วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพุธ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ปั้นวาทกรรม ‘คืนชีพไอทีวี’ หลอกควาย หลอกเด็ก

ดูทั้งหมด

  •  

นายพิธานี่ต้องยอมรับว่า เป็นจอมปั้นคำ ปั่นวาทกรรม สร้างภาพสร้างกระแส โปรยเสน่ห์


เมื่อวานนี้ (6 มิถุนายน 2566) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ยอมรับถึงการโอนหุ้นไอทีวี

ระบุว่า “ไม่ใช่การขาย แต่โอนให้ทายาทไปเมื่อปลายเดือน พ.ค. ซึ่งในอดีตตนมั่นใจในข้อกฎหมายและหลักฐาน แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะมีความพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจหรือการเมือง ตนจึงตัดสินใจโอนหุ้นให้ทายาท รวมถึงการโอนหุ้นดังกล่าว”

1. ถ้อยแถลงข้างต้น คือ การสื่อสารว่า ก่อนนี้ ไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ แต่ในอนาคตอาจจะมีความพยายาม “คืนชีพไอทีวี” เพื่อสกัดตนไม่ให้เข้าสู่อำนาจรัฐ

นี่คือการปั้นวาทกรรม ปั่นกระแส ด้วยการบิดเบือนอย่างหน้าตาเฉย

2. บริษัทไอทีวี เป็นกิจการสื่อสารมวลชนมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกตั้งจนถึงปัจจุบัน

ไม่ว่าจะยังออกอากาศทีวีอยู่หรือไม่

ตราบใดที่ยังไม่ปิดบริษัท เลิกกิจการ

และตราบใดที่ไม่จดแจ้งเลิก

เพราะฉะนั้น การมาใช้วาทกรรม “คืนชีพ” มันจึงโคตรมั่วและโคตรโมเมเอาเอง

แถมยังป้ายสีปั่นกระแสด้วยการโบ้ยไปโน่น “คืนชีพ เพื่อสกัดกันพวกเรา”

ป๊าดดดดโธ่ !

3. บรรทัดฐานศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกา วางไว้ชัดเจนถึงแนวทางดังกล่าว คือ ยังไม่จดเลิก ยังไม่ปิดกิจการ ก็ถือว่ายังเป็นสื่ออยู่

สำนักข่าวอิศราได้รวบรวมมา 4 คดีของศาลฎีกา ดังนี้

(1) คดีนายอนุสรณ์ เกษมวรรณ 

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ประกาศรับรอง เป็นผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 1 กรุงเทพมหานคร พรรคชาติพัฒนา เนื่องจาก นายอนุสรณ์เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์สื่อกลางสภาไทย 

นายอนุสรณ์ยื่นร้องคัดค้าน อ้างว่า หนังสือพิมพ์สื่อกลางสภาไทย ไม่ได้พิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ดังกล่าวเป็นเวลาเกิน 2 ปี ถือว่าความเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ หรือเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ของผู้ร้องสิ้นสุดลงตาม พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 45   

ศาลฎีกาวินิจฉัยสรุปว่า การที่ผู้ร้องเพียงแต่ไม่ได้พิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ โดยไม่ได้แจ้งยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงรายการในหลักฐานการจดแจ้งการพิมพ์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงไม่มีผลทำให้ผู้ร้องพ้นจากความเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ หรือเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้ ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลอันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2562วันที่ 7 มี.ค. 2562)

(2) คดีนายสุวัฒน์ชัย สวัสดี 

กกต.โดยผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครราชสีมา  ไม่ประกาศรายชื่อนายสุวัฒน์ชัย เป็นผู้สมัคร สส. จังหวัดนครราชสีมา เขต 1 พรรคความหวังใหม่  โดยอ้างว่า ผู้ร้องขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม เนื่องจากเป็น เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ โคราชการเมือง  

คำพิพากษาศาลฎีกาสรุปว่า ข้อเท็จจริงปรากฏในทางไต่สวนประกอบคําร้อง คําคัดค้าน และเอกสารพยานหลักฐานแห่งคดีว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โคราชการเมือง โดยผู้ร้องได้รับอนุญาตจดแจ้งการพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2543 ต่อมา ปัจจุบันหนังสือพิมพ์โคราชการเมืองได้หยุดตีพิมพ์แล้วตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน 2552 แต่ผู้ร้องยังไม่ได้ไปจดแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายการในหลักฐานการจดแจ้งการพิมพ์ 

เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้เคยยื่นแจ้งเลิกกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายการในหลักฐานการจดแจ้งการพิมพ์แล้ว จึงต้องถือว่าผู้ร้องยังเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์โคราชการเมือง

ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ที่ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของพรรคความหวังใหม่ ชอบแล้ว  (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2562 วันที่ 8 มี.ค.2562)

(3) คดีนายทวีป ขวัญบุรี 

กกต.โดย ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดระยอง ไม่ประกาศรายชื่อ นายทวีป เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง 1 จ.ระยอง พรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างว่า

นายทวีป เป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในหนังสือพิมพ์สื่อกลางรายวันถือว่าขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม

ศาลฎีกาพิพากษาว่า ข้อเท็จจริงตามคําร้อง คําคัดค้าน เอกสารพยานหลักฐานแห่งคดีและตามที่ปรากฏในทางการไต่สวนปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สื่อกลางรายวัน โดยผู้ร้องได้รับอนุญาตจดแจ้งการพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2538 ต่อมาหนังสือพิมพ์สื่อกลางรายวันได้ หยุดตีพิมพ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2540 ...พระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 หาได้มีบทบัญญัติให้หนังสือพิมพ์รายวัน ถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาสามสิบวัน หรือหนังสือพิมพ์รายคาบ ถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาสี่คราวหรือเกินกว่าสองปีทําให้การเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการหรือเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์เป็นอันสิ้นสุดลงดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 45 แต่อย่างใดไม่ หากแต่บัญญัติให้ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการหรือเจ้าของกิจการ หนังสือพิมพ์ที่ประสงค์จะเลิกกิจการหนังสือพิมพ์จะต้องแจ้งเลิกกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายการในหลักฐานการจดแจ้งการพิมพ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เลิกกิจการ

เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้เคยยื่นแจ้งเลิกกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายการในหลักฐานการจดแจ้งการพิมพ์แล้ว จึงต้องถือว่าผู้ร้องยังเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์สื่อกลางรายวัน

ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้ สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ที่ผู้คัดค้าน ไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของพรรคพลังประชารัฐ ชอบแล้วจึงมีคําสั่งให้ยกคําร้อง  (คำพิพากษาศาลฎีกาที่  1111/2562 วันที่ 8 มี.ค.2562)  

(4) คดีนายอรชุน ประสิทธิ์สมบัติ

กกต.โดยผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดอ่างทอง ไม่ประกาศรายชื่อนายอรชุนผู้ร้อง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อ่างทอง พรรคประชาธิปัตย์  โดยอ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นหนังสือพิมพ์ บริษัท คลื่นเสียงอ่างทอง ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีการะบุว่า เมื่อเท็จจริงปรากฏในทางไต่สวนประกอบคําร้อง คําคัดค้าน และเอกสารพยานหลักฐานแห่งคดีว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ของบริษัท คลื่นเสียงอ่างทอง โดยผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้น แม้ผู้ร้องจะอ้างว่าผู้ร้องไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจการของหนังสือพิมพ์ของบริษัทคลื่นเสียงอ่างทองก็ตาม

เมื่อพิจารณาบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 98 ซึ่งบัญญัติว่า “บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ... (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ...” หาได้บัญญัติว่า ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์หรือ สื่อมวลชนในลักษณะใดบ้างหรือไม่

ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) ที่ผู้คัดค้านไม่ประกาศรายชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ ชอบแล้ว จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2562 วันที่  6  มีนาคม 2562)

4. จากข้อมูล 4 คดีข้างต้น เทียบเคียงกรณีหุ้นไอทีวีของนายพิธา

ซึ่งตามเอกสารบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น มีชื่อนายพิธาเป็นผู้ถือครอง 42,000 หุ้น (ตามเอกสารบัญชีผู้ถือหุ้น ก่อนโอนออกไปหลังเกิดเรื่องแล้ว)

สถานะบริษัทยังประกอบกิจการ ส่งงบการเงิน มีผลกำไร แม้ไม่ได้ออกอากาศช่องไอทีวี

ดังนั้น จะร่วง หรือรอด คำตอบน่าจะชัดเจน

(ส่วนการไปเทียบกับคดีนายชาญชัย ที่ศาลฎีกาตัดสินให้รอด ได้เคยเขียนชี้รายละเอียดไปแล้ว ว่าแตกต่างกันอย่างไร)

5. น่าสนใจว่า นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ให้ข้อมูลว่า

ในการประชุมกรรมาธิการฯ ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนการถือครองหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ โดยที่ประชุมเห็นว่าเรื่องนี้มีหลายคนไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญที่จะแสดงให้เห็นนายพิธา มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญที่จะเป็นนายกฯต่อไปได้หรือไม่ ซึ่ง กมธ.ฯ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องเดียวกับที่มีผู้ไปร้องกับ กกต.แล้ว จึงเห็นว่าจะส่งเรื่องแจ้งให้ กกต.และ กมธ.ฯ เห็นว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องหาข้อยุติโดยเร็วเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายพิธาที่ต้องทำให้ข้อยุติชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาอื่นที่จะตามมา และมีผลกระทบอีกจำนวนมาก

“ทาง กมธ.จะทำหนังสือแจ้งไปยัง กกต.เพื่อให้เร่งรัดในการที่จะตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิธา และถ้าเห็นว่าสิ่งที่ได้ร้องเรียน
กันนั้นเป็นเรื่องสำคัญและมีมูล ซึ่งทางกมธ.เห็นแล้วว่ามีมูล มีข้อเท็จจริงและมีหลักฐาน จึงต้องการให้กกต.เร่งรัดในการเสนอเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชี้ขาด เพื่อความชัดเจนในการที่จะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ เพราะอย่างน้อยที่สุด การที่ศาลได้ตัดสินวินิจฉัยชี้ขาดก็จะเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศและของคนหมู่มาก หากรอไปจนถึงขั้นตอนของวุฒิสภาลงมติโหวตนายกฯ เกิดวุฒิสภาไม่เห็นชอบหรือไม่เห็นด้วย ไม่ว่าประการใด ก็จะเกิดคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเรื่องเหล่านี้ ก็จะเกิดความไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงขอให้กกต.เร่งรัดรวบรวมหลักฐานส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการต่อไปก่อนที่จะถึงกำหนดวันเลือกนายกฯ” นายเสรีกล่าว

นักข่าวถามตรงๆ ว่า ที่ประชุม กมธ.เห็นว่านายพิธาขาดคุณสมบัติแล้วใช่หรือไม่?

นายเสรี กล่าวว่า ถ้าดูตามหลักฐาน ข้อกฎหมาย และข้อบังคับของพรรคก้าวไกล มีมูลที่จะเห็นได้ว่านายพิธา ขาดคุณสมบัติตั้งแต่เป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่สมัครรับเลือกตั้ง และถ้าขาดคุณสมบัติรับเลือกตั้งก็มีผลกับการไปรับรองผู้สมัครได้พรรคให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เป็นข้อมูลหลักฐานที่ปรากฏต่อสาธารณชนอยู่แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือ กกต.ที่รับผิดชอบในการรับเรื่องร้องเรียนต้องเร่งรัด แก้ปัญหาให้ปรากฏและให้ข้อยุติ และสรุปเนื้อหาทั้งหมดโดยเร็ว หรือจะรับรอง สส.ให้เสร็จโดยเร็ว และรีบส่งเรื่องเหล่านี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว เพื่อที่จะหาข้อยุติได้ชัดเจน เพราะถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโอกาสที่บ้านเมืองจะเรียบร้อยมีสูง เพราะทุกคนยอมรับในกติกาของประเทศว่าเมื่อศาลตัดสินแล้วต้องเคารพในกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางที่ดีที่สุด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
02:00 น. ชีพจรโลกธุรกิจ : 16 กันยายน 2568
22:04 น. 'เช็ค สุทธิพงษ์'ชี้ปรากฏการณ์ 'แม่ทัพภาค2' กลายเป็นไอดอลคนรุ่นใหม่ เป็นความหวังต่างจาก'ส้มเน่า'
21:51 น. คุกพลาซ่า! มุมมองจากอดีตนักโทษ ถึงชีวิตในเรือนจำของ'ทักษิณ'
21:46 น. หนุ่มแคนาดาวัย34ปีหายตัวลึกลับในกัมพูชา พบเห็นครั้งสุดท้ายโฮสเทลที่สีหนุวิลล์
21:28 น. ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ นัดประชุมตำรวจทั่วประเทศ แก้ไขปัญหาบัญชีถูกอายัด
ดูทั้งหมด
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
ดูทั้งหมด
นักการเมืองปล้นอำนาจประชาชนฉีกทิ้ง รธน.
บุคคลแนวหน้า : 16 กันยายน 2568
เปิดด่านเพื่อ...?
เตโชเบาะสะแก ซำแต
อายัดบัญชีเหวี่ยงแห ทางแก้ (จบ)
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หนุ่มแคนาดาวัย34ปีหายตัวลึกลับในกัมพูชา พบเห็นครั้งสุดท้ายโฮสเทลที่สีหนุวิลล์

(คลิป) 'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ'เหมาะสมที่สุด! อย่าว่าแต่ผู้นำพรรคการเมือง ผู้นำประเทศก็เป็นได้แน่นอน

โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'พล.ต.ท.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย'พร้อมตำแหน่ง คืนสิทธิอันพึงมีพึงได้

พ่อค้าแม่ค้ายอมรับกังวล ยังรับสแกนจ่าย หวั่นเสียลูกค้า โอดเสียเวลาคนทำมาหากิน

'บุน รานี'มูชุดใหญ่! จัดพิธีบวงสรวงบริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สวดปัดรังควานคนรุกรานเขมร

ฮือฮาอีก! 'เต้ พระราม 7'เปิดให้ FC ช่วยตั้งชื่อพรรคการเมืองใหม่

  • Breaking News
  • ชีพจรโลกธุรกิจ : 16 กันยายน 2568 ชีพจรโลกธุรกิจ : 16 กันยายน 2568
  • \'เช็ค สุทธิพงษ์\'ชี้ปรากฏการณ์ \'แม่ทัพภาค2\' กลายเป็นไอดอลคนรุ่นใหม่ เป็นความหวังต่างจาก\'ส้มเน่า\' 'เช็ค สุทธิพงษ์'ชี้ปรากฏการณ์ 'แม่ทัพภาค2' กลายเป็นไอดอลคนรุ่นใหม่ เป็นความหวังต่างจาก'ส้มเน่า'
  • คุกพลาซ่า! มุมมองจากอดีตนักโทษ ถึงชีวิตในเรือนจำของ\'ทักษิณ\' คุกพลาซ่า! มุมมองจากอดีตนักโทษ ถึงชีวิตในเรือนจำของ'ทักษิณ'
  • หนุ่มแคนาดาวัย34ปีหายตัวลึกลับในกัมพูชา พบเห็นครั้งสุดท้ายโฮสเทลที่สีหนุวิลล์ หนุ่มแคนาดาวัย34ปีหายตัวลึกลับในกัมพูชา พบเห็นครั้งสุดท้ายโฮสเทลที่สีหนุวิลล์
  • ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ นัดประชุมตำรวจทั่วประเทศ แก้ไขปัญหาบัญชีถูกอายัด ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ นัดประชุมตำรวจทั่วประเทศ แก้ไขปัญหาบัญชีถูกอายัด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห  ทางแก้ (จบ)

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห ทางแก้ (จบ)

16 ก.ย. 2568

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห  แต่ใครซื้อทองคำตุนในกัมพูชา

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห แต่ใครซื้อทองคำตุนในกัมพูชา

15 ก.ย. 2568

คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14  คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน

คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14 คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน

12 ก.ย. 2568

นายกฯไทยคนแรกที่ติดคุก  จากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ

นายกฯไทยคนแรกที่ติดคุก จากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ

11 ก.ย. 2568

ทักษิณติดคุกจากกรรมเก่า  และเสี่ยงถูกแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มจากปมชั้น14

ทักษิณติดคุกจากกรรมเก่า และเสี่ยงถูกแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มจากปมชั้น14

10 ก.ย. 2568

คืนชีพ ‘คนละครึ่ง’  แต่ต้อง ‘ไม่หยุดแค่คนละครึ่ง’

คืนชีพ ‘คนละครึ่ง’ แต่ต้อง ‘ไม่หยุดแค่คนละครึ่ง’

9 ก.ย. 2568

ทักษิณอัสดง  เพื่อไทยฝ่ายค้าน

ทักษิณอัสดง เพื่อไทยฝ่ายค้าน

8 ก.ย. 2568

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน  อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

5 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved