วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 02.00 น.
การตัดสินใจบนความขัดแย้ง ต้องไม่เป็นภัยต่อชาติ

ดูทั้งหมด

  •  

ประวัติศาสตร์ของชาติไทยในช่วงอาณาจักรอยุธยาตลอดระยะเวลา ๔๑๗ ปี และมีพระมหากษัตริย์ปกครองแผ่นดิน ๓๓ พระองค์มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องของการศึกสงคราม การขยายอาณาเขต การค้าขายกับต่างชาติ และอื่นๆ  ซึ่งบางเหตุการณ์สามารถนำมาเป็นข้อคิดในการบริหารราชการแผ่นดินได้เป็นอย่างดี

สงครามช้างเผือก เป็นตัวอย่างหนึ่งของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ในการนำมาศึกษา เป็นบทเรียนที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางด้านความคิดและการตัดสินใจซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงอยู่ของชาติ เหตุการณ์ที่เรียกว่าสงครามช้างเผือกนี้เกิดขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๑๕ ของอาณาจักรอยุธยา โดยเกิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๑๐๖


ในช่วงเวลาดังกล่าว กรุงศรีอยุธยาและกรุงหงสาวดีต่างก็มีความเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ โดยอาณาจักรอยุธยามีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องบุญญาบารมีของพระมหากษัตริย์ผู้ปกครองแผ่นดิน คือสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสวยราชสมบัติเมื่อปีพุทธศักราช ๒๐๙๑ ซึ่งพระองค์ได้ครอบครองช้างเผือกถึง ๗ เชือก เพราะมีความเชื่อกันว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดที่ครอบครองช้างเผือกไว้ได้มาก ย่อมหมายถึง เป็นผู้ที่มีบุญญาบารมีสูงส่ง เป็นพระเกียรติยศที่ปรากฏไปยังนานาอารยประเทศ

ในขณะที่กรุงหงสาวดี ก็ต้องยอมรับกันว่าพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองก็เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักร พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความกล้าหาญและเชี่ยวชาญในการรบเป็นอย่างยิ่ง สามารถรวบรวมเมืองต่างๆในอาณาจักร เช่น หงสาวดี เมืองแปร อังวะ และอื่นๆ ให้มาอยู่ภายใต้อาณาจักรได้ทั้งหมด จนได้ชื่อว่าผู้ชนะสิบทิศ

เมื่อพระเจ้าบุเรงนองทราบว่าอาณาจักรอยุธยาได้ครอบครองช้างเผือกเป็นจำนวนมาก จึงมีพระราชประสงค์ที่จะได้ช้างเผือกมาเสริมพระบารมีเช่นกัน แต่ในเบื้องลึกก็น่าจะเป็นเรื่องที่พระองค์ต้องการแผ่พระบรมราชานุภาพมายังกรุงศรีอยุธยา แต่ยังหาเหตุไม่ได้  เมื่อทราบว่ากรุงศรีอยุธยามีช้างเผือกถึง ๗ เชือก ด้วยความที่พระองค์เฉลียวฉลาดในพระราโชบาย จึงมีพระราชสาส์นให้ราชทูตนำมายังกรุงศรีอยุธยา เป็นทำนองว่าจะขอเจริญทางพระราชไมตรี โดยกล่าวว่าสมเด็จพระเชษฐาซึ่งหมายถึงสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงมีบุญญาธิการมาก มีช้างเผือกถึง ๗ เชือกแต่กรุงหงสาวดียังหามีไม่ จึงขอให้เห็นแก่ไมตรี ขอพระราชทานช้างเผือก ให้แก่ข้าพเจ้าผู้เป็นอนุชาสัก ๒ เชือก เพื่อให้พระราชไมตรีของทั้งสองพระนครจะได้เจริญพัฒนาการสืบไป

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงเรียกประชุมเสนาบดีชั้นผู้ใหญ่เพื่อพิจารณา ว่าสมควรพระราชทานช้างเผือกตามที่ขอมาหรือไม่ ซึ่งมตินั้นไม่เป็นเอกฉันท์ มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ฝ่ายที่เห็นด้วยให้เหตุผลว่า พระเจ้าหงสาวดีลิ้นดำหรือพระเจ้าบุเรงนองนี้ มีพระบารมีสูงยิ่ง จนเลื่องลือกันว่าเป็นผู้ชนะสิบทิศ ฉลาดหลักแหลม มีกลยุทธ์ในการศึกที่กล้าแข็ง กรุงศรีอยุธยาคงจะต้านพระบรมราชานุภาพไม่ได้ หากมอบช้างเผือกให้ไปจำนวน ๒ เชือก ก็ยังเหลืออีก ๕ เชือก ถึงแม้จะเสียพระเกียรติบ้างก็ต้องยอม เพราะหากดึงดันไม่ยอมตามที่ขอคงจะเกิดสงครามใหญ่ สมณะชีพราหมณ์ อาณาประชาราษฎร์ ข้าไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะล้มตายเป็นใบไม้ร่วง รวมไปถึงขอบขัณฑสีมารอบพระนครจะถึงแก่การแตกสลายพินาศสิ้น อีกทั้งพระศาสนาก็จะเศร้าหมอง

ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ประกอบด้วยสมเด็จพระราเมศวร พระยาจักรี และพระสุนทรสงครามให้เหตุผลว่าการขอช้างเผือกมานั้นเป็นเพียงกลอุบายที่จะหาเหตุรุกรานกรุงศรีอยุธยา เพื่อจะให้อยู่ภายใต้อำนาจยอมอ่อนน้อมเป็นข้าขัณฑสีมาโดยไม่ต้องรบพุ่งให้เสียเลือดเนื้อ การที่จะมอบช้างเผือกให้กลับจะทำให้เห็นว่าไทยกลัวพม่าจนยอมอยู่ในอำนาจ ไฉนเลยจะนิ่งเฉย คงจะหาเหตุอื่นยกทัพมารุกรานไทยจนเป็นเมืองขึ้นในภายภาคหน้า โดยฝ่ายนี้เห็นว่ากรุงศรีอยุธยาจะสู้รบเอาชนะข้าศึกได้

เมื่อเป็นดังนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงมีพระราชสาส์นตอบไปอย่างถนอมน้ำใจยิ่งว่า ช้างเผือกย่อมเกิดสำหรับบุญบารมีของพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นเจ้าของ หากพระเจ้าหงสาวดีได้ทรงบำเพ็ญธรรมให้ไพบูลย์ ก็คงจะได้ช้างเผือกมาสู่พระบารมีเป็นมั่นคง อย่าได้ทรงพระวิตกเลย ซึ่งก็คือการปฏิเสธนั่นเอง

จึงเป็นที่มาของสงครามช้างเผือก โดยพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองได้สั่งให้จัดทัพใหญ่ มีกำลังพลถึง ๕ แสนนาย แบ่งออกเป็น ๕ ทัพ เพื่อจะยกมาตีกรุงศรีอยุธยา โดยยกทัพเข้ามาทางด่านแม่ละเมา ซึ่งง่ายต่อการนำปืนใหญ่ขนาดใหญ่มาได้ กองทัพทั้งห้าประกอบด้วยกองทัพหน้า มีสมเด็จพระมหาอุปราชามังไชยยะสิงห์ พระราชโอรสเป็นแม่ทัพ  ปีกขวา ผู้ที่เป็นแม่ทัพคือพระเจ้ากรุงอังวะ ราชบุตรเขย ปีกซ้าย ผู้ที่เป็นแม่ทัพคือพระเจ้าแปร ราชอนุชา ทัพหนุน ผู้เป็นแม่ทัพคือพระเจ้าตองอู ราชอนุชา ส่วนพระองค์เองเป็นจอมทัพของกองทัพหลวง และยังให้กองทัพของพระเจ้าเชียงใหม่เป็นกองระวังหลังและจัดเตรียมเสบียงทั้งหมดด้วย แต่ละทัพมีม้าจำนวนนับ ๑,๐๐๐ ตัว และช้างอย่างน้อย ๕๐๐ ตัว

ทัพของพระเจ้าบุเรงนองได้ปราบหัวเมืองทางเหนือทั้งหมดจนกระทั่งถึงเมืองพิษณุโลกซึ่งพระมหาธรรมราชาทรงครองเมืองอยู่ และในที่สุดด้วยกำลังทหารที่มากมาย  ก็สามารถเกลี้ยกล่อมให้พระมหาธรรมราชาทรงยอมเข้าร่วมรบกับกองทัพของพระองค์ด้วย

ในที่สุดทัพของพระเจ้าบุเรงนองก็มาถึงกรุงศรีอยุธยา และตั้งทัพล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ทั้ง ๔ ด้าน และด้วยเห็นว่าเพื่อมิให้เป็นการเสียเลือดเนื้อ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิก็ได้ยอมออกไปเจรจากับพระเจ้าบุเรงนอง โดยยอมรับข้อเสนอต่างๆ ทั้งหมด ทั้งในเรื่องให้สมเด็จพระราเมศวรไปเลี้ยงเป็นพระราชโอรส รวมทั้งนำตัวพระยาจักรีและพระสุนทรสงครามไปด้วย ตลอดจนการมอบช้างพลายเผือกจำนวน ๔ เชือกให้กับพระเจ้าบุเรงนอง

ในส่วนของการบริหารบ้านเมืองโดยรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้  ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ซึ่งในการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งนั้น ก็ได้นำเสนอนโยบายต่างๆ ที่เป็นลักษณะของประชานิยมไว้ค่อนข้างจะมาก  ที่สำคัญคือการแจกเงิน Digital Wallet ซึ่งไม่ใช่เป็นตัวเงินจริงให้กับประชาชนที่อายุ ๑๖ ปีขึ้นไปโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ  ซึ่งเดิมคาดว่าจะใช้เงิน ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่ในที่สุดก็ปรับลดลง เหลือประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท  ซึ่งเมื่อตอนหาเสียงนั้นได้กล่าวไว้ว่าจะแจกให้โดยเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเกิดประเด็นความขัดแย้งทางด้านความคิดของนักวิชาการทางด้านเศรษฐศาสตร์รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีบทบาทหน้าที่หลักในการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ว่าการแจกเงินดังกล่าวจะไม่ช่วยแก้ปัญหาที่รัฐอ้างว่าเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ  ตลอดจนวิธีการหาเงินดังกล่าวมาก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้มาอย่างไร ซึ่งน่าจะต้องเป็นเรื่องของการกู้ ซึ่งมีผู้แย้งว่าหากประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจจริง อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และยังจะทำให้ประเทศมีหนี้สินเพิ่มเติมจำนวนมาก

ขณะนี้หนี้ครัวเรือนของประเทศไทยมีมากกว่า ๙๐% ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี และโดยความจริงประเทศไทยยังคงมีหนี้สินที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาทที่เกิดภาวะต้มยำกุ้ง ทำให้ต้องกู้เงินจากกองทุน IMF มากกว่า ๑ ล้านล้านบาท ซึ่งยังค้างชำระอยู่มากกว่า ๖ แสนล้านบาท โดยรัฐบาลต้องตั้งงบประมาณเพื่อชำระในส่วนของดอกเบี้ยปีละประมาณ ๑๙,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งคาดว่ายังจะต้องใช้เวลาอีกนับ ๑๐ ปี จึงจะผ่อนหนี้ก้อนเดิมหมด การที่จะกู้เงินก้อนใหม่จำนวนมากจึงจะเป็นการเพิ่มหนี้สินและยังเป็นภาระค่าดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ ๒.๕% ซึ่งไม่น้อยกว่าปีละ ๑๔,๐๐๐ บาทล้านบาทไปเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน  เงินจำนวนดังกล่าวนี้หากนำไปใช้ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไม่ว่าการสร้างสนามบินเพิ่มเติม ระบบขนส่งมวลชน เช่นรถไฟฟ้าทั้งในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ ก็จะทำโครงการได้อีกมากมาย

การขัดแย้งทางความคิดครั้งนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร และหากการตัดสินใจของรัฐบาลผิดพลาด ก็จะนำไปสู่ความเสียหายของประเทศชาติได้ การรับฟังความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย และอาจารย์ตลอดจนนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ทั้งหลาย จึงเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ในการทบทวนเรื่องดังกล่าว อย่านำประเด็นเรื่องหาเสียงมาเป็นข้อกำหนดว่าจะต้องจัดทำเรื่องนี้ให้ได้เพื่อรักษาฐานเสียงของตัวเองไว้ แต่ไม่อาจรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติไว้ได้ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:39 น. วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน
13:35 น. (คลิป) เคลียร์ชัด!! ไทกร เปิดดีลลับตั้งนายก ตีแผ่หมดเปลือก ใครเป็นใคร!!
13:31 น. ช่อง 7HD ชวนกรี๊ด ร่วมเกาะติดบรรยากาศสดจากงานบวงสรวง ซีรีส์ชุดฟอร์มยักษ์ '4 Element บ้านวาทินวณิช'
13:31 น. แกะขายแทบไม่ทัน! ชาวสงขลาแห่ซื้อทุเรียน-หลังปีนี้มีราคาถูกจนจับต้องได้
13:26 น. 'รังสิมันต์'เผย'นายกฯ-กต.'ให้ความร่วมมือน้อย! หลังไม่แจง กมธ.มั่นคงฯ ปมคลิปเสียง
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
‘ทักษิณ‘ พร้อมลูกสาว ’เอม พินทองทา‘ เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก คดี ม.112
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ทิศทางของไทยคือความเป็นกลาง
‘หนีดีกว่า’อวสาน‘ตระกูลชิน’
สองพ่อลูกลุยกรรม
ไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกา
เดือน ก.ค. อำนาจตุลาการพิทักษ์แผ่นดิน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

(คลิป) เคลียร์ชัด!! ไทกร เปิดดีลลับตั้งนายก ตีแผ่หมดเปลือก ใครเป็นใคร!!

วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน

'รังสิมันต์'เผย'นายกฯ-กต.'ให้ความร่วมมือน้อย! หลังไม่แจง กมธ.มั่นคงฯ ปมคลิปเสียง

'ญี่ปุ่น'แผ่นดินไหวทะลุ1,000ครั้ง! แถลงการณ์ฉุกเฉินสั่งปชช.เตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อ

(คลิป) ครม.อุ๊งอิ๊งค์ 1/2 ชุดขาวในเงามืด!

'อุ๊งอิ๊งค์'วางฤกษ์ 9 โมง เข้ากระทรวงวัฒนธรรมวันพรุ่งนี้

  • Breaking News
  • วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน
  • (คลิป) เคลียร์ชัด!! ไทกร เปิดดีลลับตั้งนายก ตีแผ่หมดเปลือก ใครเป็นใคร!! (คลิป) เคลียร์ชัด!! ไทกร เปิดดีลลับตั้งนายก ตีแผ่หมดเปลือก ใครเป็นใคร!!
  • ช่อง 7HD ชวนกรี๊ด ร่วมเกาะติดบรรยากาศสดจากงานบวงสรวง ซีรีส์ชุดฟอร์มยักษ์ \'4 Element บ้านวาทินวณิช\' ช่อง 7HD ชวนกรี๊ด ร่วมเกาะติดบรรยากาศสดจากงานบวงสรวง ซีรีส์ชุดฟอร์มยักษ์ '4 Element บ้านวาทินวณิช'
  • แกะขายแทบไม่ทัน! ชาวสงขลาแห่ซื้อทุเรียน-หลังปีนี้มีราคาถูกจนจับต้องได้ แกะขายแทบไม่ทัน! ชาวสงขลาแห่ซื้อทุเรียน-หลังปีนี้มีราคาถูกจนจับต้องได้
  • \'รังสิมันต์\'เผย\'นายกฯ-กต.\'ให้ความร่วมมือน้อย! หลังไม่แจง กมธ.มั่นคงฯ ปมคลิปเสียง 'รังสิมันต์'เผย'นายกฯ-กต.'ให้ความร่วมมือน้อย! หลังไม่แจง กมธ.มั่นคงฯ ปมคลิปเสียง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

12 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved