วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บทบรรณาธิการ
บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ

วันอังคาร ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
เศรษฐกิจการเงินไทยมั่นคงที่สุด

ดูทั้งหมด

  •  

คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เป็นคณะกรรมการหลักของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรับผิดชอบด้านการกำหนดทิศทางของนโยบายการเงิน โดยทำงานติดตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ การกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของ กนง. จะพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ ที่ ธปท. นำเสนอให้ทราบ จากนั้นจะนำข้อมูลดังกล่าวไปกลั่นกรองพิจารณาในที่ประชุม เพื่อกำหนดทิศทางของนโยบายการเงินของชาติ

คณะกรรมการนโยบายการเงินตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย 2551 ซึ่ง อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงินคือทำหน้าที่กำหนดเป้าหมายของนโยบายการเงินของประเทศ โดยคำนึงถึงแนวนโยบายแห่งรัฐ สภาวะเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ และกำหนดนโยบายการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราภายใต้ระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราตามกฎหมายว่าด้วยเงินตรา


เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงินแถลงผลการประชุมว่าคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นแรงส่งสำคัญและช่วยลดทอนผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการครั้งก่อนจากราคาพลังงานแต่จะยังคงโน้มลดลงและกลับสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566 เห็นว่าการทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังกล่าว

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.2% 3.7% และ 3.9% ในปี 2565, 2566 และ 2567 ตามลำดับ ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนสะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชนได้รับแรงสนับสนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจรวมถึงการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ปรับดีขึ้น ภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นแรงส่งสำคัญต่อเนื่องในปี 2566 และ 2567 ทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังใกล้เคียงเดิมหรือดีขึ้น

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ที่ 6.3%, 3.0% และ 2.1% ในปี 2565, 2566 และ 2567 ตามลำดับ ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนโดยรวมปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภาวะการเงินโดยรวมผ่อนคลาย ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนทยอยปรับสูงขึ้นสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่โดยรวมยังเอื้อต่อการระดมทุนของประเทศ

อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐของไทยล่าสุดเงินบาทแข็งขึ้นแล้วในวันที่ 2 ธ.ค. 2565 ค่าเงินอยู่ที่ 34.82 บาทแล้วราคาต่ำกว่า 35 บาท แสดงว่าค่าเงินดอลลาร์ไม่สามารถกดดันเงินบาทไทยได้แล้วและชูให้เห็นภาพว่าเงินบาทกำลังพุ่งเป็นสกุลเงินของอาเซียน 10 ประเทศเหนือกว่าเพื่อนบ้านรอบๆ ประเทศทั้ง มาเลเซีย, สปป.ลาว, กัมพูชา, เวียดนามและเมียนมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยในยุคหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดียิ่งชนิดเหนือชั้นของจริง

เพราะฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่อิงระบอบการเมืองเศรษฐกิจตะวันตก รวมไปท่านทั้งหลายต้องนำกลับไปทบทวนใหม่ว่า แผนยึดอำนาจการเมืองในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2566 นั้นใครจะชนะเลือกตั้ง ในเมื่อกลุ่มเจ้าสัวใหญ่ๆ ส่วนมากร้อยละ 80 ยังสนับสนุนรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่อย่างเหนียวแน่นสุดๆ นำพาประเทศไปสู่คำขวัญที่ว่า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:12 น. ฮ่องกงรวบ13ราย ผู้ต้องสงสัยเหตุไฟไหม้ตึกสังเวย 151 ศพ
15:10 น. ทำงาน ทำงาน ทำงาน คำพูดเด็ดของนายกฯญี่ปุ่น ผงาดคว้ารางวัลวลีแห่งปี2025
15:06 น. 'ครม.'รับทราบปี68 ประชาชนร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 134,999 ครั้ง 63,541 เรื่อง ได้ข้อยุติ 55,940 เรื่อง
15:06 น. ตม.อุบลฯจับตามหมายจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหายักยอกทรัพย์
15:06 น. หนุ่มลูกครึ่งมาเลย์วัย17 ซึมเศร้าโดดโรงแรม รอดปาฏิหาริย์ค้างอยู่ชั้น3
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค.68
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568
มาแล้ว กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 28 พ.ย.-4 ธ.ค.68
ราชทัณฑ์ แจงปมภาพถ่ายครอบครัว'ทักษิณ' ชี้โครงการ เยี่ยมญาติใกล้ชิด จัดมาแล้วหลายปี 
ถึงบางอ้อ นักเขียนซีไรต์ เล่าเรื่องราว เขต 8 หาดใหญ่
ดูทั้งหมด
ฆาตกรรมที่นำไปสู่ละครบรอดเวย์
เดี๋ยวก็ผ่านไป
ธรรมชาติเช็คบิล
ลดเพดานค่าโดยสารเครื่องบินในประเทศ ลดพื้นที่ขูดรีดประชาชน
บุคคลแนวหน้า : 2 ธันวาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฮ่องกงรวบ13ราย ผู้ต้องสงสัยเหตุไฟไหม้ตึกสังเวย 151 ศพ

ทำงาน ทำงาน ทำงาน คำพูดเด็ดของนายกฯญี่ปุ่น ผงาดคว้ารางวัลวลีแห่งปี2025

หนุ่มลูกครึ่งมาเลย์วัย17 ซึมเศร้าโดดโรงแรม รอดปาฏิหาริย์ค้างอยู่ชั้น3

พัทยา PM2.5 พุ่ง! เช้านี้แตะ 92.8 ไมโครกรัม เข้าขั้นกระทบต่อสุขภาพ

'พัฒนา​'เมิน​'บิ๊กโจ๊ก'ปูดตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน​ บอก​หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร

วิกฤตขยะหาดใหญ่หลังน้ำลด! กองเป็นภูเขาสูงท่วมแยกสะพานดำ เทศบาลระดมเคลียร์พื้นที่ 24 ชม.

  • Breaking News
  • ฮ่องกงรวบ13ราย ผู้ต้องสงสัยเหตุไฟไหม้ตึกสังเวย 151 ศพ ฮ่องกงรวบ13ราย ผู้ต้องสงสัยเหตุไฟไหม้ตึกสังเวย 151 ศพ
  • ทำงาน ทำงาน ทำงาน คำพูดเด็ดของนายกฯญี่ปุ่น ผงาดคว้ารางวัลวลีแห่งปี2025 ทำงาน ทำงาน ทำงาน คำพูดเด็ดของนายกฯญี่ปุ่น ผงาดคว้ารางวัลวลีแห่งปี2025
  • \'ครม.\'รับทราบปี68 ประชาชนร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 134,999 ครั้ง 63,541 เรื่อง ได้ข้อยุติ 55,940 เรื่อง 'ครม.'รับทราบปี68 ประชาชนร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 134,999 ครั้ง 63,541 เรื่อง ได้ข้อยุติ 55,940 เรื่อง
  • ตม.อุบลฯจับตามหมายจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหายักยอกทรัพย์ ตม.อุบลฯจับตามหมายจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหายักยอกทรัพย์
  • หนุ่มลูกครึ่งมาเลย์วัย17 ซึมเศร้าโดดโรงแรม รอดปาฏิหาริย์ค้างอยู่ชั้น3 หนุ่มลูกครึ่งมาเลย์วัย17 ซึมเศร้าโดดโรงแรม รอดปาฏิหาริย์ค้างอยู่ชั้น3
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

กติกาที่ควรปรับปรุงใหม่

กติกาที่ควรปรับปรุงใหม่

2 ธ.ค. 2568

บททดสอบภาวะผู้นำ

บททดสอบภาวะผู้นำ

1 ธ.ค. 2568

นักการเมืองไปช่วยชาวบ้าน หรือไปแย่งคะแนนเลือกตั้ง

นักการเมืองไปช่วยชาวบ้าน หรือไปแย่งคะแนนเลือกตั้ง

30 พ.ย. 2568

นายกรัฐมนตรีมีไว้เพื่อ....

นายกรัฐมนตรีมีไว้เพื่อ....

29 พ.ย. 2568

หาดใหญ่จะไม่เหมือนเดิม

หาดใหญ่จะไม่เหมือนเดิม

28 พ.ย. 2568

บทบรรณาธิการ : สามัคคีทุกฝ่าย สู้ภัยพิบัติ

บทบรรณาธิการ : สามัคคีทุกฝ่าย สู้ภัยพิบัติ

27 พ.ย. 2568

บ้านเมืองวิบัติ วินาศ วิกฤต วิปโยค แต่นักการเมืองยังสุขสบาย

บ้านเมืองวิบัติ วินาศ วิกฤต วิปโยค แต่นักการเมืองยังสุขสบาย

26 พ.ย. 2568

แผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา

แผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มเจ้าพระยา

25 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved