วันพฤหัสบดี ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569
ผ่านไปหลายวันแล้ว สำหรับการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ทางนายกฯเศรษฐา ทวีสิน คงจะได้รู้ว่าอะไรของจริงอะไรของปลอม รวมทั้งสถานการณ์เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่พึงกระทำได้
ก็ถูกต้องแล้วที่นายกฯเศรษฐา สั่งให้ผู้ใช้บังคับบัญชารวบรวมข้อมูลในการอภิปรายทั้งหมดทั้งที่เชียร์ ทั้งที่เสนอแนะนำไปปรับปรุงแก้ไขในการบริหารประเทศต่อไป และพอเข้าใจกันว่าในซีกของฝ่ายค้านนั้นบางครั้งรุนแรง บางครั้งเลยเถิดแต่ก็แฝงไว้ด้วยเนื้อหาสาระที่จะละเลยไม่ได้
นอกเหนือไปจากสิ่งที่พูดกันในสภาแล้วเสียงสะท้อนข้างนอกเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจากศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดผลสำรวจ “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 1/2567 และคาดการณ์ไตรมาส 2/2567” จากการสำรวจระหว่างวันที่ 29 มี.ค. - 1 เม.ย. 2567 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,100 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด พบว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 1/2567 (ม.ค. - มี.ค. 2567) เท่ากับ 32.3 เต็ม 100 อยู่ในระดับแย่ลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ 32.8 ขณะที่มาตรการด้านเศรษฐกิจใหม่ๆ ใหญ่ๆ ยังไม่มีผลเป็นรูปธรรม ส่งผลให้คะแนนผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจยังคงเท่าเดิมที่ 33.0
ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวเลขทางวิชาการ แต่ สรุปง่ายๆ คืออีสานโพลไม่ได้แฮปปี้การกับทำงานของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มากเท่าไหร่นักทั้ง กลุ่มตัวอย่างต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้เห็นผลโดยเร็ว 7 เรื่องที่เร่งด่วน คือ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้เศรษฐกิจคึกคัก แจกเงินดิจิทัล บรรเทาปัญหาหนี้สิน แก้ปัญหายาบ้าระบาดลดค่าครองชีพ และเพิ่มรายได้ลดต้นทุนภาคเกษตรนอกจากนี้ พบว่าคะแนนนิยมพรรคก้าวไกลยังนำพรรคเพื่อไทยในอีสาน
มีคำถามว่าทำไมอีสานโพลถึงไม่ค่อยปลื้มกับรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เท่าที่ควรทั้งๆ ที่อีสานเป็นฐานที่มั่นด้านคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทย จะดีๆ ชั่วๆ ก็ต้องแบกหามกันไปก่อน แต่ในยุคปัจจุบันคำตอบโดยสัจธรรม คือต่อให้รักชอบพอมากแค่ไหน ถ้าบริหารประเทศแล้วถ้ากระทบต่อการดำรงชีวิต เขาก็ไม่เอาด้วยโดยเฉพาะนโยบายทางการเมืองของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ประกาศไว้แล้วกลับลุ่มๆ ดอนๆ ผิดกับรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศนโยบายหมู่บ้านละล้าน 30 บาทรักษาทุกโรค บุญเก่าอันนั้นยังได้ช่วยค้ำจุนรัฐบาลเศรษฐา เอาไว้
ผลโพลล์ยังบอกว่า ถ้าเลือกตั้งวันนี้ จะลงคะแนนให้พรรคใด พบว่า คะแนนพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นจาก 35.1% เป็น 47.4% คะแนน พรรคเพื่อไทย ลดลงจาก 45.7% เหลือ 40.7% คะแนนพรรคภูมิใจไทย ลดลงจาก 4.7% เหลือ 2.4% คะแนนพรรครวมไทยสร้างชาติ ลดลงจาก 5.6% เหลือ 1.9% คะแนน พรรคไทยสร้างไทย ลดลงจาก 1.7%เป็น 1.5% คะแนน พรรคพลังประชารัฐ ลดลงจาก1.2% เหลือ 0.7% คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ ลดลงจาก 1.1% เหลือ 0.5% คะแนน พรรคเสรีรวมไทย ลดลงจาก 1.1% เหลือ 0.4% และอื่นๆ ลดลงจาก 1.2% เป็น 0.6% ยังไม่มีพรรคที่ถูกใจ 3.9%
ภาคอีสานมีจำนวนสส.มากที่สุดใครพรรคการเมืองใดได้ครอบภาคอีสานก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลสูง แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับข้อเรียกร้องของคนอีสาน ที่สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของทุกภาคที่ให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา รัฐบาลโพลล์อย่าชะล่าใจทำตัวเป็นแมลงวันบินไปบินมาโดยไม่ได้สร้างผลงานอะไรดังที่ฝ่ายค้านเหน็บแนม ต้องเร่งแก้ไขวันนี้เพื่อต่อลมหายใจรัฐบาลในวันข้างหน้า

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี