เวทีการเมือง คึกคักด้วยการเปิดอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งแฝงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติอยู่ในที แต่ไม่ถึงกับ
ล้ำหน้าจนผิดกาลเทศะ
กระทรวงที่ถูกใช้งบประมาณนำร่องไปสู่การอภิปรายทั่วไปอย่างชัดเจนคือ กระทรวงยุติธรรม ที่ดูเหมือนรัฐมนตรีจะ “พินาศ” ทั้งสง่าราศี ความน่าเชื่อถือ และตรรกเหตุผล
เมื่อถูกแตะต้องไปเรื่อง “นักโทษทิพย์” คือ นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่คุกไม่ถึงคืน แล้วก็มานอนป่วยคลุมเครืออยู่นอกคุก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลุกขึ้นสร้างวาทกรรม“กราบนักโทษ-เทิดไว้เหนือเกล้า” ตอนหนึ่งว่า
“...กฎกระทรวงออกมาตั้งแต่ปี 2563 แต่ระเบียบยังไม่ออก วันนี้เมื่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีประกาศว่ารัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรม ให้มีความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แต่หากเราไม่แก้ปัญหาราชทัณฑ์ ถ้าเรากลัวโดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ผมคิดว่าเราเป็นผู้ทำลายหลักนิติธรรม
ที่เพื่อนสมาชิกบอกว่าราชทัณฑ์เลือกปฏิบัติกับบางคนหรือไม่นั้น ในกฎหมายฉบับนี้ระบุว่า ราชทัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ฆ่าหรือทรมานคน หากใครเจ็บป่วยก็ต้องไปรักษา และการไปรักษาก็ไม่ใช่เพียงแค่ท่านทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว แต่มีคนจำนวนมากไปรักษา และท่านก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผมมองว่าท่านทักษิณเป็นนักสร้างสันติภาพแม้ก่อนหน้านี้ท่านจะมองว่าไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ แต่วันนี้หากอยากให้บ้านเมืองมีสันติภาพ สันติสุข มีความปรองดอง ท่านก็กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม
การป่วยของท่านก็เกิดก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาและไปรักษา เมื่อมีผู้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลซึ่งเกี่ยวข้องกับเรือนจำ กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งให้ความสำคัญกับแพทย์สูงสุดก็เขียนไว้ว่า ที่นั่นคือเรือนจำ
การอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ไปไหนไม่ได้ ก็คือการเสียอิสรภาพแล้ว...”
1) สำหรับผม พ.ต.อ.ทวี ไม่เหมาะจะเป็นรัฐมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ควบคุมกระทรวง “ยุติธรรม” เลยครับเพราะรัฐมนตรีคนนี้ นอบน้อมกับ “นักโทษ” อย่างเหลือเกินท่านอย่างนั้น ท่านอย่างนี้ สุ่มเสี่ยงต่อการถูกมองว่าเป็น “ขี้ข้า” หรือ “ลูกอัณฑะ” เอาได้ง่ายๆ รู้สึกเป็นห่วงท่านรัฐมนตรีต่อท่าทีแบบนี้อย่างที่สุด
2) ทักษิณเป็นนักสร้างสันติภาพตอนไหนครับ เห็นแต่ยุยงปลุกปั่นให้คนก่อจลาจล ไปหน้าศาลากลาง เสียงปืนแตกจะออกมาเดินนำพี่น้องด้วยตัวเอง ฯลฯ ที่พอเสร็จสมอารมณ์หมายทางการเมืองแล้ว ก็บอกว่า พี่น้องไม่ต้องมาส่งผมแล้ว ผมถึงฝั่งแล้ว แถมรัฐบาลน้องสาวยังออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ฆาตกรที่ฆ่าประชาชน โดยที่ทักษิณก็ได้ประโยชน์จากกฎหมายดังกล่าว และไม่เคยโต้แย้งพฤติกรรมที่ “ใช้ชีวิตทหาร ประชาชน สื่อมวลชน” เป็น “เครื่องบูชายัญ” นั้นเลย, ภาคใต้ลุกเป็นไฟเพราะนโยบายแบบ “กำปั้นเหล็ก”, 2,500 ศพ ในการขับเคลื่อนนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด นี่หรือครับ “นักสร้างสันติภาพของคุณทวี?
3) กฎหมายจะออกมาตอนไหน นักโทษมามอบตัวกับใคร เข้าคุกและเข้าโรงพยาบาลในรัฐบาลไหนก็ช่างเถอะ บัดนี้อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลปัจจุบันที่คุณทวีได้เป็นรัฐมนตรีเจ้าของฉายา “ทวี สอดไส้” การชี้แจง การตรวจสอบ การบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย อยู่ในหลักธรรมาภิบาล เปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ เป็นหน้าที่คุณทวีครับ โตให้พอที่จะเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่อยู่อยู่ในวัย“สูงวัย” แล้ว ช่วยมีความรับผิดชอบ สามัญสำนึกที่โตสมวัยได้ไหมครับ ไม่ใช่แก้ตัวไปต่างๆ นานา โยนไปให้คนนั้นคนนี้ เหมือนเด็กที่ไม่โตพอจะรับผิดชอบอะไรเลย
4) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...
รมต. ที่ตอบคำถามได้น่าผิดหวังที่สุดในการอภิปรายงบประมาณ คือ ท่านทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม คนกันเองกับผมเอง ที่บอกว่า คนกันเอง เพราะในช่วงที่เป็น กมธ.งบประมาณ ปี 2566 ท่านนั่งเก้าอี้ติดกับผม และช่วยกันทำงานตรวจสอบงบประมาณอย่างเข้มข้น หลายอย่างผมเรียนรู้จากท่าน
เมื่อวานท่านตอบประเด็น คุณทักษิณ พักรักษาตัวที่ชั้น 14 ได้ฮือฮามาก
1.ราชทัณฑ์ไม่ใช่ที่ฆ่าคน คนเจ็บป่วยต้องได้รับการรักษา 2 ขณะนี้เลย 120 วัน การให้อยู่ รพ.ต่อ อธิบดีต้องรายงานมาที่ รมต. ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ เลยยังตอบไม่ได้ 3. การอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมไปไหนไม่ได้ถือว่าเป็นการสูญเสียอิสรภาพแล้ว
ข้อแรก ผมเห็นด้วยและชื่นชมแนวคิดของท่านข้อสอง จะดีกว่านี้ ถ้าท่านบอกว่า ผมเร่งรัดให้รีบดำเนินแล้ว และหากเห็นรายงานว่าไม่เหมาะสม จะสั่งการให้นำคุณทักษิณกลับเรือนจำ และตั้งกรรมการสอบผู้เกี่ยวข้องข้อสาม ตรรกะใช้ไม่ได้ครับ ห้องสี่เหลี่ยมในห้องขัง กับห้องสูทคนไข้วีไอพี ชั้น 14 นั้นแตกต่างกัน เหวกับฟ้า ขอนักโทษป่วยทุกรายมาอยู่ชั้น 14 ได้ไหม ด้วยความเคารพครับ
5) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่เห็นด้วยกับคำตอบรัฐมนตรียุติธรรม ระบุว่า...ได้ฟังคำแถลงเรื่องนักโทษชาย ของ พ.ต.อ.ทวี
สอดส่อง รมว.ยุติธรรมในการประชุมสภาเรื่องงบประมาณ มีแง่มุมที่ไม่เห็นด้วยคือ
1.รมว.ยุติธรรม พยายามอ้างว่า พ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์ออกมาตั้งแต่ปี 2560 กฎกระทรวงก็ออกมาก่อน คือ ปี 2563 การที่เราออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ใหม่ไม่เกี่ยวกับนายกเศรษฐาเลย สิ่งที่ต้องถามกลับนั่นคือ การที่ท่านปล่อยให้กรมราชทัณฑ์ออกระเบียบแล้วมีอำนาจเหนือคำพิพากษา โดยอ้างอิงกฎกระทรวงและพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ โดยสามารถเปลี่ยนคำพิพากษาจากจำคุกให้ไปอยู่บ้านได้ ท่านคิดว่านี่คือหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญหรือ หรือพวกท่านกำลังเล่นแร่แปรธาตุกฎหมาย
2.แม้รมว.ยุติธรรมจะมองว่านายทักษิณเป็นนักสร้างสันติภาพ โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้นายทักษิณ จะมองว่าไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ อยากให้บ้านเมืองมีสันติภาพแต่นายทวีต้องไม่ลืมว่า นายทักษิณคือนักการเมืองโกง ถูกศาลตัดสินจำคุกในหลายคดี ที่สำคัญในราชกิจจาฯที่มีการพระราชทานอภัยลดโทษ นายทักษิณก็ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษาดังนั้น เขาจึงเป็นนักโทษคดีโกงไม่ใช่นักสร้างสันติภาพ
3.รมว.ยุติธรรมกล่าวด้วยว่า ที่มีหลายคนสงสัยว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าป่วยจริง ปัญหาของนักโทษชายไม่ใช่แค่อ้างว่าป่วยจริง แต่ต้องยืนยันว่าป่วยหนัก จนรพ.ราชทัณฑ์รักษาไม่ได้ และมีน้ำหนักทางการแพทย์ว่าต้องรักษาต่อเนื่อง อาการปางตาย วันนี้ประชาชนไม่เชื่อถือในคำพูดที่พวกท่าน สิ่งที่ชี้แจงมาตลอดในช่วง 4 เดือนกว่า ขัดความรู้สึกประชาชน อย่ามองว่าประชาชนไม่รู้หรือโง่ ท่านต้องแถลงพร้อมเอาหลักฐานเช่น ใบรับรองความเห็นแพทย์หลักฐานที่ประชาชนสนใจ แค่นี้ก็จบ
6) เผือกร้อนเรื่องนี้ กำลังลามเลยจาก “ทวี” ไปสู่รองนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่นายกฯ เพิ่งมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรมด้วย โดย นายวัชระเพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ถึงนายพีระพันธุ์ ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน10 ประเด็น กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก 1 ปี แต่ไม่ได้จำคุกจริงในเรือนจำแม้แต่วันเดียวจริงหรือไม่ มีอาการป่วยเป็นเท็จหรือไม่ และอยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจตลอดเวลาหรือไม่ และขอสำเนาเอกสารตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
จึงขอให้นายพีระพันธุ์โปรดดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทำความกระจ่างใน 10 เรื่องต่อไปนี้ คือ
1.ปรากฏข้อเท็จจริงว่าวันที่ 22 ส.ค. 2566 กรมราชทัณฑ์มีการดำเนินการตามขั้นตอนเมื่อรับนายทักษิณเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯหรือไม่ มีการกรอกทะเบียนประวัตินักโทษ (ร.ท.101) ครบทุกข้อจำนวน 4 หน้าหรือไม่ ถ่ายรูปในชุดนักโทษและตัดผมทรงนักโทษหรือไม่ เข้าห้องขังหรือไม่ มีข้าราชการการเมืองสั่งการให้ข้าราชการกรมราชทัณฑ์กระทำการขัดต่อระเบียบ กฎหมายของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ และขอให้ท่านมีข้อสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ส่งคลิปกล้องวงจรปิดของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 22-23 ส.ค. 2566 ในจุดที่นายทักษิณเดินเข้าและออกจากเรือนจำแก่คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และให้เปิดเผยต่อสาธารณชนด้วย
2.กรณีแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ส่งตัว นายทักษิณ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ มีอาการเจ็บป่วยจริงหรือไม่ออกใบรับรองเท็จหรือไม่ และขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแพทย์และพยาบาลทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้กันข้าราชการที่ให้การเป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานด้วย
3.นายทักษิณ อยู่พักรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจตลอดเวลาหรือไม่ ป่วยจริงหรือไม่ มีแพทย์และพยาบาลดำเนินการรักษาจริงทุกวันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2566 จนถึงปัจจุบันหรือไม่ มีเวชระเบียนการรักษาทุกวันหรือไม่ ขอให้เปิดเผยรายชื่อเจ้าพนักงานเรือนจำที่ควบคุม นายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจทุกนาย และขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าพนักงานเรือนจำที่ควบคุม นายทักษิณทุกนาย และผู้ตรวจเวรที่ไปเฝ้า นายทักษิณทุกวันว่าได้พบ น.ช.ทักษิณหรือไม่ มีการบันทึกภาพหรือไม่ และมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ โดยขอให้กันข้าราชการที่ให้การเป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานด้วย
4.การออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 6 ธ.ค. 2566 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เร่งรัดบังคับให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการออกระเบียบให้ทันบังคับใช้ในปี 2566 หรือไม่ ขอให้ท่านมีข้อสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ส่งสำเนาการประชุมการร่างออกระเบียบดังกล่าวทุกครั้งแก่คณะกรรมาธิการการตำรวจสภาผู้แทนราษฎรและส่งสำเนาให้ข้าพเจ้าด้วยจำนวน 1 ชุด
5.ขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนกรณีกล้องวงจรปิดโรงพยาบาลตำรวจเสียทุกตัวทุกชั้น และขอให้ประสานงานสั่งการให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจภายใน 7 วัน เพราะนายทักษิณมีสภาพเป็นนักโทษเด็ดขาดอยู่ภายใต้กฎหมายของกรมราชทัณฑ์
6.ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ลงวันที่ 6 ธ.ค. 2566 มีอำนาจเหนือคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา จำนวน 3 คดีหรือไม่และมีอำนาจเหนือราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 1 ก.ย. 2566หรือไม่ การเร่งรัดออกระเบียบฯเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ เป็นการละเมิดพระราชอำนาจตามพระบรมราชโองการที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 1 ก.ย. 2566 หรือไม่ ท่านจะดำเนินการอย่างไร
7.ขอให้บังคับโทษทางแพ่งนายทักษิณ ชำระเงินให้แก่รัฐคดีทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) จำนวนเงิน 189,125,644.55 บาท พร้อมดอกเบี้ย คดีหมายเลขแดง ที่ อม.4/2551 มีการบังคับคดีแล้วหรือยัง เมื่อไร ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรมถ้ายังไม่ดำเนินการท่านจะสั่งการตามอำนาจหน้าที่อย่างไร
8.นายทักษิณ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ข้อ 7(3) ที่ต้องรายงานต่อรัฐมนตรีทราบนั้น ขอให้เปิดเผยรายงานต่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศภายใน 7 วัน
9.ขอให้นายพีระพันธุ์ เดินทางไปโรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ภายใน 7 วัน เพื่อตรวจสอบว่า น.ช.ทักษิณ ชินวัตรป่วยจริงหรือไม่ และอยู่โรงพยาบาลตลอดเวลาหรือไม่
10.มีข่าวว่าจะมีการทำบัญชีโยกย้ายข้าราชการกรมราชทัณฑ์ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของฝ่ายการเมืองในกรณีนี้หลายตำแหน่ง ท่านจะให้ความยุติธรรมเบื้องต้นแก่ข้าราชการอย่างไร การกระทำของข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำตามข้อ 1-8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างกรรมต่างวาระ ผิดประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง
“จึงขอให้ท่านตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายใน 7 วันเพื่อผดุงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรม ขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทุกประเด็นในเรื่องนี้ เพื่อมาตรฐานความยุติธรรมที่เท่าเทียมกับนักโทษ 280,000 รายทั่วประเทศ รวมทั้งขอให้บังคับโทษทางอาญา นายทักษิณอย่างเคร่งครัด หากท่านไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่ประชาชนร้องเรียนผมมานี้ ภายใน 7 วัน ผมจำเป็นต้องยื่นร้องเรียนกล่าวโทษบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมา เพื่อให้ ป.ป.ช.สอบสวนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกมาตรา และสอบจริยธรรมร้ายแรงต่อไป”
น่าติดตามว่า รองนายกฯพีระพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท่านจะเคลื่อนไหวอย่างไร มาตรฐานจะดีกว่า เท่ากัน หรือต่ำกว่ามาตรฐานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ชื่อ “ทวี สอดส่อง”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี