นับเป็นข่าวดีหลังจากที่ภาครัฐของไทยประกาศว่า กระทรวงอุตสาหกรรมสำรวจและพบว่ามีแหล่งแร่ลิเธียม (Li) ที่มีศักยภาพดี (เขียนตามคำอ้างของฝ่ายรัฐบาล แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ระบุว่าดีอย่างไร) สองแหล่งในจังหวัดพังงา คือแหล่งเรืองเกียรติ และบางอีตุ้ม โดยระบุด้วยว่าพบแร่ลิเธียมจำนวน 14 ล้าน 8 แสนตันนับว่ามีมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากโบลิเวีย และอาร์เจนตินา
ใครที่เรียนเคมีแล้วเข้าใจวิชานี้ดีมากๆ คงนึกถึงตารางธาตุออกโดยพลัน แล้วเมื่อได้ยินชื่อลิเธียม ก็คงต้องรู้โดยพลันอีกเช่นกันว่าลิเธียมนี้มีลำดับในตารางธาตุคือ อยู่ในแถวตั้งที่ 1 จากทั้งหมด 18 แถวตั้ง และอยู่ในลำดับแรกของแถวแนวนอนที่ 2 จากทั้งหมด 8 แถว จึงรู้โดยพลันว่าลิเธียมมีความสำคัญมาก เพราะอยู่ในกลุ่มโลหะอัลคาไลน์เอิร์ธ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ในยุคที่คนจำนวนมากกำลังตื่นเต้นกับรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ ลิเธียมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดตัวหนึ่งในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
หากข่าวนี้ ซึ่งถูกกระจายโดยภาครัฐเป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็หมายความว่าไทยจะกลายเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมในอนาคต และจะช่วยดึงดูดให้นักลงทุนที่ทำธุรกิจผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ความสนใจไทยมากขึ้น แล้วก็มีความหวังเพิ่มขึ้นด้วยสำหรับโอกาสที่จะดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยในอนาคต
ทั้งหมดที่พูดถึงนี้ ต้องบอกว่าเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยในอนาคต เหตุที่ต้องย้ำบ่อยๆ ว่าเป็นเรื่องในอนาคต เพราะว่าข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะจากรัฐบาลไทย เพราะรัฐบาลไทยโดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้แต่เพียงระบุว่าสำรวจเบื้องต้นแล้วค้นพบว่ามีลิเธียมในจังหวัดพังงา แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังทำให้รู้สึกว่านี่คือข่าวดีอีกข่าวหนึ่งของไทย แล้วก็หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริง
ขณะเดียวกันก็ยังมีข่าวจากภาครัฐระบุว่าค้นพบแร่โซเดียมจำนวนมากในเขตจังหวัดภาคอีสาน แต่ไม่ได้ระบุว่าพบที่จังหวัดใดบ้าง และมีจำนวนคาดการณ์ปริมาณเท่าไร เพียงแต่บอกคร่าวๆ ว่าค้นพบโซเดียมจำนวนมากในภาคอีสาน
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าข่าวที่รัฐบาลให้กับสาธารณชนในเรื่องนี้ คือเรื่องพบลิเธียมและโซเดียม เป็นข่าวน่าตื่นเต้นและน่ายินดี เพราะแร่ทั้งสองชนิดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ยานพาหนะตัวใหม่ที่ผู้คนที่มีกำลังซื้อกำลังต้องการนำมาใช้ เพราะเห็นว่าช่วยลดปัญหามลภาวะต่างๆ ของโลกได้อย่างเป็นรูปธรรม
ลำดับต่อไปที่จะต้องจับตามองก็คือ เมื่อเราเชื่อว่าเรา (คือประเทศไทย) มีแร่สำคัญทั้งสองชนิด ก็ต้องดูว่าใครจะได้รับสัมปทานในการทำเหมืองแร่สำคัญนี้ การเปิดประมูลให้ผู้เข้าไปทำกิจการเหมืองแร่จะโปร่งใสบริสุทธิ์หรือไม่ จะมีการเล่นพรรคเล่นพวกกันเหมือนในอดีตหรือไม่ สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่ประชาชนต้องช่วยกันจับตามอง และเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องเจ็บปวดมาโดยตลอดที่ทรัพยากรสำคัญของไทย ได้ถูกคนบางจำพวก โดยเฉพาะคนมีอำนาจรัฐที่มีความฉ้อฉลมักจะใช้เล่ห์เหลี่ยมเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ โดยเบียดบังผลประโยชน์ของสาธารณะไป ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเกือบจะไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากการร่วมเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่ามหาศาลของแผ่นดิน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี