หลังจากนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ประกาศตัวชัดเจนว่าไม่ต้องเล่นละครพักรักษาตัว โดยมีข้ออ้างว่าป่วยหนักจนใกล้ตายอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ ก็ทำให้ภาพการเมืองไทยมีสีสันฉูดฉาดบาดหูบาดตาและบาดใจมากขึ้นเป็นลำดับ
วันแรกๆ เมื่อนักโทษชายทักษิณกลับบ้าน ก็ปรากฏว่ามีร่างกายแข็งแรง ไม่มีร่องรอยของคนที่ป่วยหนักใกล้ตาย แล้วจากนั้นก็มีภาพการเมืองต่างๆ เกิดขึ้นเป็นลำดับ ไล่เรื่อยมาตั้งแต่ฮุนเซน จากกัมพูชา บินด่วนมาพบนักโทษชายทักษิณที่บ้าน จากนั้นก็เกิดภาพนักโทษชายทักษิณเดินทางไปเชียงใหม่ ไปภูเก็ต แล้วก็เกิดข่าวนักโทษชายทักษิณเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศเมียนมา รวมถึงข่าวว่านัดพบกับอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย
แล้วก็เกิดภาพการปรับคณะรัฐมนตรีแบบแปร่งๆ ป่วนๆ เริ่มตั้งแต่ปรับคณะรัฐมนตรีเสร็จยังไม่ทันข้ามคืน ก็ปรากฏว่า ปานปรีย์ พหิทธานุกรลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แล้วจากนั้นไม่นานก็มีข่าว กฤษฎาจีนะวิจารณะ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในขณะที่รัฐมนตรีบางคนก็เข้ารับตำแหน่งเพราะแรงดันจากนักโทษชายทักษิณ
ประเด็นการปรับ ครม. อลเวง ทำให้คอการเมืองไทยเชื่อตรงกันว่ามีเหตุปัจจัยสำคัญมาจากการตัดสินใจของนักโทษชายทักษิณอย่างแน่นอน แล้วก็มีความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า เศรษฐา ทวีสิน เป็นแค่เพียงนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดเท่านั้น เศรษฐามีเพียงตำแหน่ง แต่ทว่าไม่มีอำนาจแท้จริง เมื่อไม่มีอำนาจจริง เศรษฐาก็จึงต้องติดปีกบินไปบินมา ทั้งในและต่างประเทศ เพราะอยู่ในทำเนียบไปก็ไม่มีอำนาจบริหารประเทศโดยแท้จริง อยู่ไปก็เปล่าประโยชน์ สู้บินไป-บินมา ให้หมดวันเสียดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็เอาตำแหน่งไปอวดต่างชาติได้ เพราะต่างชาติไม่มีปัญญารู้ว่าเบื้องลึกการเมืองไทยคืออะไร
มาล่าสุด เกิดเหตุ บุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตในระหว่างถูกควบคุมตัว โดยสาธารณชนวิพากษ์ว่าเป็นการเสียชีวิตที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงน่าสงสัย การตายของบุ้งทำให้สังคมเห็นชัดว่า กรมราชทัณฑ์ไม่ได้เคารพหลักความเท่าเทียมของมนุษย์ เพราะเมื่อเทียบกรณีของนักโทษชายทักษิณกับบุ้ง จะยิ่งเห็นชัดว่ากรมราชทัณฑ์ไม่เคยให้ความเท่าเทียม ความเสมอภาคของมนุษย์ดังจะเห็นชัดว่ากรณีนักโทษชายทักษิณได้รับเอกสิทธิ์ และอภิสิทธิ์อย่างท่วมฟ้าท่วมดิน ในขณะที่บุ้งถูกปล่อยให้ตายอย่างน่าสังเวช ทั้งๆ ที่บุ้งอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์
วันนี้ นักโทษชายทักษิณแสดงอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช การเมืองมากขึ้น และมากขึ้นเป็นลำดับ โดยมีภาพหนึ่งที่ชัดเจนมากคือ การแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ทนายความเจ้าของฉายาถุงขนมบรรจุเงินล้าน ไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่นักโทษชายทักษิณรู้ดีว่านี่คือการท้าทายประชาชนอย่างชัดเจน แต่ทว่านักโทษชายทักษิณใช้วิธีไม่สน ไม่แคร์ ฉันจะทำแบบนี้ ใครจะทำอะไรฉัน ก็ฉันจะทำแบบนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องแคร์ใคร
จับตามองดูย่างก้าวของนักโทษชายทักษิณให้ดีเพราะนับจากวันนี้นักโทษชายทักษิณจะเบ่งกล้ามการเมืองมากขึ้น แล้วจะค่อยๆ บีบให้พรรคร่วมรัฐบาลค่อยๆ ตายทีละน้อย ทีละน้อย ซึ่งเราก็ได้เห็นแล้วว่าพรรครวมไทยสร้างชาติก็ถูกบีบจนหายใจไม่ออก แล้วในที่สุดก็อาจจะถูกดีด (จริงๆ อยากจะเขียนว่าถูกถีบ) ออกไปจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็จะถูกดึงไปเข้าไปร่วมกับพรรคเพื่อไทยในอนาคตอันใกล้ เพราะทุกวันนี้ ธรรมนัส พรหมเผ่า มีสถานะเสมือนว่าเป็นผู้ครอบครองพรรคพลังประชารัฐแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่แล้ว แม้ทุกวันนี้ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็มีสถานะแค่เพียงสิ่งเลื่อนลอยของพรรคเท่านั้น
มารอดูกันว่า พรรคภูมิใจไทยจะถูกยุบพรรคหรือไม่ ถ้าหากถูกยุบ ก็เท่ากับหมดอนาคตทางการเมืองไปโดยปริยาย ส่วนอีกเรื่องที่ต้องรอดูก็คือ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจะถูกปลดจากตำแหน่งในวันไหนในอนาคตอันใกล้ แต่มีการมองตรงกันว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะไม่ทนอยู่ในตำแหน่งได้นานนัก เพราะมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกบีบถูกอัดโดยรัฐบาลมากขึ้นเป็นลำดับ โดยคนที่น่าจะเข้าไปเล่นบทบีบผู้ว่าการฯ มากที่สุดก็น่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนล่าสุดที่เพิ่งรับตำแหน่ง ซึ่งรัฐมนตรีคนนี้ไม่มีทางคัดค้านหรือต่อต้านคำสั่งของนักโทษชายทักษิณเป็นอันขาด
เรามารอดูกันดีกว่าว่า นักโทษชายทักษิณจะแสดงบทบาทและอิทธิฤทธิ์การเมืองแบบหนักหนาสาหัสสากรรจ์เพียงใดในอนาคต แล้วก็รอดูกันต่อไปว่าจะเกิดรัฐประหารอีกครั้งเมื่อไร รับรองว่าการรัฐประหารในไทยยังไม่มีวันสูญหายไปจากประเทศไทย แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เรามารอดูกันดีกว่าว่านักโทษชายทักษิณจะรอดพ้นคดี มาตรา 112 หรือไม่ เพราะความผิดของนักโทษชายทักษิณในเรื่องนี้ชัดเจนมาก แล้วตอนนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่า นักโทษชายทักษิณจะต้องตายเพราะมาตรา 112 เพียงแต่ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการเจรจาต่อรองกันอยู่เท่านั้นเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี