วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
อย่าคิดว่าธนาคารทุกแห่งมีความมั่นคงแท้จริง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหากคิดและเชื่อเช่นนั้นเมื่อวันหนึ่งที่ธนาคารเกิดปัญหาวิกฤตสุดวิกฤตจนต้องปิดกิจการลง คุณๆ ที่มีเงินฝากในธนาคารนั้นๆ จะเกิดอาการช็อกจนสติแตก
หลายคนถามว่า ถ้าธนาคารไม่มีความมั่นคง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว จะสามารถไว้วางใจเรื่องการฝากเงินกับใครได้อีก หากไม่ฝากกับธนาคารแล้ว จะฝากเงินกับใคร
คำตอบเรื่องนี้คือ ก็ยังคงต้องฝากเงินกับธนาคารที่มีความมั่นคง ไว้วางใจได้ มีระบบการตรวจสอบการบริหารงานภายในธนาคารที่รัดกุม และมีธรรมาภิบาล แต่คำถามตามมาคือ แล้วประชาชนผู้ฝากเงินกับธนาคารจะเข้าไปรู้ได้อย่างไรว่าธนาคารไหนไว้ใจได้ เพราะทุกธนาคารต่างก็บอกว่าธนาคารของตนเองมั่นคง ไว้วางใจได้ทั้งนั้น
หากผู้ฝากเงินเจอคำคุยโฆษณาสารพัดจากธนาคาร ก็จำเป็นที่เจ้าของเงินต้องใช้ดุลพินิจ วิจารณญาณ เพื่อกลั่นกรองและไตร่ตรองว่าคำโฆษณาของธนาคารเป็นจริงมากน้อยเพียงใด และยังจำเป็นต้องติดตามข่าวสารที่เชื่อถือได้ตลอดเวลา เพื่อตามข้อมูลว่าธนาคารที่คุณมีเงินฝากไว้ มีปัญหาในการบริหารงานอย่างใดบ้างหรือไม่ แต่หากคุณฝากเงินแบบถมลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยติดตามดูการบริหารงานของธนาคาร ก็นับว่าคุณชะล่าใจมากเกินไป
สำหรับผู้ที่มีเงินฝากธนาคารในประเทศไทยเกิน 1 ล้านบาท ต้องรู้ด้วยว่าสถาบันคุ้มครองเงินฝากคุ้มครองเงินฝากของคุณเพียงไม่เกิน 1 ล้านบาทเท่านั้น พูดให้ชัดคือ ตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2564 สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ให้ความคุ้มครองเงินฝากจำนวน 1 ล้านบาทต่อหนึ่งราย ผู้ฝากต่อหนึ่งสถาบันการเงิน พูดให้เข้าใจง่ายมากขึ้นไปอีกก็คือ หากคุณมีเงินฝากในธนาคารใดๆ ก็ตาม จะกี่ธนาคารก็ตาม คุณจะได้รับการคุ้มครองเพียงธนาคารละ 1 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนเงินฝากที่เกินหนึ่งล้านบาทในธนาคาร คุณไม่ได้รับการคุ้มครองใดๆ
ที่พูดมาเช่นนี้ มิได้หมายความว่าแนะนำให้คุณเลิกฝากเงินกับธนาคาร เพียงแต่ต้องการเน้นย้ำว่าขอให้เลือกธนาคารที่ไว้วางใจได้มากที่สุดอย่าเห็นแก่ดอกเบี้ยสูงๆ อย่าเห็นแก่ของแจกของแถมใดๆ ที่ธนาคารนำมาใช้ล่อใจให้คุณนำเงินไปฝากกับเขา แต่ต้องดูไส้ในของธนาคารให้ลึกซึ้ง ต้องดูว่าใครเป็นเจ้าของ เจ้าของทำธุรกิจอะไรก่อนจะมาทำธุรกิจธนาคาร และเจ้าของทำธุรกิจใดควบคู่คู่ขนานไปกับธุรกิจธนาคาร เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะติดตามดู เพียงแต่ต้องขยันติดตามข่าวสารให้ใกล้ชิดพอประมาณเท่านั้น
มีคำถามตามมาว่า หากไม่ฝากเงินกับธนาคารแล้ว จะนำเงินไปฝากหรือลงทุนกับอะไร ที่ไหน ก็ตอบว่ามีหนทางนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ โดยผู้ซื้อตราสารหนี้ จะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ หรือผู้ให้กู้ยืมเงิน แล้วได้รับดอกเบี้ยตอบแทน แล้วเมื่อถึงกำหนดครบอายุการไถ่ถอนเจ้าหนี้ก็จะได้รับเงินต้นคืน
ตราสารหนี้ แบ่งเป็นสองประเภท คือพันธบัตร (ตราสารหนี้ภาครัฐ) กับหุ้นกู้ (ตราสารหนี้ภาคเอกชน) แต่ก็ใช่ว่าตราสารหนี้จะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลายต่อหลายครั้งก็พบปัญหาหุ้นกู้ไม่สามารถจ่ายเงินคืนให้ผู้ซื้อได้ตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้
นอกจากตราสารหนี้แล้ว ยังสามารถลงทุนในทองคำ กองทุนรวม และหุ้นได้อีกด้วย แต่ก็ต้องย้ำเหมือนเดิมว่าการลงทุนในอะไรก็ตาม ผู้ลงทุนต้องศึกษาให้ดีก่อนว่านำเงินไปลงทุนในกิจการอะไร ต้องดูเบื้องหน้าเบื้องหลังของกิจการนั้นให้ถ่องแท้ ไม่ใช่สักแต่ว่าโยนเงินไปลงทุนโดยที่ตนเองไม่เข้าใจอะไรแม้แต่น้อย เพราะหากลงทุนแบบคนตาบอด ไม่รู้เรื่องใดๆ ก็หมายความว่าคุณโยนเงินไปในที่ๆ คุณไม่รู้จัก เพราะฉะนั้น คุณก็อาจประสบปัญหาและความเสียหายตามมาได้
เงินทองที่คุณได้มาโดยสุจริต เป็นสิ่งที่คุณต้องคิดให้ดีก่อนจะนำไปทำอะไรก็ตาม เพื่อให้เงินที่มีนั้นให้ดอกให้ผลที่คุ้มค่า และเป็นดอกผลที่ได้มาโดยสุจริตเพื่อให้คุณไม่ต้องหวาดผวากับการอยู่กับเงินร้อนยกเว้นว่าคุณเป็นคนจำพวกชอบของร้อนของผิดกฎหมาย และเรื่องผิดศีลธรรม

'ธรรมนัส'บินด่วนหาดใหญ่! หลังเจอวิกฤตน้ำท่วม ปชช.เดือดร้อนหนัก ติดค้าง ไร้อาหารและไฟฟ้า
ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวันประจำวันเสาร์ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
'สมเกียรติ'ประธานTDRI โต้ลือนั่งรมต.พรรคส้ม ยันยึดความเป็นกลางทางการเมือง
'ส.ส.บีลา' ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือน้ำท่วม เปิดสายด่วน 24 ชม. ดูแล ปชช. นราธิวาส
'พัฒนา' ข้องใจ 'รมว.มท.' ไม่เชื่อการกระจายอำนาจ ให้กรมส่งเสริมฯ แทรกแซงถึงการของบประมาณ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี