แวดวงวิชาการธุรกิจและสื่อ ต่างก็ออกมาให้ผลการวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของความเป็นไปในโลกกว้างในปีใหม่ 2566 ที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้ ซึ่งก็พอคำนวณได้ว่ามีหัวข้อเรื่องสำคัญๆ 5 ประการด้วยกันคือ
1.การลดหรือการอ่อนตัวของโลกแห่งยุคโลกาภิวัตน์ โดยเฉพาะในเรื่องการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และการเชื่อมโยง โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจการค้าแบบทุนนิยมที่เรียกว่า ห่วงโซ่ของอุปสงค์ อุปทาน (Demand and Supply Chain) ซึ่งหมายความว่า การกระจายการผลิตผลิตภัณฑ์หนึ่งใดไปผลิตยังโรงงานต่างๆ ทั่วโลกนั้นก็จะมีการหดตัวลง โดยโรงงานผลิตจะไม่ถูกปล่อยให้กระจัดกระจายไปยังประเทศอื่น หากแต่ต้องไหลกลับสู่ประเทศเจ้าของทุน เจ้าของเทคโนโลยีมากขึ้น เป็นต้น หรือนัยหนึ่งก็เป็นการเพิ่มการผลิตภายในประเทศ และการพึ่งตลาดภายในประเทศ มากกว่าการพึ่งพาตลาดโลก ดังที่ได้มีมาในช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา
2.โลกก็ยังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามมาด้วย ซึ่งก็จะมีผลทำให้การผลิตและการบริโภคถดถอยและจำกัดตัวลง และฉะนั้นก็จะมีผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวและลดลง หรือนัยหนึ่ง GDP จะลดลง (โอกาสที่ GDP จะเพิ่มมีน้อยมาก) ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อการจ้างงาน อัตราค่าครองชีพ ก่อให้เกิดความไม่สมดุลกับรายได้
3.การต่อกรขับเคี่ยวกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ คือระหว่างสหรัฐอเมริกาพร้อมกับกลุ่มประเทศพันธมิตรตะวันตก กับ จีนและรัสเซียบวกพวกพ้อง ก็จะเข้มข้น และยืดเยื้อไปเรื่อยๆ โดยยังไม่มีทีท่าที่จะหันหน้าเข้าหากันกลับสู่โต๊ะเจรจา เพราะต่างฝ่ายต่างที่จะเอาชนะหักโค่นกันหรือบ่อนทำลาย สร้างความอ่อนเปลี้ยให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งในรูปการณ์นี้สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสหรัฐฯ ประเทศสมาชิกองค์การนาโต และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป รวมไปถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ก็จะยืดเยื้อ และเสียหายกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเผด็จศึกได้ ซึ่งความทนทานของแต่ละฝ่ายนั้น ต่างขึ้นอยู่กับความอดทนของประชาชนพลเมืองของแต่ละฝ่ายว่าจะยาวนานแค่ไหน
4.การเพิ่มการจัดสรรงบประมาณอันมหาศาลเพื่อเพิ่มแสนยานุภาพทางอาวุธยุทโธปกรณ์กัน โดยทุกประเทศที่เป็นคู่กรณี หรือที่ร่วมเป็นพันธมิตรกัน ซึ่งเท่ากับว่าโลกมุ่งที่จะใช้กำลังทหาร เป็นการปรามหรือคุกคามอีกฝ่ายหนึ่ง หรือมุ่งที่จะเอาแพ้เอาชนะให้ถึงที่สุด ก็เท่ากับว่าโลกจะตกอยู่ท่ามกลางความหวาดหวั่น หวาดกลัว และหมิ่นเหม่ต่อการลุกลามของสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้เจตนา แต่เพราะการประเมินสถานการณ์ที่ผิด และการเกิดขึ้นของอุบัติเหตุที่ไม่ได้คาดหมายและควบคุมมิได้ และทั้งนี้การต้องใช้งบประมาณเพื่อการทหารมากมาย ก็จะมีผลต่อการพัฒนาต่างๆ ในแต่ละประเทศ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและสังคม และจะมีผลเสียต่อการร่วมมือเพื่อช่วยเหลือประเทศด้อยพัฒนา และการร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาส่วนกลางของโลก เช่น โรคระบาด โลกร้อน และอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งการก่อการร้ายสากล เป็นต้น
5.เหตุการณ์การเมืองภายในของประเทศต่างๆ ที่มีความแตกแยก ขัดแย้งและเผชิญหน้าซึ่งกันและกันของคนชาติเดียวกัน โดยเฉพาะอุดมการณ์ว่าด้วยลัทธิชาตินิยมสุดโต่ง หรือการคลั่งชาติ และการปฏิเสธซึ่งหลักสากล ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของชนกลุ่มน้อย ทั้งในเรื่องสีผิว และการนับถือศาสนา ที่จะเผชิญกับการกดขี่และการกีดกัน เป็นพลเมืองชั้นสอง ทั้งนี้ การเมืองที่มุ่งเอาเรื่องของตัวเองเป็นใหญ่เป็นที่ตั้ง ก็จะมีผลกระทบต่อการร่วมมือระหว่างประเทศ ที่จะมุ่งไปในทิศทางของต่างคนต่างอยู่ และไม่ออมชอมถ้อยทีถ้อยปฏิบัติซึ่งกันและกัน
ในสภาพการณ์ดังกล่าวนี้ ก็ดูว่าปี พ.ศ. 2566 ชาวโลกจะอยู่ด้วยกันแบบเผชิญหน้า ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน และจะต่างคนต่างอยู่ หรือต่างจะคบหาสมาคมกับกลุ่มพวกพ้องที่มีความคิดความอ่านคล้ายคลึงกัน และไม่ยุ่งข้องแวะกับประเทศอื่นๆ ที่มีอุดมการณ์และความนึกคิดต่างออกไป
โลกปี 2566 จึงจัดได้ว่าจะอยู่ในสภาวะสงครามลูกผสม คือมีทั้งสงครามเย็น สงครามกึ่งเย็นกึ่งร้อน สงครามตัวแทน และสงครามร้อนๆ ก็มีผลให้คำว่า สันติภาพ ถูกกีดกันออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีงามแต่อย่างใด
แล้วโลกจะหาทางออกกันอย่างไร? โดยเฉพาะเมื่อประเทศพี่เบิ้มทำตัวเป็นตัวปัญหา และเป็นคู่กรณีกันเสียเอง ซึ่งเป็นการยากที่จะไปบอกให้พวกเขาเปลี่ยนอกเปลี่ยนใจ ให้หันหน้าเข้าหากัน และกลับสู่โต๊ะเจรจา
อย่างไรก็ดีชาวโลกก็ไม่ควรจะสิ้นหวังเพราะยังมีประเทศเล็กๆ และประเทศขนาดกลางอีกมากมาย ที่ไม่ประสงค์ที่จะไปอยู่กับฝ่ายยักษ์ใหญ่หนึ่งใด ซึ่งก็ยังอยู่ในฐานะที่จะสามารถรวมตัวกันเป็นสะพานเชื่อมโยงคู่กรณี และออกมาส่งเสียงเรียกร้อง และกดดันให้ประเทศยักษ์ใหญ่ยุติการเผชิญหน้า เพื่อสันติภาพโลก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อชาวโลก แม้ประเทศเหล่านี้จะไม่มีพลังอำนาจทางทหาร แต่เมื่อรวมกันได้ ก็จะมีพลังอำนาจทางด้านศีลธรรม (Moral Authority)เพราะเป็นผู้ที่ใฝ่หาซึ่งสันติภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของมวลมนุษย์ โดยเมื่อออกมาเรียกร้องก็น่าจะสามารถช่วยเชื่อมโยงกับคนอเมริกัน คนจีนคนรัสเซีย คนญี่ปุ่น และคนยุโรปต่างๆ ได้ เพื่อเป็นพลังร่วมในการบังคับให้ผู้นำของเขากลับตัวกลับใจ เลิกใช้กำลัง อำนาจ เข้าประหัตประหารกันจนทำให้ชาวโลกเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี