วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568
“ทักษิณ ชินวัตร” ที่วันนี้ผันกายแปลงร่างเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทในสังกัด “เพื่อไทยการละคร” ออกจาก“ห้องรอยัล สูท ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ” ที่เจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมายอย่าง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” สส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้คำจำกัดความว่า “คุก”...“ห้องกักขังควบคุมตัวทูนหัวของบ่าว - นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ... นักสร้างสันติภาพ”
คุกสำหรับนักการเมืองขี้ฉ้อตลอดระยะเวลากว่า 180 วันจนครบเกณฑ์กติกาพักโทษที่ผู้มีอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้ยืนยันอย่างมั่นเหมาะว่าไม่ใช่สองมาตรฐาน
พฤติปฏิบัติที่ “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหนูน้อยถุงเท้าแดง”ระบุอย่างไม่ต้องมีสามัญสำนึกว่าได้ถูกปฏิบัติอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามเสียงเพรียกร้องเดิมที่ต้องการให้ “สัมภเวสี โทนี่ วู้ดซัม”กลับมารับโทษทัณฑ์ตามกรรมที่สร้างไว้กับประเทศชาติบ้านเมือง ตามลักษณะ “ก.ม.-กฎแม้ว” แบบไม่เคยซุกหัวนอนในคุกเลยสักครา
ไม่ต้องมีใครประจาน โจษจันดอกกับสังฆกรรมนี้เพราะภาพที่ “อุ๊งอิ๊ง - แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำภาพบุพการีมาโพสต์ในสื่อโซเชียลตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เป็นที่ประจักษ์ดีว่าละครบทนี้แสดงได้สมบูรณ์แบบหรือไม่ อย่างไร
สภาพร่างกายภายนอกของผู้ป่วยหนักขั้นวิกฤตในวัย 70 ปี นอนป่วยวิกฤตฉุกเฉินที่ต้องเฝ้าดูแลอาการใกล้ชิดกว่า 180 วัน ทว่า ผมดกดำสนิทไม่หงอกไม่โทรมแม้แต่น้อย แขนขาสมบูรณ์ราวกับทำกายภาพทุกวัน
เป็นอะไรที่สมควรศึกษาเป็นงานวิชาการทางการแพทย์เป็นอย่างยิ่ง
เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าลงทุนจ่ายไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เป็นการจ่ายอย่างเห็นผลและประสบผลโดยแท้
เมื่อทักษิณออกมาสู่สังคม เสียงอื้ออึงก็เล็ดลอดออกมาบางทีอย่างจงใจบ้างอย่างช่วยไม่ได้บ้าง ตามประสาปากหอยปากปูของควรคู่สังคมไทยว่าบัดนี้ “สังคมไทย”เกิดอาเพศ “หนึ่งประเทศสองนายกรัฐมนตรี”เสียแล้ว
เสียงอื้ออึงโจษจันนี้ “เศรษฐา ทวีสิน”หาได้ยี่หระย้ำชัดตามประสาอนุบาลการเมือง มั่นใจ “รัฐบาลนิดหนึ่ง”เต็มที่ทุกมิติ ตื่น 7 โมงเช้าไปทำงานคือเก่า เมินประเด็น “ดาวไร้แสง”
“สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ” หรือไม่ คนที่ตอบเรื่องนี้ได้คงมีเพียงสองคนเท่านั้น คือเศรษฐา ทวีสิน 1ที่ต้องเล่นบทบาทนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ หลังรัฐสภาลงมติ 482 เสียงรับรองให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี และ“ทักษิณ ชินวัตร”อีกหนึ่งที่เล่นบทผู้ป่วยหนักวิกฤตจนเข้าข่ายพักโทษกลับมาจองจำที่บ้าน
จากนี้ “หนึ่งประเทศหนึ่งรัฐบาลสองนายกรัฐมนตรี”อย่างที่ “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร - ชัยธวัชตุลาธน” จะออกอาการ “พิกุลร่วงจากปาก” ... สภาพดังกล่าวจะเหมือนกับการมีนายกฯ 2 คน ถ้าไม่ระมัดระวัง และจะมีปัญหาในการบริหารงานรัฐบาลของนายเศรษฐาทวีสิน จะสั่นคลอน ถ้าบริหารจัดการไม่ดีก็จะมีปัญหา ส่วนกรณีถ้านายทักกี้/ทักษิณ แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ถือเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ว่าอย่าทำให้เกิดความยุ่งยากในการบริหาร จนถึงขั้นที่ว่านายกฯ เป็นใครกันแน่ และทั้งครม.และขรก.ผู้ปฏิบัติงานจะต้องฟังใคร รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องระมัดระวังเรื่องนี้
ที่ผ่านมาในอดีตเคยเกิดเรื่องราวทางการเมืองในลักษณะนี้เมื่อปี 1975 หรือราวปี 2518 ยุคที่มีหม่อมป้า - หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี “Universal Pictures” ได้นำนวนิยายเชิงการเมืองชื่อ “อเมริกันอันตราย - Ugly American” มาสร้างเป็นภาพยนตร์ กำกับโดย “จอร์จอิงลันด์ บทภาพยนตร์โดย สจ๊วต สเติร์น นำแสดงโดยมาร์ลอนแบรนโด ที่รับบทเป็น แฮร์ริสัน คาร์เตอร์ แม็กไวต์
ขณะที่ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ รับบทเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศสารขัณฑ์ ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกฯคนที่ 13 ของราชอาณาจักรไทยภายหลังการปฏิบัติสยามด้วย จนเกิดเสียงกระเซ้า 2 ประเทศ หนึ่งนายกฯ
สัจธรรมของละคร/ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง จะมีพระเอกแค่หนึ่งเดียว พระรองหรือผู้ช่วยพระเอกอาจจะมีมากมาย และเช่นกัน “มหาโจร” อุบาทว์ชั่วร้ายก็มีหัวโจกที่ฆ่าได้แต่ตายยากเพียงหนึ่งเดียว โจรที่เหลือก็แค่สมุนโจรกระจอก
อย่าไปคำนึงไปพะวงเรื่อง หนึ่งประเทศหนึ่งรัฐบาลสองนายกรัฐมนตรีอยู่เลย มีแค่ในภาพยนตร์
อย่าได้แม้แต่จะคิด มิติ 1 นายกฯ 2 ประเทศอย่างท่าน “ม.ร.ว.ถ้วนเท่านึก คึกฤทธิ์ ปราโมช”จะบังเกิดในโลกแห่งความเป็นจริง
ความจริงที่ประชาชนรู้กันทั่วประเทศก็คือใครกันแน่ที่คือนายกฯตัวจริง?

นายกฯไทย-สิงคโปร์ ตั้งเป้า ยกระดับความร่วมมือด้านศก.ดิจิทัล-ความมั่นคงทางอาหาร ต่อต้านสแกมเมอร์
ตำรวจวิสามัญ 'บอย บางกรวย' ผู้ต้องหาคดียา เหิมชักปืนยิงสู้ ขณะถูกปิดล้อมจับ
จุฬาราชมนตรี ประกาศแนวทาง ผู้นับถืออิสลาม ถวายอาลัยพระบรมศพ การแต่งกายไว้ทุกข์
'เปิ้ล นาคร'โพสต์ซึ้งถึง 'จิตอาสา' ผู้เสียสละ! ลั่น'โคตรเหนื่อย โคตรเสี่ยง' แต่สุขใจที่ได้เห็นรอยยิ้ม
สหรัฐฯจ่อยกเลิกคำสั่งห้ามซื้อขายอาวุธให้กัมพูชา หลังเห็นความมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี