วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บทบรรณาธิการ
บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ

วันอังคาร ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
เศรษฐกิจการเงินไทยมั่นคงที่สุด

ดูทั้งหมด

  •  

คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เป็นคณะกรรมการหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรับผิดชอบด้านการกำหนดทิศทางของนโยบายการเงิน โดยทำงานติดตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ การกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของ กนง. จะพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ ที่ ธปท. นำเสนอให้ทราบ จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวไปกลั่นกรองพิจารณาในที่ประชุม เพื่อกำหนดทิศทางของนโยบายการเงินของชาติ

คณะกรรมการนโยบายการเงินตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2551 ซึ่ง อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงินคือทำหน้าที่กำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินของประเทศ โดยคำนึงถึงแนวนโยบายแห่งรัฐ สภาวะเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ และกำหนดนโยบายการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราภายใต้ระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราตามกฎหมายว่าด้วยเงินตรา


เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงินแถลงผลการประชุมว่าคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นแรงส่งสำคัญและช่วยลดทอนผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการครั้งก่อนจากราคาพลังงานแต่จะยังคงโน้มลดลงและกลับสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566 เห็นว่าการทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังกล่าว

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.2% 3.7% และ 3.9% ในปี 2565, 2566 และ 2567 ตามลำดับ ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนสะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชนได้รับแรงสนับสนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจรวมถึงการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ปรับดีขึ้น ภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นแรงส่งสำคัญต่อเนื่องในปี 2566 และ 2567 ทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังใกล้เคียงเดิมหรือดีขึ้น

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ที่ 6.3%, 3.0% และ 2.1% ในปี 2565, 2566 และ 2567 ตามลำดับ ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนโดยรวมปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภาวะการเงินโดยรวมผ่อนคลาย ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนทยอยปรับสูงขึ้นสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่โดยรวมยังเอื้อต่อการระดมทุนของประเทศ

อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐของไทยล่าสุดเงินบาทแข็งขึ้นแล้วในวันที่ 2 ธ.ค. 2565 ค่าเงินอยู่ที่ 34.82 บาทแล้วราคาต่ำกว่า 35 บาท แสดงว่าค่าเงินดอลลาร์ไม่สามารถกดดันเงินบาทไทยได้แล้วและชูให้เห็นภาพว่าเงินบาทกำลังพุ่งเป็นสกุลเงินของอาเซียน 10 ประเทศเหนือกว่าเพื่อนบ้านรอบๆ ประเทศทั้ง มาเลเซีย, สปป.ลาว, กัมพูชา, เวียดนามและเมียนมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยในยุคหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดียิ่งชนิดเหนือชั้นของจริง

เพราะฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่อิงระบอบการเมืองเศรษฐกิจตะวันตก รวมไปท่านทั้งหลายต้องนำกลับไปทบทวนใหม่ว่า แผนยึดอำนาจการเมืองในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2566 นั้นใครจะชนะเลือกตั้ง ในเมื่อกลุ่มเจ้าสัวใหญ่ๆ ส่วนมากร้อยละ 80 ยังสนับสนุนรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่อย่างเหนียวแน่นสุดๆ นำพาประเทศไปสู่คำขวัญที่ว่า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
19:01 น. เลขาฯกกต. แจงข้อกฎหมาย หากคนละครึ่งพลัส ไปต่อใน ครม.รักษาการ
18:50 น. กกต.รับมีช่องทาง รัฐบาลอนุทิน อยู่ยาว ขยายวันเลือกตั้งเกิน 60 วันได้
18:46 น. ‘ตม.อุบลราชธานี’พร้อมหน่วยความมั่นคง ระดมตรวจสอบ‘ม.38’ต่างด้าว สกัด‘สแกมเมอร์’
18:40 น. วงการอาหารอาลัย เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟประเทศไทย เสียชีวิต
18:36 น. ‘ในหลวง‘ โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้และสิ่งของพระราชทานให้ทหารบาดเจ็บกรณีสู้รบไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 7-13 ธ.ค.68
เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
ปรากฏการณ์ใหม่! ‘ประชาธิปัตย์ กทม.’ผู้สนใจเสนอตัวกว่า 150 คน 33 เขต เตรียมเปิดโชว์วิสัยทัศน์
‘ในหลวง-ราชินี’เสด็จพิธีเปิดซีเกมส์2025
ดูทั้งหมด
อว.เร่งนำงานวิจัยสู้ภัยพิบัติ-เยียวยาประชาชน ชง ‘คืนค่าเทอม-เลื่อนสอบ’ บรรเทาผลกระทบ
ก.ม.แรงงานใหม่ คุ้มครองการคลอดบุตร
สุดด้านฟันไม่เข้า?
เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร
บุคคลแนวหน้า : 12 ธันวาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เลขาฯกกต. แจงข้อกฎหมาย หากคนละครึ่งพลัส ไปต่อใน ครม.รักษาการ

กกต.รับมีช่องทาง รัฐบาลอนุทิน อยู่ยาว ขยายวันเลือกตั้งเกิน 60 วันได้

วงการอาหารอาลัย เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟประเทศไทย เสียชีวิต

กัมพูชาเปิดตัวเลขผู้เสียชีวิต11ราย คนเขมรพลัดถิ่นกว่า200,000คน

เวย์ ไทยเทเนียม เข้าพบตำรวจรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์

เด็กๆจากศูนย์พักพิง ส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้าปลอดภัย

  • Breaking News
  • เลขาฯกกต. แจงข้อกฎหมาย หากคนละครึ่งพลัส ไปต่อใน ครม.รักษาการ เลขาฯกกต. แจงข้อกฎหมาย หากคนละครึ่งพลัส ไปต่อใน ครม.รักษาการ
  • กกต.รับมีช่องทาง รัฐบาลอนุทิน อยู่ยาว ขยายวันเลือกตั้งเกิน 60 วันได้ กกต.รับมีช่องทาง รัฐบาลอนุทิน อยู่ยาว ขยายวันเลือกตั้งเกิน 60 วันได้
  • ‘ตม.อุบลราชธานี’พร้อมหน่วยความมั่นคง ระดมตรวจสอบ‘ม.38’ต่างด้าว สกัด‘สแกมเมอร์’ ‘ตม.อุบลราชธานี’พร้อมหน่วยความมั่นคง ระดมตรวจสอบ‘ม.38’ต่างด้าว สกัด‘สแกมเมอร์’
  • วงการอาหารอาลัย เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟประเทศไทย เสียชีวิต วงการอาหารอาลัย เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟประเทศไทย เสียชีวิต
  • ‘ในหลวง‘ โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้และสิ่งของพระราชทานให้ทหารบาดเจ็บกรณีสู้รบไทย-กัมพูชา ‘ในหลวง‘ โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้และสิ่งของพระราชทานให้ทหารบาดเจ็บกรณีสู้รบไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ต้องเอาให้หลาบจำไป100ปี

ต้องเอาให้หลาบจำไป100ปี

12 ธ.ค. 2568

รัฐธรรมนูญใหม่ แต่พฤติกรรมเก่า

รัฐธรรมนูญใหม่ แต่พฤติกรรมเก่า

11 ธ.ค. 2568

เผด็จศึกกัมพูชา

เผด็จศึกกัมพูชา

10 ธ.ค. 2568

อย่าด่วนตัดสินกันด้วยภาพ

อย่าด่วนตัดสินกันด้วยภาพ

9 ธ.ค. 2568

คุณรู้จักผมน้อยไป

คุณรู้จักผมน้อยไป

8 ธ.ค. 2568

เบน, ทักษิณ, อนุทิน, แพทองธาร

เบน, ทักษิณ, อนุทิน, แพทองธาร

7 ธ.ค. 2568

เปิดหน้าแล้วว่าใครสนิทกับเบน สมิธ

เปิดหน้าแล้วว่าใครสนิทกับเบน สมิธ

6 ธ.ค. 2568

จะไม่ใช่วิกฤตครั้งสุดท้าย

จะไม่ใช่วิกฤตครั้งสุดท้าย

5 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved