติ! ดาราฟิลิปปินส์ถ่ายพรีเวดดิ้งบนตู้กดน้ำในญี่ปุ่น โดนวิจารณ์แรงจนต้องลบรูป
นายกฯ นำคณะบินเหนือ ตรวจราชการเชียงใหม่ ลั่นเน้นงานราชการ การเมืองไว้ก่อน
'ดร.จักษ์' เปรียบฝ่ายอนุรักษ์ 'ตลาดนัดนักการเมือง' ชี้แพ้เพราะชอบฆ่ากันเอง
'มดดำ'เปิดแชทเพื่อนสนิท หลังเจอโยง 'น.' ชวนลงทุนเสียหาย 400 ล้าน!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี