ข่าวว่า อดีตนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเจรจากองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลเมียนมามีส่วนได้-เสียโดยตรง
แม้รัฐบาลไทยจะไม่เข้าไปรับรองเป็นทางการ แต่รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านเราก็ไม่โง่ ไม่หูหนวกตาบอด
กลายเป็นว่า ถ้าสำเร็จ คนได้เครดิต คือ อดีตนายกฯ
แต่ถ้าผิดพลาด ฝ่ายที่จะรับต้นทุน คือ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเมียนมากับประเทศไทยด้วย
น่าเสียดาย ปัจจุบัน คนจำนวนหนึ่งยังมองข้ามความสำคัญของความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน
ไปนึกว่าเราต้องสัมพันธ์ดีกับฝรั่งเท่านั้น ถึงจะโก้เก๋
แต่ในความเป็นจริง เราค้าขายสัมพันธ์ มีผลประโยชน์จับต้องได้กับประเทศเพื่อนบ้านแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี มหาศาล
เพราะฉะนั้น ก่อนใครจะไปเปลี่ยนสนามการค้าให้กลายเป็นสนามรบ หรือไปหาเรื่องทะเลาะกับประเทศเพื่อนบ้าน พึงสำเหนียกถึงความสำคัญของการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนสักนิดหนึ่งเถิด
1. รายงานข้อมูลสถิติการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ปี 2566 ตอกย้ำความสำคัญของการค้าชายแดนอย่างชัดเจน
พบว่า การค้าชายแดนและผ่านแดน ปี 2566 (มกราคม-ธันวาคม) มีมูลค่ารวม 1,742,808 ล้านบาท
ลดลงร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยไทยได้ดุลการค้า 218,650 ล้านบาท
ในขณะที่การส่งออกมีมูลค่า 980,729 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.6
การนำเข้ามีมูลค่า 762,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ แม้ว่ามูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจะชะลอตัวจากสถานการณ์ภายในประเทศที่เปราะบางของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ
สปป.ลาว ที่อัตราเงินเฟ้อสูงและค่าเงินกีบยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์การสู้รบในเมียนมา
ความต้องการบริโภคในประเทศของกัมพูชาที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ดี การค้าผ่านแดนของไทยกลับมาขยายตัวอีกครั้ง ทั้งมูลค่าการค้ารวมและการส่งออกโดยเฉพาะการค้าผ่านแดนไปจีน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 52 ของการค้าผ่านแดนของไทย
2. การค้าชายแดน
การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย สปป.ลาว เมียนมาและกัมพูชา) ปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 929,730 ล้านบาท
ลดลงร้อยละ 12.1
แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 580,100 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.4
การนำเข้ามูลค่า 349,630 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14.7
ไทยได้ดุลการค้ารวม 230,471 ล้านบาท
ภาพรวมด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรสะเดา 226,254 ล้านบาท ด่านศุลกากรแม่สอด 106,835 ล้านบาท และด่านศุลกากรอรัญประเทศ 97,185 ล้านบาท
สามารถแยกเป็นรายประเทศ ดังนี้
2.1 มาเลเซีย เป็นคู่ค้าชายแดนอันดับ 1 ของไทย
ปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 287,155 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14.6
แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 162,000 ล้านบาท
สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ 12,705 ล้านบาท (+1.69%) น้ำยางข้น 11,527 ล้านบาท (-43.78%) และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์อื่นๆ 8,463 ล้านบาท (+5.59%)
ขณะที่ การนำเข้ามีมูลค่า 125,155 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ 15,115 ล้านบาท (-41.64%) อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับตัดต่อหรือป้องกันวงจรไฟฟ้า 8,734 ล้านบาท (+1.49%) และเม็ดพลาสติก 6,311 ล้านบาท (-21.82%)
2.2 สปป.ลาว เป็นคู่ค้าชายแดนอันดับ 2 ของไทย
ปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 260,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2
แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 158,515 ล้านบาท
สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 29,468 ล้านบาท (+12.9%) น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 11,615 ล้านบาท (-4.16%) และน้ำตาลทรายขาว 7,728 ล้านบาท (-0.81%)
ขณะที่ การนำเข้ามีมูลค่า 101,997 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เชื้อเพลิง
อื่นๆ 68,362 ล้านบาท (-3.68%) ผักและของปรุงแต่งจากผัก 11,747 ล้านบาท (+11.56%) เครื่องรับ-ส่งภาพและเสียงและอุปกรณ์ 2,925 ล้านบาท (-7.33%)
2.3 เมียนมา เป็นคู่ค้าชายแดนอันดับ 3 ของไทย
ปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 220,327 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.5
แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 127,606 ล้านบาท
สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 10,645 ล้านบาท (-25.66%) น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ 6,250 ล้านบาท (-26.25%) น้ำมันปาล์ม 3,994 ล้านบาท (-15.36%)
ขณะที่ การนำเข้ามีมูลค่า 92,721 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ 71,159 ล้านบาท (-16.44%) ธัญพืช 7,520 ล้านบาท (-43.08%) และสัตว์น้ำ 3,289 ล้านบาท (+4.98%)
2.4 กัมพูชา เป็นคู่ค้าชายแดนอันดับ 4 ของไทย
ปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 161,736 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18.1
แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 131,979 ล้านบาท
สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มอื่นๆ 7,375 ล้านบาท (-3.61%) รถยนต์นั่ง (เครื่องสันดาปภายใน) 4,886 ล้านบาท (-41.09%) และน้ำแร่
น้ำอัดลมที่ปรุงรส 4,311 ล้านบาท (-24%)
ขณะที่ การนำเข้ามีมูลค่า 29,757 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ผักและของปรุงแต่งจากผัก 8,247 ล้านบาท (-21.49%) เศษของอะลูมิเนียม 4,545 ล้านบาท (-27.22%) และลวดและสายเคเบิลที่หุ้มฉนวน 3,896 ล้านบาท (-1.78%)
ภาพรวมด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรสะเดา 226,254 ล้านบาท ด่านศุลกากรแม่สอด 106,835 ล้านบาท และด่านศุลกากรอรัญประเทศ 97,185 ล้านบาท
3. การค้าผ่านแดน
การค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม (จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ) ในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 813,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2
แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 400,629 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3
การนำเข้ามูลค่า 412,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.69
ไทยขาดดุลการค้ารวม 11,821 ล้านบาท
โดย จีน เป็นคู่ค้าผ่านแดนอันดับ 1 มีมูลค่าการค้ารวม 423,116 ล้านบาท
สิงคโปร์ เป็นคู่ค้าผ่านแดนอันดับ 2 มีมูลค่าการค้ารวม 106,676 ล้านบาท
เวียดนาม เป็นคู่ค้าผ่านแดนอันดับ 3 มีมูลค่าการค้ารวม 70,138 ล้านบาท
ประเทศอื่นๆ (อาทิ ฮ่องกง สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เป็นต้น) มีมูลค่าการค้ารวม 213,147 ล้านบาท
ภาพรวมด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าผ่านแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร 286,425 ล้านบาท ด่านศุลกากรสะเดา 207,944 ล้านบาท และด่านศุลกากรนครพนม 95,392 ล้านบาท
4. ขณะที่มีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก แต่การค้าชายแดนและผ่านแดนยังมีศักยภาพขยายตัวได้อีกมาก
เป็นประโยชน์ไม่เฉพาะจังหวัดชายแดนไทย แต่ยังสร้างผลบวกต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยด้วย
ยิ่งหากยกระดับศักยภาพและการอำนวยความสะดวกของด่านชายแดนและระบบขนส่ง/โลจิสติกส์ การจัดตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) การเชื่อมโยงเอกสารส่งออก - นำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน/ ผ่านแดนแบบครบวงจร ฯลฯ (กระทรวงพาณิย์ดำเนินการ) ยิ่งจะทำให้การค้าชายแดนมีโอกาสขยายตัวได้อีก
เพราะฉะนั้น ก่อนใครจะไปแกว่งเท้าหาเสี้ยน หรือชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน
เสี่ยงที่จะเปลี่ยนสนามการค้าชายแดนเป็นสนามรบ (โดยที่ไทยเราไม่ใช่คู่กรณีโดยตรง ไม่ได้ประโยชน์)
โปรดตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจและการค้าชายแดนเหล่านี้ด้วย
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี