“ป๋าเต็ด ยุทธนา” เพิ่งจะออกมาแสดงความเห็นต่อประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เทศกาลดนตรี “Big Mountain Music Festival”จัดขึ้นที่เขาใหญ่เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ความห่วยของการจัดการ เช่น เดินไกล เดินทางแออัด ค่ามอ’ไซค์แพง ห้องน้ำไม่เพียงพอ ร้านอาหารที่มาเช่าสถานที่ขาดทุนเละเทะไม่เป็นไปตามคำมั่นสัญญา จุดกางเต็นท์โกงค่ามัดจำ ฯลฯ
“ป๋าเต็ด” กล่าวว่า ฐานะผู้จัดงานต้องทำงานกับการเดาทางของคน ยอมรับว่าครั้งนี้อาจจะมีการเดาทางที่ผิดพลาด ส่วนเรื่องที่พักเป็นเรื่องของเจ้าของธุรกิจโดยรอบพื้นที่ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ได้มีการหารือกับทางจังหวัดเพื่อหาทางออกของปัญหาเพื่อให้การจัดงานครั้งหน้า ป้องกันปัญหาซ้ำซาก ด้านร้านอาหารที่ขาดทุนไม่ขอลงรายละเอียด แต่ยืนยันว่ามีร้านที่ขายดีแต่ไม่ได้โพสต์ออกสื่อก็เท่านั้นโดยยืนยันว่าครั้งหน้าจะนำทุกข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น นำมาปรับปรุงแก้ไข
1. ปฏิกิริยาของผู้คนต่อคำชี้แจงข้างต้น เผ็ดร้อนมาก
ยกตัวอย่าง คอมเมนท์ในเพจโหนกระแสเมื่อรายงานข่าวนี้ อาทิ
คุณ Baan Sandao “ทำให้ดีกว่าที่วิจารณ์คนอื่นเขาซิครับ จัดมากี่ปี ปัญหาเดิม ๆ นี่ปัญหาระดับคอนเสิร์ตเอง”
คุณ Bunncha Cheevasawad “ประเด็นคือ เซลล์ พี่ไปขายฝันให้เขาเชื่อ ไปการันตีเขาไง พี่ต้องเข้าใจคำว่า การันตีก่อนครับ คือการไปการันตีเขาแบบนั้น ว่าอย่างน้อยเขาจะสามารถขายได้แน่ๆ วันละ 2,500 เสิร์ฟ เป็นใครๆ ก็ตาวาว พี่เต็ด”
คุณ Palit Tnsk “คิดแต่ขยายพื้นที่ แต่ไม่มีเตรียมป้องกัน ทั้งๆ ที่ปัญหาก็เดิมๆ คือ ห้องน้ำ ความสะอาด การจัดระเบียบคน รวมถึงเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก คนจัดรับตังไปคนไปก็ตามดวง”
คุณ Verayut Tun Na Lampang “รับปากแก้ปัญหาทุกปี แล้วทุกปีก็มีปัญหาเดิมๆ คนที่ไปครั้งแรกๆ ก็เลิกไปกันเยอะแล้ว แต่ก็นั่นแหละ รุ่นใหม่ๆ ก็อยากไปสัมผัสเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดอยู่ดี สรุปคือ เหมือนเดิมทุกปี ออกมารับปากว่าแก้ทุกปี จนรวยไม่รู้จะรวยยังไงแล้ว...”
พีโน๊ะสุเกะ ชินชาจัง “ร้านขายดีก็มี ร้านเจ๊งก็มี = ร้านค้าที่จะไปลงขายรอบหน้าต้องพึงระลึกไว้นะครับ ว่างานไม่ได้ประกันว่าจะขายได้ทุกร้าน ค่าที่เท่าไหร่ ลงทุนเท่าไหร่ ประเมินกันให้ดีๆครับ”
คุณ Nick Tome “ปัญหาก็เกิดขึ้นซ้ำซากเหมือนกันทุกปีแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที คนก็ยังไปกันเหมือนเดิมแสดงว่าคนที่ไปงานก็ยอมรับในปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นได้”
คุณโน้ตบุ๊กที่ตัก โน้ตรักที่เธอ “ประชาธิปไตยแบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ จะบอกว่ามีร้านได้กำไร แล้วจะไม่ใส่ใจร้านที่ขาดทุนก็ไม่ควร เพราะเท่าที่ฟังๆ มา การันตีออเดอร์ให้ร้านบางจุดถึงเป้าบางจุดไม่ถึงเป้าแล้วยังไง ไม่ถึงเป้าก็รับกรรมไปงั้นเหรอครับ ทั้งๆ ที่ไปการันตีเค้าไว้ ปัญหาบางร้านวัตถุดิบและหรืออย่างอื่นเข้าไปถึงร้านได้ยากเพราะสถานที่ไม่อำนวย ทีมงานห้ามรถเข้าผิดจากเวลาที่ตกลงกัน ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่มันชัดเจนนะ ว่าพี่ต้องมาโฟกัสจุดนี้และแก้ปัญหานี้แล้วเพราะมันปัญหาใหญ่ จะเอาบางร้านที่กำไรดี มาพูดปลอบใจตัวเองไม่ได้นะครับ ยังไม่รวมถึงร้านที่ขายดีและขายไม่ดีบางร้าน ที่เกิดจากการที่ทีมงานย้ายทำเลหลังจากที่ตกลงกันไว้อีก คือไม่อยากคิดก็ชวนให้คิดว่ามีนอกมีในนะครับ”
คุณ Austin Boat “แนะนำคนที่ดราม่านะครับ ปีหน้าไม่ต้องไปจะได้ไม่เดือดร้อน อยากกินหรูอยู่สบายให้ไปเที่ยวคอนเสิร์ตในฮอลล์ในโดมนะครับ บิ๊กเมาน์เท่นจัดมา 12 ครั้ง คนที่ไปทุกครั้งเค้าก็ลุยทั้ง 12 ครั้ง มันก็สนุกดีนะผมว่า ส่วนตัวผมชอบและจะไปอีกครับ ส่วนคนที่ไม่ชอบความลำบากก็ไม่ต้องไปครับจะได้ไม่งอแงครับ” ฯลฯ 2. นอกจากความเห็นของคนที่เข้าร่วมงาน พ่อค้าร่วมขายในงาน
อยากฝากให้ผู้รับผิดชอบกับเทศกาลคอนเสิร์ต “BMMF NO.12” อย่าลืมนำข้อเสนอแนะจากผู้คนที่อยู่ในชุมชนธุรกิจโดยรอบ พิจารณาปรับปรุงแก้ไข โดยให้น้ำหนักสำคัญอย่างจริงใจด้วย
ดังปรากฏใน “จดหมายเปิดผนึก “ถอดบทเรียนการจัดงานเทศกาลคอนเสิร์ต BMMF NO.12” จากนายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ คุณพันชนะ วัฒนเสถียร
เนื้อหามีรายละเอียดน่าสนใจ และเป็นประโยชน์มาก
สรุปเนื้อหาบางตอน เช่น
“..1. ด้านการจราจร... ประเด็นนี้ เนื่องจากผู้จัดและคนในชุมชนตระหนักถึงปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างดี พวกเราจึงพยายามหาทางแก้ไข (เนื่องจากผู้จัดไม่ได้มีการจัดรถเวียนรับ-ส่งดังเช่นปีแรกๆของการจัดงาน) ด้วยการจัดจุดจอดรถให้บริการ ทั้งมีค่าใช้จ่าย ถ้าอยู่ใกล้งานมีจุดกางเต็นท์ให้ด้วย คิดค่าจอดหลักร้อย จอดครบสองวันตัวเลขขึ้นหลักพัน ถ้าอยู่ในระยะเดินได้ไม่ต้องเสียค่ามอเตอร์ไซค์ แต่ถ้าต้องจ่ายค่ามอเตอร์ไซค์ก็นับว่าเป็นปัญหาเอาการ บางรายทะเลาะกันก็มี ส่วนที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เช่นที่จัดโดยสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ณ Walking Street เขาใหญ่พาโนรามาฟาร์ม และหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และจัดหารถวินกระบะและรถวินมอเตอร์ไซค์ให้ช่วยมารับคนเข้างานต่อ ปีนี้เป็นปีแรกคนใช้บริการยังไม่มากนัก หากปีหน้าจัดงานอีกจะวางแผนจัดจุดรอรับให้ผู้ปกครอง โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยแบ่งเบาภาระผู้มาส่ง / ผู้มางานและทำให้การจราจรในชุมชนลื่นไหลไปได้บ้าง
อยากให้ตัวเลขคิดเล่นๆว่า ถ้ามีคนมางาน 100,000 กว่าคน (ฐานคิดจากจำนวนบัตร) ขอให้ x2 หรือ x3 ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีคนอยู่ในพื้นที่เขาใหญ่ ประมาณ 200,000- 300,000 คน เท่ากับประชากรปกติและประชากรแฝงอ.ปากช่อง การจราจรเป็นหัวข้อใหญ่และหัวใจการเข้าถึงงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ที่ผู้จัดงาน ผู้อนุมัติ หน่วยงานราชการ อาสาสมัครในพื้นที่ ควรมีส่วนร่วมในการช่วยกันคิด ช่วยกันวางแผนและตัดสินใจร่วมกัน เพราะมีผู้ได้รับผลกระทบมาก
ไม่นับปริมาณการเผาผลาญเชื้อเพลิงมากมาย (แน่นอนว่าถ้าบริษัทผู้สนับสนุนมีมุมมองต่อความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ESG (Environment,Social & Governance) และ/หรือเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องยึดหลักความยั่งยืนแล้ว คงต้องพิจารณาประเด็นนี้กันหน่อยว่างานที่ตนเองส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดงานนั้นได้วางมาตรการที่จะจัดงานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชนได้จริงหรือไม่...
2. ด้านที่พัก...พอผู้จัดเพิ่มปริมาณการขายบัตรเข้าชมงาน แม้ว่าจะเตรียมโซนรถบ้าน และเต็นท์ไว้บริการก็ยังไม่เพียงพอ หรือผู้บริโภคอาจตัดสินใจเลือกจากความคุ้มค่า การเดินทาง (ขายรวมเป็นแพ็คเกจ) จึงทำให้เราเห็นว่ามีการให้บริการเต็นท์พักแรมโดยรอบบริเวณที่จัดงานจำนวนมาก และเมื่อเจ้าของพื้นที่จุดกางเต็นท์ไม่ยอมคืนเงินมัดจำค่าเต็นท์ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน ชื่อเสียงของผู้ประกอบการในเขาใหญ่โดยรวมก็เสียหายไปด้วย ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องปลาเน่าไม่กี่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่นับการขูดรีดหรือเอาเปรียบผู้เข้ามาพัก เกิดการร้องเรียนตามมาหลังจบงานหลายกรณี
3. การจัดการขยะ... เห็นใจคนที่ทำหน้าที่เก็บขยะอย่างมากที่ต้องตามเก็บขยะจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกทิ้งถูกที่ถูกทาง จำนวนคนเก็บขยะกับคนที่เข้างานไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่มีทางสัมพันธ์กัน ทางที่ดีควรจะต้องขอให้ศิลปินที่ขึ้นเวทีช่วยประชาสัมพันธ์และปลูกฝังจิตสำนึกในเรื่องนี้กันตลอดงาน เรื่องนี้ทำให้กลับมาคิดต่อว่าถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร? ขอเสนอว่าให้ผู้จัดโดยเฉพาะผู้สนับสนุนที่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มประสานกับเอกชนที่รับซื้อขยะพลาสติก กระป๋อง ฯลฯ นำเครื่องบีบอัดขยะ ขวดพลาสติกแล้วจัดโซนแล้วนำออกจากงาน หรือจัดให้ผู้เข้าชมนำขวดน้ำ /กระป๋อง มาแลกเป็นของที่ระลึก หรือน้ำดื่ม หรือสะสมแต้ม ฯลฯ จะทำให้เจ้าหน้าที่ที่จ้างมาเก็บขยะสามารถช่วยดูแลการเก็บขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น + ส่วนบริเวณที่เป็นร้านอาหารควรมีจุดแยกขยะเปียกที่สามารถฝังกลบได้ไว้ด้วย มาตรการการจัดการขยะไม่ใช่เรื่องเทรนด์รักษ์โลกเฉยๆ แต่เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังจิตสำนึกให้จริงจัง งานที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อคนรุ่นใหม่เช่นนี้ถ้าช่วยกันนำเสนอย่อมดีต่อใจและโลกของเราแน่นอน...
4. การขูดรีดของวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง...
5. เรื่องอื่นๆ เช่น การจัดจุดห้องน้ำบริการ เมื่อห้องน้ำมีปริมาณไม่เพียงพอ ผู้ชายก็ยืนฉี่ใกล้กำแพง ส่วนผู้หญิงก็ช่วยกันเอาผ้ามาปิดเพื่อให้เพื่อนได้ปลดทุกข์ เพราะห้องน้ำตั้งอยู่ไกลและต่อคิวยาวมาก บางทีน้ำมีไม่พอ
ปีนี้เท่าที่สอบถามร้านค้า ร้านอาหารมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก มีหลายรายขายไม่ได้ตามเป้า ด้วยเหตุผลหลายประการ ในส่วนนี้ขอละไว้ไม่ขอกล่าว เพราะผู้จัดคงมีเหตุผลของเขาในการคิดค่าบูธและด้านการจัดการ ทางผู้จัดให้บูธสมาคมฯมาสองบูธ ในโซนรถบ้านและเต็นท์ ทราบมาว่าห้ามคนจากนอกโซนเข้า(คงด้วยเหตุผลเพื่อความปลอดภัย) ทำให้ลูกค้าผู้มาใช้บริการต้องเดินไกลจากจุดพัก ผู้ประกอบการขายของไม่ค่อยได้นัก น่าเห็นใจพอควร การมีส่วนร่วมของร้านค้าในชุมชนยังมีสัดส่วนที่น้อยมาก
6. การก่อให้เกิดรายได้ในพื้นที่และการจ้างงาน.. ในประเด็นนี้เห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นแน่นอน เงินสะพัดหมุนเวียน ถ้าตีคร่าวๆ (ไม่นับค่าบัตรเข้าชมงาน) ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหารและเครื่องดื่ม น่าจะอยู่ระหว่าง 3,000-5,000 บาท/คน/วัน ทั้งในงานและนอกงาน เพราะผู้เข้าชมงานมาจากทั่วประเทศจริงๆ ถ้าเราเป็นผู้จัดงานคงดีใจไม่น้อยว่านี่คือเทศกาลที่มี fan baseหรือ FC ที่เหนียวแน่น
โดยรวมหวังว่าปีหน้าผู้จัดควรประเมินกำลังของพื้นที่และชุมชนว่าพื้นที่จัดงานและโดยรอบสามารถรองรับคนได้จำนวนเท่าใด ควรจัดให้เหมาะสม และมีกระบวนการจัดการที่ดีขึ้น เสนอแผนที่พร้อมนำไปปฏิบัติได้จริงให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหรือผู้อนุมัติพิจารณาร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ มีแผนรับมือกับเหตุจลาจลและจราจร อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น แผนทำงานร่วมกับหน่วยกู้ภัย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนควรนำข้อผิดพลาดบกพร่องของปีนี้ มาประมวล ถอดบทเรียน และขอให้พิจารณาให้ลึกซึ้งถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน การจัดการก่อน - ขณะ - หลัง อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการจัดเทศกาลดนตรีเช่นนี้ เป็นเทศกาลแห่งความสุข คนมาย่อมคาดหวังความสุขจากการแสดงของศิลปิน วงที่ตนเองชื่นชอบอุตส่าห์เก็บเงินลงทุนเดินทางมาจากบ้าน อยากให้เขาประทับใจทั้งการจัดการภายในและการประสานงานภายนอกซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถประเมินมูลค่าออกมาได้...”
3. ความจริงใจ ต้องแสดงออกผ่านการกระทำ ลงมือทำจริง ตั้งใจจริง สร้างผลลัพธ์จริงในรูปธรรม
ต้องติดตามว่า ผู้จัดคอนเสิร์ต จะน้อมรับเสียงสะท้อนเพียงแค่เป็นพิธี แล้วปีหน้าปัญหาเดิมๆ หรือหนักกว่าเดิมก็จะเกิดขึ้นอีก หรือไม่?
แก้ไขหรือไม่ จริงใจหรือเปล่า? การกระทำจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ใช่แค่ลีลาท่าที
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี