วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยังได้กล่าวเตือนพรรคก้าวไกลด้วยว่า..“ก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัย คู่กรณีไม่สมควรแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีที่เป็นการชี้นำสังคม..อันอาจจะกระทบต่อการดำเนินกระบวนการพิจารณาของศาล”
ขณะที่พรรคก้าวไกล..โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ได้แถลงเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ก่อนหน้าที่จะมีการยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 มิถุนายนว่า..พรรคก้าวไกลจะเปิดแถลงเกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้รวมทั้งเผยแพร่เอกสารคำชี้แจงข้อกล่าวหาที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด..ในวันที่ 9 มิถุนายน
“โดยแนวทางในการต่อสู้คดีล้มล้างการปกครองของพรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญ..เราตั้งใจจะแถลงในวันนั้นทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำเต็มที่ในสิ่งที่เราทำได้..เพื่อยืนยันแนวทางการต่อสู้คดีของเรา” พริษฐ์ วัชรสินธุ-โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าว
สำหรับคดีนี้..ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 โดย กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล..เนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข..และเข้าลักษณะการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จากคำร้องดังกล่าว..กกต.จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค..และห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค และถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่..หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง..หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค
อนึ่ง กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ถูกร้องให้เพิกถอนสิทธิ์มีทั้งหมด 10 คน ประกอบด้วย..นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายชัยธวัช ตุลาธน, นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์, นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา, นายสมชาย ฝั่งชลจิตร, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, นางสาวเบญจา แสงจันทร์, นายอภิชาติ ศิริสุนทร และนายสุเทพ อู่อ้น
ไปดูกันต่อว่า..ตามที่ กกต.อ้างว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข..และเข้าลักษณะการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นั้น..มีรายละเอียดอย่างไร
หลักฐานที่ กกต.อ้างก็คือ--คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 โดยศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า..การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2)..เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียง..เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังชี้ว่า..การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นจุดเริ่มต้นของการเซาะกร่อนบ่อนทำลายให้สถาบันชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง..เข้าลักษณะของการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข..และเป็นการดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน
พร้อมกับคำวินิจฉัยดังกล่าว..ศาลรัฐธรรมนูญยังได้สั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เลิกดำเนินการใดๆ..ทั้งการยกเลิกหรือการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และให้เลิกแสดงความคิดเห็น พูด เขียน พิมพ์ โฆษณาและสื่อความหมายเพื่อให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 ที่กระทำอยู่และที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
นั้นคือที่มาของการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล ของ กกต. และหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของ กกต.เพื่อให้ยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567..พรรคก้าวไกลได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้วถึง 3 ครั้ง..และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการชี้แจงทั้ง 3 ครั้ง-ครั้งละ 15 วัน..ซึ่งในที่สุดพรรคก้าวไกล ก็มิอาจดิ้นหรือพยายามจะ“ยื้อ”เวลาเพื่อต่ออายุของตนต่อไปได้อีก..จึงได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
ขนาดยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 มิถุนายน..แทนที่จะเปิดแถลงเกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้ รวมทั้งเผยแพร่เอกสารคำชี้แจงข้อกล่าวหาเสียทีเดียวในวันนั้น..พรรคก้าวไกลก็ยังส่อแสดงนัยอันเป็นสัญลักษณ์ที่มีวาระซ่อนเร้นต่อ“สถาบัน”..ด้วยการใช้วันที่ 9 มิถุนายนเป็นวันแถลงข่าว..มิหนำซ้ำนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังได้เปิดเผยถึงแนวทางคำชี้แจงข้อกล่าวหาของพรรคก้าวไกลที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ—ว่ามีอยู่ 8 ทาง
ดูจากตัวเลขที่เป็นสัญลักษณ์..แม้พรรคก้าวไกลจะอำพรางซ่อนเร้นอย่างไร ก็คงจะไม่ผิดไปจากนี้...คือวันที่ 9 มิถุนายน เป็น“วันสวรรคต”ของในหลวงรัชกาลที่ 8 (9 มิถุนายน 2489)
เป็นการกำหนดวันที่คาบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในปี 2475 ของ“คณะราษฎร” และ“กรณีสวรรคต”ของในหลวงรัชกาลที่ 8 ซึ่งนายปรีดี พนมยงค์ อดีตเจ้าของ“บ้านอองโตนี”ในประเทศฝรั่งเศส-เกี่ยวพันด้วย
จึงกล่าวได้ว่า..ทุกการเคลื่อนไหวของ“พรรคก้าวไกล”นั้น..ไม่ผิดไปจากที่ศาลรัฐธรรมนูญท่านวินิจฉัยว่า--“เป็นจุดเริ่มต้นของการเซาะกร่อนบ่อนทำลายให้สถาบันชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง..เข้าลักษณะของการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล

'จาตุรนต์’ยัวะเปลี่ยนม้ากลางศึก ‘เพื่อไทย’ร้าวหนัก!
‘อนุทิน’ลั่นยึดพื้นที่เป้าหมายได้เกือบหมด ประเทศที่3อย่ายุ่ง กราบ2วีรบุรุษเนิน350
ปูพรมกวาดล้าง ต่างด้าวทำผิดก.ม.ทั่วไทย รวบแล้วกว่า1.3หมื่นราย
กทม.จมฝุ่นพิษ ค่าเกิน20พื้นที่ อยู่ในระดับสีส้ม กระทบสุขภาพ
‘ข้างบ้าน’ หลอนสะกดผู้ชมไม่แผ่ว! กวาดรายได้ 80 ล้าน มุ่งหน้าสู่ 100 ล้าน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี