วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
อั้งยี่ ยังมีการสืบทอดอยู่หรือไม่

ดูทั้งหมด

  •  

คนไทยที่เกิดในยุคที่เรียกว่า Baby boomer รวมทั้งผู้ที่เกิดก่อนยุคดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันจะมีอายุ เกินกว่า๖๐ ปีขึ้นไป น่าจะคุ้นเคยกับคำว่าอั้งยี่พอสมควร โดยส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจว่าหมายถึงกลุ่มคนจีน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ในช่วงต้นๆ ของอาณาจักรรัตนโกสินทร์ และได้กระทำการบางอย่างซึ่งคุกคามความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้ให้ความหมายของคำว่าอั้งยี่ หมายถึงการรวมตัวหรือการสมาคมใด ที่ทำการไม่ต้องตามกฎหมาย ซึ่งคำว่าอั้งยี่นี้ต่อมาได้ถูกนำมาใช้ อย่างแพร่หลาย ว่าเป็นการรวมตัวของกลุ่มหรือสมาคมใดโดยไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นการรวมตัวของชนชาติใด ไม่จำเป็นต้องเป็นของกลุ่มคนจีนเท่านั้น


ชาวไทยและชาวจีนมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน โดยประวัติศาสตร์ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์นี้ตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย โดยได้กล่าวถึงการเดินทางของพระมหากษัตริย์บางพระองค์ไปยังเมืองจีน และขณะเดียวกันก็มีชาวจีนเดินทางมายังกรุงสุโขทัยเพื่อทำการค้าขายเช่นกัน

ประวัติศาสตร์ในยุคต่อๆ มา ถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมากนัก แต่ก็เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของชาวจีนและชาวไทยไม่ได้ลดน้อยลงไป มีแต่จะมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และในบางครั้งก็จะพบว่าชาวจีนได้เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังทหารไทย ในการสู้รบกับข้าศึกศัตรู ที่มารุกรานประเทศไทยด้วย

ในช่วงปลายของอาณาจักรอยุธยา ในปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ ซึ่งเป็นปีที่ชาติไทยต้องเสียอิสรภาพเป็นครั้งที่ ๒ นั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ที่เชื่อกันว่า เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีเชื้อสายจีน เนื่องจากบิดาเป็นชาวจีน ซึ่งขณะนั้นมียศเป็นพระยาวชิรปราการ ปกครองเมืองกำแพงเพชร ก็ได้เข้ามาช่วยต่อสู้กับกองทัพของพระเจ้ามังระจากพม่าที่ยกมาตีกรุงศรีอยุธยาด้วย และเมื่อเห็นว่ากรุงศรีอยุธยา น่าจะต้องพ่ายแพ้และล่มสลายเป็นแน่แท้ จึงได้ตัดสินใจที่จะนำกำลังส่วนหนึ่งซึ่งมีทั้งทหารไทยและชาวจีนที่ช่วยรบให้กับพระองค์จำนวนประมาณ ๕๐๐ นาย ยกทัพหนีออกจากค่ายโพธิ์สามต้น กรุงศรีอยุธยา โดยตั้งใจว่าจะได้มีโอกาสไปรวบรวมกำลังไพร่พลให้มีความเข้มแข็งและจำนวนมากเพียงพอที่จะกลับมากู้ชาติได้ ซึ่งในที่สุดพระองค์ก็กระทำการได้สำเร็จ ทำให้ชาติไทยได้รับอิสรภาพคืนมา หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปเพียงแค่ ๗ เดือนเศษ

จากการที่ชาติไทยของเราเป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ จนได้ชื่อว่าเป็นสุวรรณภูมิหรือแผ่นดินทองนั้น ทำให้มีพ่อค้าวานิชจากต่างชาติทั้งในแถบเอเชียและยุโรปเข้ามาทำการค้าขายอย่างมากมายตั้งแต่สมัยอาณาจักรอยุธยา โดยจีน เป็นชาติหนึ่งที่มีการค้าขายกับชาติไทยอย่างมากมาย ทำให้ชาวจีนจำนวนไม่น้อย มีความตั้งใจที่จะมาอาศัยอยู่ในอาณาจ้กรของไทย และก็มีเหตุการณ์ประจวบเหมาะที่ทำให้ชาวจีนจำนวนมากอพยพจากประเทศจีนมาอยู่ในเมืองไทย ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์

ในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งอยู่ในช่วงต้นของกรุงรัตนโกสินทร์นั้น ประเทศจีนเกิดความแห้งแล้งอย่างมาก แม้แต่สิงสาราสัตว์ และต้นไม้ก็แห้งตายเป็นจำนวนมาก มีการกดขี่ข่มเหง คดโกงและรีดไถเกิดขึ้นในระบบราชการในสมัยนั้น  มีการจัดเก็บภาษีที่เอาเปรียบเกษตรกรและชาวนา ตลอดจนมีประชากรเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้ชาวจีนจำนวนมากมุ่งมาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ

ว่ากันว่าชาวจีนส่วนใหญ่จะทยอยกันมาลงเรือที่เมืองซัวเถา และยอมเสี่ยงตายจากพายุในทะเล และการเจ็บป่วยขณะที่รอนแรมอยู่บนเรือสินค้ารับจ้างขนผู้โดยสารที่เรียกกันว่าเรือสำเภา เพื่อเดินทางมาขึ้นบกตามเมืองชายฝั่งของดินแดนสุวรรณภูมินี้ โดยกลุ่มชนที่มามากที่สุดคือชาวแต้จิ๋ว

แน่นอนว่าในกลุ่มชาวจีนที่เดินทางมานั้น มีทั้งคนดีที่ตั้งใจมาตั้งต้นชีวิตใหม่ในชาติของเรา แต่ขณะเดียวกันก็มีพวกที่เป็นพวกนอกกฎหมาย แก๊งอาชญากรต่างๆ แฝงตัวปะปนออกมาด้วย  เพราะการเดินทางในสมัยก่อนไม่มีการตรวจสอบประวัติของผู้ที่เดินทางระหว่างประเทศเหมือนอย่างในปัจจุบันนี้

ชาวจีนที่เดินทางมาส่วนหนึ่งเป็นพวกนอกกฎหมาย ส่วนหนึ่งเป็นพวกที่หนีการไล่ล่าจากการก่อกบฏ ในสมัยของพระเจ้าคังฮี เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยในต้นรัชกาลที่ ๓ ก็มีการรวมตัวทำการค้าขายในสินค้านอกกฎหมาย เช่น ฝิ่น โดยหัวหน้าใหญ่จะเรียกตัวเองว่าตั้วเฮีย ชั้นรองลงมาเรียกว่ายี่กอและซากอตามลำดับ การลักลอบนำฝิ่นเข้ามาขาย ซึ่งทำให้มีผู้ติดฝิ่นจำนวนมากทั้งคนจีนและคนไทย  ทำเรื่องผิดกฎหมายและมีคดีความต่างๆ เกิดขึ้น จนอาจจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ถึงขนาดต้องมีการปราบปราม เช่น เหตุการณ์ที่นครชัยศรีในปี พ.ศ. ๒๓๙๐ และในปีต่อมาพวกตั้วเฮียที่ฉะเชิงเทรากำเริบถึงกับเป็นกบฏ ยิงผู้ว่าราชการเมืองตาย เข้ายึดป้อม ต้องมีการยกทัพไปปราบ จนผู้ที่สร้างปัญหาเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก  เหตุการณ์จึงสงบลงได้

ในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระองค์ได้เปลี่ยนแปลงการจัดเก็บภาษี จึงดูเหมือนว่าการตั้งสมาคมหรือกลุ่มอั้งยี่ลดน้อยลง แต่ในช่วงปลายรัชกาลก็เกิดปัญหาขึ้นอีกที่ภูเก็ต กลุ่มอั้งยี่ได้รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งตั้งเป็นสมาคมนอกกฎหมายเชื่อมโยงกับการค้าขายแร่ดีบุก และหลีกเลี่ยงการชำระภาษี จนถึงขนาดที่มีการก่อกบฏ เมื่อวันตรุษจีน วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๑๙  มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนราษฎรและวัดวาอารามถูกเผาทำลายเสียหายหลายแห่ง  กลุ่มอั้งยี่เหล่านั้นตอนที่ยังอยู่ในประเทศจีนมีการตั้งเป็นสมาคม เช่น เทียนตี้หุยแปลว่าสมาคมฟ้าดิน ซานห่อหุยแปลว่าองค์กรฟ้าดินมนุษย์ ก็ตั้งกลุ่มเป็นพวกใหญ่ๆ คือพวกยี่หินและพวกกงสีปุนเถ้าก๋ง ในที่สุดก็ถูกปราบปรามไปหมด

กระบวนการอั้งยี่ยังมีต่อเนื่องมาจนถึงรัชกาลที่ ๕  มีการตราพระราชบัญญัติ ห้ามมีอั้งยี่ จึงดูเหมือนว่าการเกิดเหตุการณ์อั้งยี่จะสงบลง แต่ก็ยังมีชาวจีนบางกลุ่มดำเนินการสร้างอิทธิพลแบบอั้งยี่ เช่น กลุ่มที่ก่อตั้งโรงเหล้าเถื่อน ที่ดอนกระเบื้อง จังหวัดราชบุรี และมีการสะสมกำลังเพื่อจะต่อสู้กับภาครัฐ จึงถูกปราบปรามในปี พ.ศ.๒๔๓๕ นอกจากนี้ก็ยังมีอั้งยี่กลุ่มเล็กๆ ที่แย่งผลประโยชน์ซึ่งกัน และในที่สุดก็ตีกันเอง  ทำให้รัฐยังต้องปราบปรามโดยตลอดมา  จนกระทั่งถึงช่วงรัชกาลที่ ๖ กระบวนการอั้งยี่ก็หมดไป

ในประเทศไทยนั้นอาจกล่าวได้ว่า ถึงแม้กระบวนการอั้งยี่จะหมดไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนบางคนซึ่งมีขัอมูลว่าสืบเชื้อสายมาจากอั้งยี่ที่จังหวัดจันทบุรี  เป็นอั้งยี่ระดับหัวหน้าคณะที่มีชื่อว่าคณะงี่เฮง บ้านบางกะจะ อำเภอพลอยแหวน เมืองจันทบุรีในยุคที่ฝรั่งเศสยึดครองเมืองไว้เป็นหลักประกันเพื่อให้ประเทศไทยต้องจ่ายค่าตอบแทนกรณีร.ศ. ๑๑๒ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ นั่นเอง โดยบุคคลนั้นเป็นบุตรของชาวจีนคนหนึ่งที่อพยพจากเมืองจีนเข้ามาพึ่งใบบุญประเทศไทยประมาณปีพ.ศ.๒๔๐๓ โดยตั้งตนเป็นนายอากรบ่อนเบี้ย คือการเล่นกำตัด กำถั่ว และไพ่งา เป็นต้น

การประพฤติตนเป็นอั้งยี่ของบุคคลดังกล่าว รวมทั้งสมัครพรรคพวก และผู้สืบเชื้อสายได้ทำให้เกิดปัญหากับท้องถิ่น ทั้งในเรื่องของการหลบเลี่ยงภาษีอากร และเรื่องผิดกฎหมายอื่นๆ จนถูกจับเพื่อพิจารณาดำเนินคดี แต่เมื่อพ้นโทษออกมา แทนที่จะสำนึกผิด และทราบว่าผู้พิพากษาที่ตัดสินให้ตนเองติดคุก มาประจำ ตำแหน่งที่จันทบุรี จึงได้ส่งคนรอบไปทำร้ายเพื่อเป็นการแก้แค้น ทำให้ต้องถูกจับ และพิพากษาตัดสินจำคุกอีกครั้งหนึ่ง โดยถูกส่งตัวเข้ามาคุมขังในกรุงเทพฯ

ภายหลังจากพ้นโทษ จึงมีการย้ายครอบครัวไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในอำเภอสันกำแพง  ประกอบธุรกิจต่างๆ  มีลูกหลานสืบตระกูล ซึ่งต่อมาลูกหลานก็เริ่มเข้ามาสู่เส้นทางการเมือง เริ่มต้นจากระดับท้องถิ่นจนมาถึงประเทศ  มีตำแหน่งใหญ่โต เป็นถึงผู้บริหารสูงสุดของประเทศ แต่ก็ต้องคดีคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมือง จนถูกศาลพิพากษาจำคุกเป็นระยะเวลา ๘ ปี แต่ก็ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ที่เคยมี รวมทั้งอิทธิพลต่างๆ ดำเนินการจนกระทั่ง ถึงแม้ว่าจะยังมีสภาพเป็นนักโทษ ซึ่งจะต้องถูกกักตัวจนกว่าจะพ้นโทษ แต่ก็ร่อนเร่ไปมาโดยตลอด และดูเหมือนว่ามีความตั้งใจพี่จะหาโอกาสกลับมาบริหารบ้านเมือง ไม่โดยตัวเองก็โดยลูกหลานที่สืบตระกูล ซึ่งไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องยืนยันได้เลยว่า  พฤติกรรมที่ไม่เคยหวังดีต่อชาติบ้านเมืองโดยแท้จริงนั้นจะไม่ถูกสืบทอดต่อไป

คำพูดที่ว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว เป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ แต่ถ้าเชื้อดั้งเดิม เป็นเชื้อร้าย แถวที่เดินตามมาก็ย่อมจะเป็นเชื้อร้าย อันเป็นพิษต่อประเทศชาติเช่นกัน

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:38 น. ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ 'ทักษิณ' จุดเดือด 'นักข่าวอาวุโส' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว
09:25 น. ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก
09:15 น. 'กอบศักดิ์' ฟันธง 'ภาษีทรัมป์' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่
09:06 น. รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง 'ก๊ก อาน'
09:06 น. ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568
ดูทั้งหมด
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ปราชญ์ สามสี'ผ่าเกมตระกูล'ชินวัตร-ฮุน' ทำไมคนหนึ่งเงียบ อีกคนดิ้น ที่แท้!!
‘สม รังสี’เปิดไทม์ไลน์แฉ‘แรงจูงใจ’เบื้องหลัง‘ฮุน เซน’เล่นเกมกฎหมายถอดสัญชาติกัมพูชา
ดูทั้งหมด
‘อนุทิน VS แพทองธาร’เรื่อง‘กาสิโน’
ประชาธิปไตยมักถูกท้าทายอยู่เสมอ
ไร้เพื่อน?
บุคคลแนวหน้า : 10 กรกฎาคม 2568
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ไร้ฝีมือแท้ทรู คือ ตัวถ่วงประเทศไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568

'นิธิพัฒน์'ซัดเจ็บ! 'นักการเมืองสันดานเสีย' หวังประโยชน์ส่วนตน ทำชาติป่วน

'แพรรี่'เทศน์พระเอี่ยวสีกา สึกออกมาก็แค่ตาแก่คนหนึ่ง สีกาก็ร้ายไปเป็นเปรตแน่นอน

'ทรัมป์'ร่อนจดหมายภาษีอีก8ประเทศ 'บราซิล'อ่วมเจอรีดภาษีนำเข้า50%เซ่นปม'โบลโซนาโร'

'สมเด็จฮุน เซน'กลัวมากถ้า'คนไทย'จะรักตนเอง แซะเจ็บไทยควรโฟกัสผู้นำตัวเองดีกว่า

  • Breaking News
  • ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ \'ทักษิณ\' จุดเดือด \'นักข่าวอาวุโส\' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ 'ทักษิณ' จุดเดือด 'นักข่าวอาวุโส' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว
  • ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก
  • \'กอบศักดิ์\' ฟันธง \'ภาษีทรัมป์\' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่ 'กอบศักดิ์' ฟันธง 'ภาษีทรัมป์' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่
  • รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง \'ก๊ก อาน\' รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง 'ก๊ก อาน'
  • ยิปซีพยากรณ์\'ดวงรายวัน\'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568 ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

7 ก.ค. 2568

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved