จับตาดูว่า เมื่อใด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลรับรองการเลือกตั้งให้นายชาญ พวงเพ็ชร์ เป็นนายก อบจ.ปทุมธานีคนใหม่ อย่างเป็นทางการ
เมื่อนั้น นายก อบจ. ชาญ จะปฏิบัติหน้าที่ หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลปราบโกงจะมีคำพิพากษาในคดีเดิม?
1. ชัดเจนว่า ทางจังหวัดปทุมธานี โดยนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ยืนยันว่า การดำเนินการของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กำกับดูแล ต้องดำเนินการตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ระเบียบฯกฎหมายที่เกี่ยวข้องและความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา
นั่นคือกำกับดูแลให้นายก อบจ. ซึ่งมีคดีในชั้นศาลปราบโกง ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ อย่างเคร่งครัด
2. ถ้านายก อบจ. ไม่ยอมหยุด ยังใช้อำนาจในตำแหน่งต่อไป
ชัดเจนว่า เคยมีกรณีผู้บริหาร อปท. บางแห่งไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่
นำไปสู่การสอบสวน กระทั่งถูกออกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งไปเลย ก็มีมาแล้ว
3. กรณีศึกษาเทียบเคียง ชี้ชัดว่า แนวปฏิบัติ “มท.” ยึดความเห็น “กฤษฎีกา”
พบว่า มีคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย หลายกรณีในอดีต ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในกรณีต่างๆ วางบรรทัดฐาน และแนวทางปฏิบัติ เมื่อมีผู้บริหารท้องถิ่นถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของกฎหมายมาตรา 93 และ 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ตามแนวทางความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ กรณีผู้บริหารท้องถิ่นรายใด ฝ่าฝืนไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่
จะเป็นเหตุให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถใช้อำนาจตามกฎหมาย สั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่น พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว
ส่วนผู้บริหาร อปท. อาจไปโต้แย้งคำสั่งต่อศาลปกครอง ก็แล้วแต่กรณีไป
ยกตัวอย่าง
กรณีคำสั่งจังหวัดจันทบุรี ที่ 106 /2567
เรื่อง ให้นาย... นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี พ้นจากตำแหน่ง เพราะประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความเรียบร้อย
เนื่องจากฝ่าฝืนไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 93 และ 81 หลังถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. พ.ศ.2563
โดยอาศัยกฎหมายพ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ.2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 สั่งให้พ้นตำแหน่ง โดยนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พ.ศ.2567
กรณีคำสั่งจังหวัด กาฬสินธุ์ ที่ 10552 / 2566
เรื่อง สั่งให้นาย... พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์
หลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พบว่า ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมาย มาตรา 93 และ 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดที่ 1 ทั้งที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ได้ประทับรับฟ้อง
สั่งให้พ้นตำแหน่ง โดยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัด กาฬสินธุ์ ลงวันที่ 4 ส.ค. พ.ศ.2566
4. นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งของ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด
ดำเนินการตามแนวทางข้างต้นทั้งนั้น
คือ หากศาลฯได้ประทับรับฟ้องแล้ว และต่อมาบุคคลดังกล่าวได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นอีก บุคคลดังกล่าวต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 81 และ 83 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยยึดแนวทางคณะกรรมการกฤษฎีกาชุด ที่ 1 เรื่องเสร็จที่ 1486/2565
5. ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา รายงานรายละเอียดน่าสนใจเพิ่มเติม
กรณีของนายอานนต์ รัตโนภาส เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
ถูกผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ลงนามคำสั่งให้ พ้นจากตำแหน่ง ไปในช่วงเดือนม.ค.2567 ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าตัวไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งของ
นายอำเภอนายายอาม
ข้อเท็จจริงที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบ คือ นายอานนต์ รัตโนภาส ถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดในคดีทุจริตการดำเนินโครงการก่อสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 5 ธ.ค.2551 ของ เทศมนตรีตำบลนายายอาม
แต่ นายอานนต์ รัตโนภาส ไม่ยอมหยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้ว่านายอำเภอนายายอาม จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว
ก่อนที่ นายอำเภอนายายอาม จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเวลาต่อมา
โดยกล่าวหาว่า นายอานนต์ รัตโนภาส ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรี ตำบลนายายอาม ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 อันเป็นการประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยและฝ่าฝืนคำสั่งนายอำเภอนายายอาม ที่สั่งการตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562
ผลการสอบสวนปรากฏ ดังนี้
“คณะกรรมการสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนโดยแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ และให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา รวบรวมและพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายอานนต์ รัตโนภาส ถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 คดีหมายเลขดำที่ อท.65/2563 วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563
จึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม โดยผลของกฎหมายมาตรา 93 ประกอบกับมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เทียบเคียงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) เรื่องเสร็จที่ 1486/2565
แต่นายอานนต์ รัตโนภาส เมื่อได้รับทราบการแจ้งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายดังกล่าว
และได้รับผลการพิจารณาของจังหวัดจันทบุรีว่า คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มิได้มีคำสั่งให้นายอานนต์ รัตโนภาส จำเลยที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการพิจารณา
แต่นายอานนต์ รัตโนภาส ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของกฎหมาย ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
และการที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ได้ยกคำร้องของนายอานนต์ รัตโนภาส โดยแจ้งว่า ศาลมิได้มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างพิจารณานั้น ไม่ถือเป็นคำสั่งอย่างอื่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่ง ประกอบการพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ยังไม่ถึงที่สุด นายอานนต์ รัตโนภาส จึงยังคงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม จนกว่าจะมีคำพิพากษา
แต่นายอานนต์ รัตโนภาส เมื่อได้รับทราบผลการพิจารณาดังกล่าว ยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอามอยู่
อำเภอนายายอาม จึงได้มีหนังสือตักเตือนให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีหนังสือสั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ฯ
และมีหนังสือสั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่เพิ่มเติม ตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี
ปรากฏว่า นายอานนต์ รัตโนภาส ยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอามอยู่ เป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับของทางราชการ ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อถือของประชาชน และมีผลให้กฎหมายที่มีเจตนารมณ์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เสื่อมประสิทธิภาพและไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้
ขณะที่ พยานบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างให้ถ้อยคำสอดคล้องต้องกันว่า นายอานนต์ รัตโนภาส ยังคงมาปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม และมีการลงนามเอกสารราชการของเทศบาลตำบลนายายอาม ซึ่งพยานเป็นพนักงานเทศบาลตำบลนายายอามและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายอานนต์ รัตโนภาส จึงน่าเชื่อถือเพียงพอ
คณะกรรมการสอบสวนได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า การกระทำของนายอานนต์ รัตโนภาส เป็นการประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และฝ่าฝืนคำสั่งของนายอำเภอนายายอาม ที่สั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม ตามมาตรา 72 และมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 เห็นควรให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม
นายอำเภอนายายอามพิจารณาแล้ว เห็นชอบตามที่คณะกรรมการสอบสวนเสนอ
ดังนั้น จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้นายอานนต์ รัตโนภาส ผู้ถูกกล่าวหา พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม เนื่องจากประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และฝ่าฝืนคำสั่งของนายอำเภอนายายอามที่สั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม ตามมาตรา 72 และมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562..”
หลังจากนั้น นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ลงนามคำสั่งให้ นายอานนต์ รัตโนภาส พ้นจากตำแหน่ง โดยพิจารณาจากความเห็นและหลักฐานที่นายอำเภอนายายอามรายงานประกอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว
เห็นว่า นายอานนต์ รัตโนภาส ถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 คดีหมายเลขดำที่ อท.65/2563 วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 จึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม โดยผลของกฎหมายมาตรา 93 ประกอบกับมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
แต่กลับปรากฏตามความเห็นและหลักฐานของนายอำเภอนายายอามว่านายอานนต์ รัตโนภาส ยังคงปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม อยู่ อันเป็นการประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และฝ่าฝืนคำสั่งของนายอำเภอนายายอาม ที่สั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม ตามมาตรา 72 และมาตรา 73แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14)พ.ศ. 2562 จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 73/1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562
นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จึงลงนามคำสั่งให้นายอานนต์ รัตโนภาส พ้นจากตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม ตามคำสั่งจังหวัดจันทบุรี ที่ 106/2567 เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หลังถูกออกคำสั่งให้พ้นตำแหน่งดังกล่าว นายอานนต์ ยังมีโอกาสยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อโต้แย้งคำสั่งได้ภายใน 90 วัน แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันว่า
นายอานนต์ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองหรือไม่ ผลเป็นอย่างไร?
“แต่ในส่วนคดีความทุจริตการดำเนินโครงการก่อสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 5 ธ.ค.2551 ของ เทศมนตรีตำบลนายายอาม นั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2566 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้ให้ไม่รอลงโทษจำคุก นายอานนต์ รัตโนภาส เป็นเวลา 5 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำพิพากษาให้ รอลงอาญา ไว้ 2 ปี
นายอานนต์ รัตโนภาส ยังมีสิทธิ์ยื่นต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นฎีกา
แต่หนทางกลับเข้าสู่ตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลนายายอาม ดูเหมือนจะปิดตายไปเรียบร้อยแล้ว” – สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติม
ทั้งหมด ทำให้เห็นว่า เส้นทางข้างหน้าของ “ลุงชาญ ใจดี” หากเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ. ต่อ ก็คงไม่ต่างกับเดินไต่เส้นลวดกลางหุบเหวมรณะ!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี