วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
คลังต้องเคลียร์ รับเงินรางวัลหวยจากแพลตฟอร์มเอกชน

ดูทั้งหมด

  •  

คุณถนอม อ่อนเกตุพล พิธีกรรายการข่าว ช่อง NBT ได้โพสต์ข้อความเตือนผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“ด่วน! คนถูกรางวัลใหญ่อาจจะซวย โดยไม่รู้ตัว


ผมได้รับแจ้งจาก สำนักงานสลากฯ และกรมสรรพากรว่า คนที่ถูกรางวัลใหญ่ลอตเตอรี่ที่ท่านไม่ได้ไปขึ้นเงินกับสำนักงานสลากเอง แต่ให้บริษัทที่ท่านซื้อและถูกไปขึ้นเงินให้ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายอะไรจากท่าน โดยบริษัทอ้างว่า จ่ายภาษีให้แทนนั้น

ระวังนะ! การไปขึ้นเงินแบบนั้น เขาเอาบัตร ปชช.ของคนขายไปขึ้นรางวัลเอง ไม่ใช่คนซื้อแบบนี้ จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้

ถ้าถูกรางวัล ตั้งแต่ 6 ล้านบาท ขึ้นไป ท่านจะต้องถูกสรรพากรประเมินภาษีเงินได้สูงถึง 35%ของเงินรางวัล เช่น รางวัลที่ 1 รับ 6 ล้าน ต้องเสียภาษี 2.1 ล้านบาท ทั้งนี้ เพราะกฎหมายยกเว้นให้เฉพาะคนที่ขึ้นเงินกับสำนักงานสลากเท่านั้น ส่วนคนที่ไปรับเงินจากบริษัทที่ขายไม่ได้รับการยกเว้น (นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร) ตอบครับ

ยกเว้นท่านไปขึ้นเงินเองกับสำนักงานสลากฯ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ทั้งหมด เสียเพียงค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือ 6 ล้าน เสีย 30,000 บาท เท่านั้น

ทราบแล้ว ใครที่ถูกรางวัล และไม่ได้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัลด้วยตนเอง เตรียมตัวพบสรรพากรได้นะครับ ...ผมเตือนแล้วนะ”

1.นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซีอีโอกองสลากพลัส ชี้แจงว่า “ผมเป็นตัวแทนขึ้นเงินรางวัล สามารถทำการแทนผู้ถูกรางวัลได้ครับ”

พูดง่ายๆ อ้างว่า มีการทำหนังสือให้ความยินยอมจ่ายเงินรางวัลให้กับนายนอทในฐานะผู้รับซื้อรางวัล

น่าสนใจว่า การกระทำเช่นนี้ ทำได้จริงหรือไม่? ถูกต้องหรือไม่? ตรงไปตรงมาตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่?

2.ประเด็นปัญหาที่นายถนอมนำเสนอข้างต้นนั้น น่าสนใจ

และเป็นปมที่ธุรกิจแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์นำมาใช้โหมทำการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างหนักหน่วง

แหล่งข่าวจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การที่แพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัทเอกชน ได้โหมทำการประชาสัมพันธ์ กรณีถูกรางวัลจะมีการนำเงินสดไปมอบให้แล้วนำมาเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล โดยไม่มีสื่อสารถึงการหักค่าอากรแสตมป์ หรือ ค่าธรรมเนียมใดๆ มีข้อเท็จจริงที่ต้องรับรู้ว่าในช่วงสิ้นปี บุคคลผู้ถูกรางวัลใหญ่ๆ เหล่านั้น ต้องถูกกรมสรรพากรจัดเก็บภาษีเงินได้ แทนบริษัทเอกชนเจ้าของแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยหากเงินได้บุคคลธรรมดา เกิน 5 ล้านบาทต่อปี จะต้องถูกจัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าที่ 35% ของเงินได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ถูกรางวัลต้องเสียเงินมากกว่านำสลากฯ มาขึ้นรางวัลกับสำนักงานสลากฯ ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกิดขึ้นจากการถูกรางวัล

ยกตัวอย่าง นาย ก. เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากออนไลน์ และได้เปิดขายสลากให้ประชาชนทั่วไป และเมื่อมีผู้ถูกรางวัล จากแพลตฟอร์มของนาย ก. ในแต่ละงวดนาย ก. จะมีการไลฟ์สด โดยนำเงินส่วนตัวไปมอบให้แก่ผู้ถูกรางวัล เต็มจำนวน ทำให้ผู้ถูกรางวัลไม่ต้องถูกค่าอากรแสตมป์และค่าธรรมเนียม 1% จากการถูกรางวัล

ส่วนนาย ก. จะเป็นผู้ที่นำสลากที่ถูกรางวัล มาขึ้นเงินกับสำนักงานสลากฯ ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้จากการถูกรางวัล แต่เมื่อมีการคำนวณจ่ายภาษีเงินได้สิ้นปี ผู้ถูกรางวัลต้องเป็นผู้ยื่นแบบแสดงรายได้เพื่อชำระภาษี และมีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีในส่วนของเงินได้รับรางวัลซึ่งหากเงินที่ได้มาเกิน 5 ล้านบาท จะต้องเสียในอัตราก้าว 35% ซึ่งกรณี นาย ก. ไลฟ์สด พบมีผู้ถูกรางวัลสูงถึง 70 ล้านบาท เมื่อถูกนำมาหักภาษีในอัตรา 35% จะทำให้ประชาชนเจ้าของสลากฯนั้น ต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นจากการถูกรางวัลจากสำนักงานสลากโดยตรงอีกด้วย

นี่คือหลักการทั่วไป

แต่ถ้าแพลตฟอร์มใช้วิธีซิกแซกแบบทำหนังสือให้ความยินยอมจ่ายเงินรางวัลให้แก่นาย ก. จะสามารถทำได้หรือไม่?

ถ้าผู้ถูกรางวัลรอดภาษีเงินได้ แล้วนาย ก.จะรอดภาษีไปด้วยหรือไม่?

น่าสนใจมาก

3.ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวไทยพับลิก้า ได้รายงานว่า กรณีที่มีผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ของเอกชนบางรายจัดแคมเปญ นำเงินสดไปมอบให้กับลูกค้าที่ถูกรางวัลที่ 1 รางวัลละ 6 ล้านบาท จ่ายเต็ม 100% โดยไม่หักภาษี และค่าธรรมเนียมใดๆ พร้อมโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีก่อนเที่ยงคืนของวันที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกรางวัล โดยนำภาพการนำมอบเงินสดให้ลูกค้าหรือจัดทำคลิปวีดีโอเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียหลายช่องทาง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสลากกับแพลตฟอร์มออนไลน์รายดังกล่าวนี้

มีรายงานข่าวจากกรมสรรพากรว่า ในขณะนี้ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สรรพากร เข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว เพื่อกำหนดแนวทางการเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากับลูกค้าที่รับเงินสดจากแพลตฟอร์มออนไลน์เต็ม 100% โดยไม่หักภาษี และค่าธรรมเนียมใดๆ ถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลังในอัตราสูงสุดถึง 35% ของเงินได้พึงประเมิน

“...ในประมวลรัษฎากรกำหนดให้ผู้ที่ถูกรางวัลสลากมีหน้าที่ต้องเสียภาษี 2 กรณี คือ

กรณีที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 42 (11) แต่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์กับเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากฯ 0.5% ของเงินรางวัล ตามที่กำหนดในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ แต่ถ้าเป็นนิติบุคคลถูกรางวัล ก็เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดบทยกเว้นเอาไว้

กรณีที่ 2 สลากการกุศล ผู้ที่ถูกรางวัลไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ถูกรางวัลต้องยอมให้สำนักงานสลากฯ หักภาษี ณ ที่จ่าย 1%ของเงินรางวัลเพื่อนำส่งกรมสรรพากร โดยที่ไม่ขอเครดิตหรือขอคืนภาษีที่ถูกหักเอาไว้ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 10) 2500 มาตรา 5 จตุทศ แต่ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของเงินรางวัลไม่ต้องเสีย เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ยกเว้น

นี่คือหลักการของกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องกับเงินรางวัล

รวมแล้วผู้ที่ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลต้องเสียค่าอากรแสตมป์แค่ 0.5% ของเงินรางวัลเท่านั้น ส่วนผู้ที่ถูกรางวัลสลากการกุศล ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 1% ของเงินรางวัล

คราวนี้ มาดูแนวทางปฏิบัติในการขึ้นเงินรางวัลสลากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอยู่ 3 วิธี คือ

วิธีที่ 1 ผู้ถูกรางวัลมาขึ้นเงินรางวัลด้วยตนเองที่สำนักงานสลากฯ สนามบินน้ำ

ส่วนใหญ่เป็นบุคคลธรรมดา เพราะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้าเป็นนิติบุคคล ต้องเสียภาษีเงินได้ตามปกติ

โดยผู้ที่ถูกรางวัลต้องนำหลักฐานบัตรประชาชนหรือใบมอบอำนาจพร้อมบัตรประชาชนของผู้ถูกรางวัลมารับเงินแทน พร้อมทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริง นำมาขึ้นเงินรางวัลด้วยตนเองที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยเจ้าหน้าที่จะให้ผู้ที่ถูกรางวัลลงชื่อและนามสกุลด้านหลังสลาก และนำบัตรประชาชนเสียบเข้าเครื่อง บันทึกข้อมูลสลากและผู้ถูกรางวัลเก็บไว้ในฐานข้อมูลการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงานสลากฯ หลังจากตรวจสอบสลากด้วยเครื่องแบล็กไลท์เสร็จ ก็จ่ายเงินรางวัลที่ถูกหักค่าภาษี และค่าอากรแสตมป์

ยกตัวอย่าง กรณีถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลละ 6,000,000 ล้านบาท ก็จะถูกเจ้าพนักงานสลากฯ หักค่าอากรแสตมป์ 30,000 บาท ผู้ถูกรางวัลได้รับเงินจริง 5,970,000 บาท

แต่ถ้าเป็นกรณีถูกรางวัลที่ 1 สลากการกุศล ได้รับเงินรางวัลเท่ากัน แต่เจ้าพนักงานสลากฯหักภาษี ณ ที่จ่ายนำส่งกรมสรรพากร 1% หรือประมาณ 60,000 บาท ผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากการกุศล ได้รับเงินจริงแค่ 5,940,000 บาท

วิธีที่ 2 ขึ้นเงินรางวัลที่สาขาของธนาคารของรัฐ อันได้แก่ กรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานสลากฯ ให้เป็นตัวแทนในการจ่ายเงินรางวัล เสมือนไปขึ้นเงินรางวัลกับสำนักงานสลากฯ โดยตรง ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกรางวัลต้องนำหลักฐานบัตรประชาชนพร้อมสลากตัวจริงมาขึ้นเงินรางวัลด้วยตนเองได้ทุกรางวัล ยกเว้นรางวัลที่ 1 ต้องไปขึ้นเงินที่สำนักงานสลากฯ สนามบินน้ำ

กรณีนี้ธนาคารไม่รับมอบอำนาจให้มารับเงินแทน จากนั้นเจ้าหน้าที่ของธนาคารจะให้ผู้ที่มาขึ้นเงินรางวัลเขียนชื่อนามสกุลด้านหลังสลากเช่นเดียวกับที่ไปขึ้นเงินกับสำนักงานสลากฯ หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารบันทึกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ก็ส่งไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงานสลากฯ ก่อนจ่ายเงินรางวัลก็จะหักค่าธรรมเนียมของธนาคาร 1% ของเงินรางวัล ถ้าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลหักค่าอากรแสตมป์อีก 0.5% ของเงินรางวัล แต่ถ้าเป็นสลากการกุศล หักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ของเงินรางวัลนำส่งกรมสรรพากร

สรุปขึ้นเงินผ่านธนาคารจะถูกหักเงิน 1.5-2% ของเงินรางวัล

วิธีที่ 3 ขึ้นเงินกับร้านรับซื้อรางวัล

มีให้เห็นอยู่ทั่วไปตามตลาด หรือร้านขายทองบางแห่ง วิธีนี้ไม่ต้องใช้บัตรประชาชนโดยผู้ถูกรางวัลจะนำสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากการกุศลตัวจริงมาขายให้ร้านรับซื้อรางวัล เมื่อตรวจสอบความถูกต้องของสลากเสร็จเรียบร้อย ก่อนจ่ายเงินรางวัล ร้านรับซื้อรางวัลก็จะหักค่าธรรมเนียมในอัตรา 2-3% ของเงินรางวัล ซึ่งค่าธรรมเนียมดังกล่าวนี้ได้รวมค่าภาษีหรือค่าอากรแสตมป์ไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้นร้านรับซื้อรางวัลจะรวบรวมสลากที่ผู้ถูกรางวัลนำมาขายให้ไปขึ้นเงินรางวัลกับสำนักงานสลากฯ สนามบินน้ำ ซึ่งมีหลักการเหมือนกับวิธีแรก

กล่าวคือ ร้านรับซื้อรางวัลนำบัตรประชาชนพร้อมสลากตัวจริงลงชื่อนามสกุลด้านหลังสลากมาขึ้นเงินด้วยตนเอง และหลังจากตรวจสอบความถูกต้องของสลากและบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบเรียบร้อย เจ้าพนักงานสลากฯ ก็จะจ่ายเงินรางวัลให้กับร้านรับซื้อรางวัลเสมือนเป็นผู้ถูกรางวัล

ถ้าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล เจ้าพนักงานสลากฯ จะหักค่าอากรแสตมป์ 0.5% แต่ถ้าเป็นสลากการกุศล ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1%

ส่วนผู้ที่ถูกรางวัลหรือเจ้าของสลากตัวจริงที่นำสลากมาขายให้กับร้านรับซื้อรางวัล ก็ไม่ต้องเสียภาษีหรือค่าอากรแสตมป์ใดๆ เพราะอยู่นอกฐานข้อมูลการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงานสลากฯ กรมสรรพากรจึงไม่มีข้อมูลที่จะไปติดตามเรียกเก็บภาษีได้

คราวนี้มาถึงประเด็นที่เป็นปัญหา คือ กรณีแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ ออกแคมเปญจ่ายเงินเต็ม 100% ให้กับผู้ที่ถูกรางวัล โดยไม่หักค่าภาษี ค่าอากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมใดๆ พร้อมประกาศรายชื่อของผู้ที่ถูกรางวัล และจำนวนเงินรางวัล ถ่ายคลิปวีดีโอนำเงินสดไปมอบให้กับลูกค้าที่ถูกรางวัลที่ 1 หลายราย คิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาทเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย กลายเป็นปมปัญหาให้กรมสรรพากรต้องเร่งศึกษาวินิจฉัย กรณีแพลตฟอร์มสลากออนไลน์นำเงินสดไปมอบให้ลูกค้าที่ถูกรางวัลที่ 1 ที่อยู่นอกฐานข้อมูลการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงานสลากฯ แต่ไปรับเงินมาจากบริษัทแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ถือเป็นเงินได้ของลูกค้าหรือไม่?

หากดูเจตนารมณ์ของกฎหมาย และแนวปฏิบัติของวิธีการขึ้นเงินรางวัลตามที่กล่าวข้างต้น มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ ผู้ถูกรางวัลนำบัตรประชาชนหรือหนังสือมอบอำนาจให้มาขึ้นเงินรางวัลแทน พร้อมกับสลากตัวจริงเขียนชื่อนามสกุลสลักด้านหลังสลากมาขึ้นเงินด้วยตนเองที่สำนักงานสลากฯ สนามบินน้ำ ข้อมูลทั้งหมดถูกบันทึกเข้าสู่ฐานข้อมูลการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงานสลากฯ และชำระค่าภาษีหรือค่าอากรแสตมป์ในนามของผู้ที่นำสลากมาขึ้นเงิน หรือลงชื่อนามสกุลที่ด้านหลังสลาก ทั้งกรณีที่มาขึ้นเงินด้วยตนเอง กรณีขึ้นเงินผ่านธนาคาร และกรณีร้านรับซื้อรางวัลนำสลากมาขึ้นเงินรางวัล ผู้ที่มีชื่อในระบบการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงานสลากฯ ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นหลักการที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น การที่แพลตฟอร์มสลากออนไลน์นำเงินสดหลายล้านบาทไปมอบให้ลูกค้าที่ถูกรางวัล ซึ่งไม่มีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงานสลากฯ จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือถือเป็นเงินได้พึงประเมินของลูกค้า หากถือเป็นเงินได้พึงประเมินของลูกค้าที่รับเงินจากแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ก็ต้องนำมายื่นแบบแสดงรายการภาษีภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566

ยกตัวอย่าง ถูกรางวัลที่ 1 รับเงินจากบริษัท 6 ล้านบาท ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอัตราก้าวหน้าสูงสุดถึง 35% ของเงินได้พึงประเมิน ประมาณ 2.1 ล้านบาท แต่ถ้าถูก 2 ใบ ได้เงิน 12 ล้านบาท ก็ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรม 4.2 ล้านบาท เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการลงบันทึกรายการบัญชี กรณีแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ไปรับเงินรางวัลจากสำนักงานสลากฯมา 5,970,000 บาท แต่นำจ่ายเงินให้ลูกค้าไป 6,000,000 บาท ขาดทุน 30,000 บาท รายการนี้จะลงบันทึกบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายอะไร

ทั้งหมดก็เป็นประเด็นที่กรมสรรพากรต้องเร่งเคลียร์ให้ชัดเจน ก่อนที่ผลกระทบจะลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้

กลุ่มลูกค้าที่รับเงินรางวัลจากแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มจำนวน โดยไม่ถูกหักค่าภาษีค่าอากรแสตมป์ หรือค่าธรรมเนียมใดๆ ลูกค้ากลุ่มนี้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามประมวลรัษฎากรหรือไม่ เป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป...”-รายงานจากสำนักข่าวไทยพับลิก้า

สุดท้าย น่าสนใจว่า การที่แพลตฟอร์มสลากออนไลน์เอกชนใช้วิธีการข้างต้นนั้น ทำได้จริงหรือไม่?

ถ้าผู้ถูกรางวัลรอดภาษีเงินได้ แล้วนาย ก.จะรอดภาษีไปด้วยหรือไม่?

รอดทั้งสองคนเลยหรือ?

น่าสนใจมาก

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:03 น. หึงโหด! ผช.ผญบ.สุดทน! ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียดับ หลังจับได้คบซ้อน
11:57 น. 'พล.อ.ประวิตร'แข็งแรงดี โฆษกพปชร.โต้ข่าวตกบันได ยันยังทำงานปกติ
11:56 น. 'ตชด.ตรัง'บุกสกัดแก๊งขนยานรก ลอบส่งผ่านพัสดุกว่า6หมื่นเม็ด
11:56 น. ‘ทวี’ยันDSIไม่รายงานเรียกสอบ‘10 สส.ภท.’ปมฮั้วสว. ฝากขรก.‘อย่าให้อิทธิพลชั่ว อยู่เหนือกฎหมาย’
11:48 น. 'นฤมล'จ่อเซ็นตั้ง'อนุดิษฐ์'นั่งประธานยุทธศาสตร์พรรคกธ. ให้สื่อรอดูเปิดตัวสมาชิกพรรคใหม่เข้าสังกัด
ดูทั้งหมด
พระลูกวัดฟันเปรี้ยง‘ทิดแย้ม’ทำแต่กิจของสงฆ์ ไม่ว่างนั่งปั่นบาคาร่า ลั่นยัง‘สึก’ไม่สำเร็จ
หนาวทั้งบาง! ‘ดิเรกฤทธิ์’ชี้หากราชทัณฑ์ไร้หลักฐานปมชั้น 14 คาดคนผิดรับโทษเพียบ
ประวัติศาสตร์! ไทยพลิกนรกโค่นจีน3-2คว้าตั๋วฟุตซอลโลก
ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ 16​ ​พฤษภาคม​ ​2568
ชีวิตครอบครัวพัง! อดีตเมียพลทหารขับไรเดอร์เผย เลิกกันเพราะผัวขอยืมเงินเอาไปปิดยอดส่งนาย
ดูทั้งหมด
เรื่องประหลาดของชาติหน้า
สติพระ
เงินทอน
อย่าให้เศรษฐกิจย่อยยับ คามือ ‘นายกฯ ชินวัตร’
‘แพทองโพย’ทัวร์อังกฤษผลาญเงินหลวง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หึงโหด! ผช.ผญบ.สุดทน! ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียดับ หลังจับได้คบซ้อน

'พล.อ.ประวิตร'แข็งแรงดี โฆษกพปชร.โต้ข่าวตกบันได ยันยังทำงานปกติ

‘ทวี’ยันDSIไม่รายงานเรียกสอบ‘10 สส.ภท.’ปมฮั้วสว. ฝากขรก.‘อย่าให้อิทธิพลชั่ว อยู่เหนือกฎหมาย’

'ตชด.ตรัง'บุกสกัดแก๊งขนยานรก ลอบส่งผ่านพัสดุกว่า6หมื่นเม็ด

'นฤมล'จ่อเซ็นตั้ง'อนุดิษฐ์'นั่งประธานยุทธศาสตร์พรรคกธ. ให้สื่อรอดูเปิดตัวสมาชิกพรรคใหม่เข้าสังกัด

ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์! หนุ่มตัดต้นมะเดื่อไม่จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ล้มทับดับ

  • Breaking News
  • หึงโหด! ผช.ผญบ.สุดทน! ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียดับ หลังจับได้คบซ้อน หึงโหด! ผช.ผญบ.สุดทน! ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียดับ หลังจับได้คบซ้อน
  • \'พล.อ.ประวิตร\'แข็งแรงดี โฆษกพปชร.โต้ข่าวตกบันได ยันยังทำงานปกติ 'พล.อ.ประวิตร'แข็งแรงดี โฆษกพปชร.โต้ข่าวตกบันได ยันยังทำงานปกติ
  • \'ตชด.ตรัง\'บุกสกัดแก๊งขนยานรก ลอบส่งผ่านพัสดุกว่า6หมื่นเม็ด 'ตชด.ตรัง'บุกสกัดแก๊งขนยานรก ลอบส่งผ่านพัสดุกว่า6หมื่นเม็ด
  • ‘ทวี’ยันDSIไม่รายงานเรียกสอบ‘10 สส.ภท.’ปมฮั้วสว. ฝากขรก.‘อย่าให้อิทธิพลชั่ว อยู่เหนือกฎหมาย’ ‘ทวี’ยันDSIไม่รายงานเรียกสอบ‘10 สส.ภท.’ปมฮั้วสว. ฝากขรก.‘อย่าให้อิทธิพลชั่ว อยู่เหนือกฎหมาย’
  • \'นฤมล\'จ่อเซ็นตั้ง\'อนุดิษฐ์\'นั่งประธานยุทธศาสตร์พรรคกธ. ให้สื่อรอดูเปิดตัวสมาชิกพรรคใหม่เข้าสังกัด 'นฤมล'จ่อเซ็นตั้ง'อนุดิษฐ์'นั่งประธานยุทธศาสตร์พรรคกธ. ให้สื่อรอดูเปิดตัวสมาชิกพรรคใหม่เข้าสังกัด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่าให้เศรษฐกิจย่อยยับ  คามือ ‘นายกฯ ชินวัตร’

อย่าให้เศรษฐกิจย่อยยับ คามือ ‘นายกฯ ชินวัตร’

20 พ.ค. 2568

ดินพอกหางหมูค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว  กทม.จะโยนภาระ ?

ดินพอกหางหมูค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว กทม.จะโยนภาระ ?

19 พ.ค. 2568

ไม่ใช่ที่คุมขังนักโทษป่วย  ต้องกลับเข้าคุกจริง

ไม่ใช่ที่คุมขังนักโทษป่วย ต้องกลับเข้าคุกจริง

16 พ.ค. 2568

G-Token ช่องทางกู้เงินของรัฐบาล  ทางสะดวก หรือทางเลี่ยง?

G-Token ช่องทางกู้เงินของรัฐบาล ทางสะดวก หรือทางเลี่ยง?

15 พ.ค. 2568

ต้องยอมรับปัญหา แล้วลงมือแก้ไข  ใบส่งตัวล่าช้า จนมีคนตายแล้ว!

ต้องยอมรับปัญหา แล้วลงมือแก้ไข ใบส่งตัวล่าช้า จนมีคนตายแล้ว!

14 พ.ค. 2568

หวงแหนปราสาท ‘ตาเมือนธม”  รักชาติ สมเหตุสมผล

หวงแหนปราสาท ‘ตาเมือนธม” รักชาติ สมเหตุสมผล

13 พ.ค. 2568

รบจริง ไม่เหมือนในหนังฮอลลีวู้ด

รบจริง ไม่เหมือนในหนังฮอลลีวู้ด

12 พ.ค. 2568

นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’

นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’

9 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved