วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เรื่องของกรรมนั้น ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะในทางพุทธศาสนาถือว่ากฎแห่งกรรมคือกฎธรรมชาติ เมื่อมีการกระทำแล้วก็ต้องมีผลแห่งกรรม ดังความที่ว่า“ทำดีย่อมได้รับผลดี ทำชั่วย่อมได้รับผลชั่ว”
คดียืดเยื้อเกี่ยวกับคนกลุ่มหนึ่งที่ให้การช่วยเหลือนายวรยุทธ หรือ “บอส อยู่วิทยา” ทายาทกระทิงแดงผู้ต้องหาในคดีขับรถเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียรกลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 จนรอดพ้นคดีไปได้จากการสั่งไม่ฟ้องของอัยการ วันนี้ผลของกรรมกำลังปรากฏเป็นจริงกับบุคคลกลุ่มนั้น
ตลอดระยะเวลา 12 ปีนับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผู้คนในสังคมไม่เคยลืมว่าคดีนี้เป็นอย่างไร ใครช่วยเหลือใคร และวลีอมตะที่ไม่เคยเลือนหายไปจากสังคมไทยก็คือ“คุกมีไว้ขังคนจน” จึงทำให้ทายาทของกระทิงแดงรายนี้รอดคดีมาได้ และคดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยสั่นสะเทือนโดยเฉพาะตำรวจและอัยการที่มีส่วนช่วยเหลือ ด้วยการเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับขณะเกิดเหตุให้เหลือแค่ไม่ถึง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นผลให้ในปี 2563 อัยการมีคำสั่ง“ไม่ฟ้องคดี”
อย่างไรก็ตาม คำสั่งไม่ฟ้อง“ทายาทกระทิงแดง”ดังกล่าวของอัยการ ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากล จนกระทั่งรัฐบาลในขณะนั้นโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องแต่งตั้งนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป.ป.ช.เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญานายวรยุทธ อยู่วิทยา รวมทั้งหมด 5 ข้อหา โดยเฉพาะข้อหาขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ชี้ว่าการสั่งไม่ฟ้อง“บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา”ทายาทของกระทิงแดง มีกระบวนการสอบสวนโดยไม่ชอบ มีการสมคบคิดเพื่อประวิงคดีในชั้นอัยการ และใช้อิทธิพลการเมืองกดดันกระบวนการยุติธรรม
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯชุดนี้ยังมีข้อเสนอแนะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินคดีอาญาและวินัยต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตั้งแต่พนักงานสอบสวน, พนักงานอัยการ, ผู้บังคับบัญชา, สมาชิกสภานิติบัญญัติ, ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่, ทนายความซึ่งทำผิดกฎหมาย, พยานที่ให้การเท็จ, ตัวการ, ผู้ใช้ และผู้สนับสนุนให้เกิดการทำผิดดังกล่าว
ต่อมาในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติเสียงข้างมากแต่งตั้งองค์คณะไต่สวน“คดีไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา” โดยมีผู้ถูกกล่าวหารวม 15 คน ในจำนวนนี้มี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วยผบ.ตร. และนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ผู้เซ็นสั่งไม่ฟ้องคดีนี้รวมอยู่ด้วย
ป.ป.ช.ใช้เวลากว่า 2 ปีในการพิจารณาไต่สวน โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีการกลับคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตและจากนั้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายประยุทธเพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวกรวม 8 คน ตามมติของ ป.ป.ช.ในฐานความผิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนสำนวนคดี“บอส อยู่วิทยา”
ผู้ถูกสั่งฟ้องอีก 7 คนนอกเหนือจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประกอบด้วย 1.พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุขเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน 2.พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสืบสวนสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ 3.นายเนตร นาคสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด 4.นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม พนักงานอัยการ 5.นายธนิต บัวเขียว 6.นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร และ 7.รองศาสตราจารย์ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม
ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คนนั้น อัยการสูงสุดมอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นผู้ฟ้องและดำเนินคดีแทนอัยการสูงสุด และให้แจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ เพื่อให้ส่งผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง โดยให้ส่งตัวไปยังสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เพื่อฟ้องคดีภายในอายุความตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้ถูกกล่าวหาอื่นๆ ได้แก่ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก และ พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติกันไว้เป็นพยาน ขณะที่อีก 3 คน คือ พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง หรือคทาธร พัชรนามเมือง,พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และ พล.อ.ท.สุรเชษฐทองสลวย คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม ป.วิ. อาญา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 63 ส่วน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 64
จากนี้ไปก็เป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณาตัดสินคดีแต่อย่างน้อยกฎแห่งกรรมคือกฎธรรมชาติก็ได้ปรากฏผลแล้ว ว่าผู้ใดก็ตามที่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญอันมิชอบจากการกระทำ โดยเฉพาะข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลง สุดท้ายก็อยู่ไม่เป็นสุขแม้จนใกล้วาระสุดท้ายของชีวิต
เรื่องนี้จึงน่าจะเป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดี สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ให้แก่นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร-ระวังจะต้องติดคุกแทนทักษิณ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

พรรคประชาชน เผยโฉม 100 ชื่อ ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เลือกตั้ง 2569
โป๊ะแตก 'แอดวี' ปล่อยโฮ ผิดหวัง Tokyogurl อ้างญาติเสีย-ปวดท้องทิพย์ เลี่ยงแข่ง On-site
เท้ง คุยโว นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่คือเรื่อง common sense ทางการเมือง
เปิดภาพ ทหารนาวิกโยธิน ขับไล่กำลังกัมพูชาออกจากดินแดนไทย ยึดคืนพื้นที่บ้านหนองรี (บ้านสามหลัง) ได้สำเร็จ
เสียงสะอื้นจากแม่จ่าเริง รอรับศพลูกชายสละชีพ เนิน 350 ให้คนทรงทำพิธีเสี่ยงทายตามความเชื่อ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี