วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568
กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนโยบายขายที่ดินให้แก่ชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ต่อเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 14กันยายน 2564 และวันที่ 24 มกราคม 2565 กระทั่ง25 ตุลาคม 2565 คณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. ....ของกระทรวงมหาดไทยซึ่งร่างกฎกระทรวงนี้จะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
กลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภท ที่สามารถได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้แก่ 1.กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง, 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ, 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และ 4.กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
โดยจำนวนเนื้อที่ที่ได้รับสิทธิ ไม่เกิน 1 ไร่ตามมาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งต้องใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตนเอง ภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาลหรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
ต่างชาติที่เข้าข่ายถือครองที่ดินตามร่างกฎกระทรวงนี้ต้องมีจำนวนเงินลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใด ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน หากถอนการลงทุนในธุรกิจ หรือกิจการก่อนครบกำหนดเวลาการดำรงทุน ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ถอนการลงทุน
มาตรการนี้นักการเมืองฝ่ายค้านออกมาประดิษฐ์ วาทกรรมสาดโคลนโยนขี้ว่า “ขายชาติ”
“ภูมิธรรม เวชยชัย”อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และแกนนำกลุ่มส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี”ที่เหนียวแน่นพอกับกลุ่ม “แคร์ คิด เคลื่อน ไทย”ได้แชร์ข้อความใน “ทวิตเตอร์”สื่อออนไลน์ยอดฮิตในโลกโซเชียลที่ว่า “สลิ่มไม่กรี๊ดแล้วน่ะ สลิ่มเงียบ นกหวีดติดคออยู่แอะ แอะ แอะ ... แล้วต่อด้วยข้อความว่า ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน 1 ไร่ ประเทศไทยจะไร้ประเทศไทยจะมีคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น ดีมานด์จะเพิ่มขึ้น ซัพพลายจะไม่พอ ชาวบ้านจะตาย คนจนไม่มีโอกาสมีบ้านอยู่…ถ้าทักษิณคิดน่ะ ขายชาติ แต่ถ้าตู่คิดคือกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่เป็นไรเป็นเรื่องของสลิ่ม ผมชอบลอดช่อง ผมไม่ใช่สลิ่ม”
เราก็ไม่ใช่สลิ่มตัวพ่อตัวแม่ แต่สามารถพูดแทนคนจำนวนหนึ่งที่รู้เล่ห์สัมภเวสีอย่างเท่าทันแบบเท่าเทียมได้ว่าเหตุที่ทักษิณคิดจะถูกประณามว่า “ขายชาติ” ในขณะที่“ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”คิดเรียกกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะสังคมส่วนใหญ่เขารู้ทันจากปูมหลังจากกำพืดสาแหรก
กำพืดบอกทุกอย่างที่ควรจะเป็นได้ดี กำพืดต้นตระกูลมาอย่างไร “ภูมิธรรม เวชยชัย” ลองไปหาอ่านดูเถอะจะรู้ว่าทำไมถึงเป็นเยี่ยงนั้นจึงเข้ากับหลากหลายสุภาษิตคำพังเพยสอนไว้แต่โบราณ อาทิ ผลไม้พิษจากต้นไม้พิษจึงไม่ต้องชำแหละกำพืด...สาแหรกของผู้ที่ถูกกล่าวถึงทั้งสอง เราเชื่อว่าสังคมไทยทราบกำพืดรู้สาแหรก แต่ละตระกูลดี
โบราณจึงว่าไว้ “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”

อย่าปล่อยเป็นแค่ดินในสายตาคนอื่น! ‘ไทยก้าวใหม่’ แนะรัฐเข้มนโยบาย-วิจัย ‘แร่แรร์เอิร์ธ’ เพื่อมั่นคง
ลุยสร้าง ‘องค์กรสุขภาวะ’ แก้โรคฮิตคนทำงาน
‘บิ๊กเล็ก’ชี้ไทย-กัมพูชาถอนอาวุธ 26 ต.ค.เป็นเชิงสัญลักษณ์ วางไทม์ไลน์ 6 สัปดาห์ 3 เฟส
งามไส้! รวบ‘พ.ต.ท.’เอี่ยวแก๊งคอลฯ ‘ผบช.น.-ผบก.น.2’สั่งสอบ-ไล่ออกจากราชการ
ลูกชายเดือด! ‘ตามต่อยลูกค้าสลบ’ หลังพูดจาลวนลามแม่-เด็กเชียร์เบียร์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี