คนอย่างนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นั้น..จนวันนี้ถึงวัย 75 ปีแล้วก็ยังไม่สำนึก..ยังคิดว่าตนนั้นยิ่งใหญ่เหนือใครทั้งปวงในบ้านเมืองนี้..ประเภทได้คืบก็จะเอาศอก
หลบหนีคดีทุจริตไปอยู่ต่างประเทศ 15 ปีกว่า..หลังจากหลอกศาลระหว่างเป็นจำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก..โดยทำหนังสือขออนุญาตศาลออกนอกประเทศด้วยข้ออ้างว่า..เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีนและญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม- 10 สิงหาคม 2551 ซึ่งภารกิจที่ประเทศจีนนั้นคือไปดูกีฬาโอลิมปิกกับคุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นภรรยาที่ยังไม่ได้หย่ากัน และคุณหญิงพจมานก็เป็นจำเลยในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกด้วย
หลังจากศาลอนุมัติคำขออนุญาตแล้ว..เมื่อถึงวันนัดให้ไปรายงานตัวต่อศาลในวันที่ 11 สิงหาคม 2551..ทั้งสองคน คือทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ก็ไม่ได้ไปรายงานตัวต่อศาล..แต่ไปปรากฏตัวที่กรุงลอนดอน ในอังกฤษ
จนกระทั่งวันที่ 21 ตุลาคม 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคำพิพากษาลับหลังในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก..โดยตัดสินให้จำคุก“ทักษิณ ชินวัตร” 2 ปี ส่วนคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ศาลฎีกาฯยกฟ้อง
เมื่อผลตัดสินของศาลฎีกาฯออกมาเป็นเช่นนั้น..คุณหญิงพจมาน ดามมาพงศ์จึงบินกลับมาคนเดียว...ส่วน“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้สามีหนียาวไปเลย..และได้ไปขอเปลี่ยนสัญชาติเป็นพลเมืองประเทศมอนเตเนโกรเพื่อจะได้มีใบพาสปอร์ต..โดยมีถิ่นพำนักปักหลักอยู่ในดูไบ
ในช่วงเวลา 15 ปีที่“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นสัมภเวสีหนีโทษอยู่ในต่างแดนนั้น..ทักษิณได้บินฉวัดเฉวียนโฉบไปโฉบมาแถวประเทศเพื่อนบ้านของไทยด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว..โดยที่ตำรวจไทยและทางการไทยไม่สามารถจับตัวนักโทษหนีคดีผู้นี้ซึ่งมีหมายจับติดตัวอยู่ได้แบบชวนให้พิศวงงงวย
“ทักษิณ ชินวัตร”หนีจนโทษ 2 ปีจากคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกหมดอายุความ..แต่ก็ยังกลับเข้ามาประเทศไทยไม่ได้...เพราะมีโทษจากคดีทุจริตอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีก 3 คดี
คดีแรกคือคดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4 พันล้านบาทแก่รัฐบาลสหภาพพม่า..หรือที่เรียกันว่า“คดี Exim Bank” ซึ่งศาลพิจารณาเห็นว่า“ทักษิณ ชินวัตร”สั่งการให้ Exim Bank อนุมัติเงินกู้ดังกล่าว..ในอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน..และเพื่อให้นำเงินกู้จำนวนนี้ไปใช้ในการซื้อสินค้าและบริการของบริษัท“ชินแซทเทลไลท์ จำกัด(มหาชน)”ของตระกูลชินวัตร..ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น
โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลับหลังเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ให้จำคุกทักษิณ ชินวัตร 3 ปี ไม่รอลงอาญา
คดีที่สอง คือทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว หรือ“คดีหวยบนดิน”ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล..โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาตัดสินเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 ให้จำคุก“ทักษิณ ชินวัตร” 2 ปี ไม่รอลงอาญา
และคดีที่สาม--ให้บุคคลอื่น(นอมินี)ถือหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ซึ่งเป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ..และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม
คดีที่สามนี้โทษหนัก.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลับหลังเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563..รวมโทษจำคุก 5 ปีไม่รอลงอาญา..โดยแบ่งเป็น—ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ..เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำคุก 2 ปี..และฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการเข้ามามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุก 3 ปี
ระหว่างเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ในต่างแดน 15 ปีกว่า..“ทักษิณ ชินวัตร”ประกาศจะกลับเข้ามารับโทษในประเทศไทยถึง 20 ครั้ง..แต่ก็หาสัจจะจากบุคคลผู้นี้ไม่ได้..โดยเลื่อนแล้วเลื่อนอีก..จนกระทั่งพรรคเพื่อไทยที่ตนเองเป็นเจ้าของได้เป็นแกนนำรัฐบาล..และมีนายเศรษฐา ทวีสินอดีตพ่อค้าบ้านจัดสรรเป็นนายกรัฐมนตรี..ทักษิณจึงกล้ากลับมา
กลับมาแล้วก็ทำลายล้างทุกอย่างในฐานะ“นักโทษเทวดา”..ทำลายกระบวนการยุติธรรม..ทำลายหลักนิติรัฐของประเทศ..ละเมิดกฎหมายและระเบียบกฎเกณฑ์ของประเทศนี้ที่อยู่ในอำนาจของฝ่ายบริหาร..เรียกว่าสามารถขึงพืดประเทศไทยได้..ด้วยการยึดกุมสองเสาหลักของประเทศ..คืออำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติ
โชคดีที่ประเทศไทยยังมีศาลสถิตยุติธรรม..คืออำนาจฝ่ายตุลาการที่เป็นอีกหนึ่งเสาหลัก..ซึ่งนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ยังยึดกุมไม่ได้
ศาลท่านจึงยกคำร้องไม่อนุญาตให้“ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งเป็นจำเลยในคดีดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112..ดังที่“โมฆบุรุษ”ผู้นี้ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์..เพื่อไปรักษาตัวที่ดูไบ
เหตุผลประการสำคัญ..ก็คงเพราะศาลท่านมีบทเรียนแล้วว่าขืนอนุญาต..ก็เท่ากับปล่อยให้“ทักษิณ ชินวัตร”หนีอีกรอบ..อันเนื่องจากคดีอาญามาตรา 112
ดูรูปการณ์แล้วไม่น่าจะรอด..ทักษิณจึงคิดหนีโดย“แหกตา”ศาลว่า..เป็นโรคปอดอักเสบเรื้อรัง,ระบบหายใจและหลอดเลือดหัวใจ, เอ็นไหล่ขวาฉีกขาดและหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน..ทั้งที่คนทั่วบ้านทั่วเมืองก็ยังเห็นว่าแข็งแรงดี
เพิ่งจะไปออกรอบตีกอล์ฟ-ร้องเพลงโยกเขย่าแบบสะเด่าแห้วอยู่แท้ๆ..กลับมาบอกว่าป่วย—อพิโธ่ อภิถัง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี