วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น “รัฐบาลลุงตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผนงรจตกม.- ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด”ได้วางรากฐานและบริหารการคลังของประเทศจนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 2.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.17 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก และถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง โดยคิดเป็นประมาณ 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น สูงกว่ามหาอำนาจตะวันตกอย่างฝรั่งเศส และ อิตาลี ขณะที่บุพการีของนักการเมืองชังชาติอย่าง “จักรวรรดินิยมอเมริกา”อยู่อันดับ 13 ในอาเซียนเป็นรองแค่สิงคโปร์ชาติเดียวเท่านั้น
นอกจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นสกุลดอลลาร์แล้ว ไทยยังถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นทองคำอยู่ที่ 157 ตัน เป็นอันดับที่ 27 ของโลกในปี 2013 และเพิ่มเป็น 2,544.16 ตัน ใน 10 ปี เป็นอันดับสองของเอเชียรองจากจีน
ช่างเข้ากับเสียงสำรอกสำรากติ่งแดงด้อมส้มอุปกรณ์การเกษตรที่ว่า ผู้นำโง่เราจะตายกันหมดจริงๆ แต่คงไม่ใช่ “ลุงตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรอกเพราะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ไปแล้ว
แล้วเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีประโยชน์อย่างไร??
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ เป็นกันชนให้ระบบเศรษฐกิจไทยในการรองรับความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนจนส่งผลกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออกและราคาสินค้าซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่แท้จริงของประเทศได้ รวมทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต่างชาติใช้ประเมินความมั่นคงและเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศด้วย
เมื่อผลัดรัฐบาลใหม่ได้จอมโปรเจกท์อย่างพรรคเพื่อไทย ที่ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” กับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มือพระกาฬที่บริหารธุรกิจของตนเอง “บริษัท แสนสิริ” ประสบความสำเร็จ และกำลังจะบริหาร “เมกะโปรเจกท์” ... “นโยบายระดับ Flagship” ที่เรียกกันว่า “ดิจิทัล วอลเลต หรือที่ “พรรคเพื่อไทย” เรียกว่า “เหรียญดิจิทัลเพื่อไทยคอยน์ หรือ พีดีซี (PDC)”โดยให้ตรรกะว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ที่สำคัญสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้อยู่ในภาวะที่ต้องกระตุ้น เพราะเศรษฐกิจของประเทศเจริญพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่นามธรรม แต่เป็นรูปธรรมที่แสดงด้วยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ศึกษาวิเคราะห์ได้
ในขณะที่มีภาคส่วนอื่นที่รัฐบาลสมควรเข้าไปดูแลอย่างเร่งด่วน อาทิ ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำต่อวัน, อัตราค่าพลังงานทั้งไฟฟ้า น้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลส่งผลให้ค่าครองชีพประชาชนสูงทำให้ระดับราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคถีบตัวสูงขึ้น ค่าอาหารกลางวันเด็กที่จะต้องเจริญเติบโตให้ไปเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศยังไม่ได้รับการเหลียวแลจัดสรรให้อยู่ในระดับที่สมควรจะเป็น
ทว่างบประมาณบางส่วนถูกใช้ไปในสิ่งที่มีผลตอบแทนไม่คุ้มค่า
แถมยังเป็น งบประมาณเพื่อผู้ทรงเกียรติ...งบช้างป่วยโดยแท้
งบเพื่อผู้ทรงเกียรติที่รัฐจัดสรรงบประมาณค่าอาหารกลางวันท่านผู้ทรงเกียรติเฉลี่ยวันละ 1,000 บาท โดยไม่ได้ทำประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น สภาผู้แทนราษฎรยังมีความเสี่ยงองค์ประชุมไม่ครบ สภาฯล่มได้ทุกเมื่อเมื่อนำมาเทียบกับค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนต่อหัวแล้วต่างกันถึง 50 เท่า
งบช้างป่วยที่ ครั้งหนึ่ง “พิธาคิโอ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”นายกฯอุปโลกน์ - หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยอภิปรายท้วงติงว่ามียอดสูงเกือบสามแสนล้านบาทเทียบเท่างบประมาณกระทรวงศึกษาธิการ เป็นงบประมาณที่เป็นภาระของประเทศทำให้ไม่มีงบเหลือมากพอจะนำไปพัฒนาประเทศชาติ ในด้านอื่นได้ ทั้งที่เป็นเงินภาษีอากรประชาชนที่นำมาดูแลอดีตขุนศึกที่สร้างคุณูปการตลอดชีวิตการทำงานกว่า 15 ปีจนเกษียณ“พิธาคิโอ”ประสงค์จะดำเนินการอย่างไรกับงบประมาณจำนวนนี้ เราไม่สามารถทราบสามัญสำนึกและความนึกคิดเหล่านั้นได้
แต่ที่ผ่านมา “พิธาคิโอ - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”กลับไม่พูดถึงงบประมาณที่จัดสรรตาม “พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. 2556” เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา ทั้งการจ่ายเงินทุนเลี้ยงชีพ, การจ่ายเงินช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล, การจ่ายเงินช่วยเหลือในกรณีทุพพลภาพ, การจ่ายเงินช่วยเหลือในกรณีถึงแก่กรรม,การจ่ายเงินช่วยเหลือในกรณีการให้การศึกษาบุตร และสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด
เงินนี้มาจากไหน “ ...(เงินกู) ... ภาษีอากรของประชาชนที่รัฐบาลจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจําปีให้ เงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการบริจาค รวมกับเงินที่สมาชิกรัฐสภาซึ่งได้ส่งเงินเข้ากองทุนมีสิทธิ์ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพเมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ แห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด
นักการเมืองเสียชาติเกิดและนักเลือกตั้งชังชาติที่ไม่มีสามัญสำนึกไร้จริยธรรมขาดมโนสำนึก จึงหน้าด้านกว่าตามพ่อสอนไว้ เลือกที่จะไม่พูดไม่อภิปรายใดๆ ที่จะเสียผลประโยชน์แห่งตนเอง จึงเดียงสาจัดลำดับความสำคัญไม่ถูกต้อง

ไฟเขียวขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจ ผู้ว่า บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ จังหวัดละร้อยล้านบาท
พบกระสุน BM-21 กัมพูชา ยิงเข้าพื้นที่ตาพระยา จ.สระแก้ว
กองบัญชาการกองทัพไทย แฉ เขมร เปิดศึกรอบใหม่ เบี่ยงเบนประเด็น ทุ่นระเบิด
ฮีโร่ตัวจริง! ผกก.ไม่ลังเล ‘จอดรถช่วยชายบาดเจ็บหนัก’ กลางถนนในยามวิกาล
เปิ้ล นาคร ลั่นจัดเพื่อจบ บอกเริ่มก่อนเองนะ พร้อมให้กำลังใจทหารชายแดน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี