วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันศุกร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ผลประโยชน์ทับซ้อน‘ขุมทรัพย์ 20 ล้านล้าน’ที่เกาะกูด

ดูทั้งหมด

  •  

พิธีกรรมการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันแรกเมื่อวันที่ 12 กันยายนวานนี้ ยังงั้นๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่

แล้วก็เป็นไปตามคาด “มาดามแพ-แพทองธารชินวัตร”นายกรัฐมนตรี“บ่มแก๊ส”ที่มีวันนี้“เพราะพ่อให้” ท่องจำเจื้อยแจ้วเป็นนกแก้วนกขุนทองอ่านนโยบายของรัฐบาล สลับกับการกระแอมกระไอ เหมือนคนเป็นหวัดเพราะการอดนอนจากการทำการบ้าน แล้วก็ยกน้ำขึ้นดื่มเว้นวรรคเป็นบางช่วง ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าน้ำในแก้วเป็นน้ำสะอาด หรือว่า“ช็อกมินต์”ของโปรด และบางขณะนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่นั่งประกบเป็นพี่เลี้ยงอยู่ข้างๆต้องคอยยื่นกระดาษทิชชู่ให้“มาดามแพ”ซับปาก


ก่อนลงไปสู่รายละเอียดของนโยบาย นางสาวแพทองธารชินวัตร ยังไม่วายจะอวดโอ่ต่อที่ประชุมรัฐสภาว่าเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของประเทศไทย ได้ปูพื้นเกี่ยวกับปมปัญหา 9ประการของประเทศ โดยอ้างสูตรเดิมอันเป็นคาถาของนักการเมืองพรรคเพื่อไทยและ“ตระกูลชินวัตร”ที่คล้ายกับมีความอาฆาตแค้นฝังหุ่นมาตั้งแต่อดีตว่า “ประเทศไทยเราเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองมาอย่างยาวนาน อันเป็นผลจากการรัฐประหาร ความขัดแย้งแบ่งขั้วที่รุนแรง รวมถึงการถอดถอนรัฐบาลออกจากอำนาจ ในแบบที่คาดเดาไม่ได้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทย ได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”

อีกประการหนึ่ง, ที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ“มาดามแพ”ยกมาอ้างคือระบบราชการ โดยเธอแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า“ระบบรัฐราชการแบบรวมศูนย์และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ไม่เต็มที่ การทำงานระหว่างหน่วยงานที่มีอำนาจและบทบาทซ้ำซ้อน โครงสร้างของหน่วยราชการที่แตกกระจายและไม่ประสานร่วมมือกัน มีการขยายตัวไปสู่สำนักงานส่วนภูมิภาคมากเกินความจำเป็น ระบบขนาดใหญ่โต เทอะทะและเชื่องช้า รูปแบบการประเมินและตัวชี้วัดการทางานไม่สะท้อนความต้องการของประชาชนเท่าที่ควร ขนาดและศักยภาพ ไม่ทันกับภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป แถมยังเป็นภาระของประชาชนในการใช้บริการอีกด้วย”

ประเด็นเกี่ยวกับ“ระบบรัฐราชการ”นี้ สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเมื่อในอดีตที่มีอดีตนักโทษชายทักษิณชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยยกเป็นข้ออ้างและนำไปสู่การปฏิรูประบบราชการในปี 2545จากโครงสร้างเดิมที่มีทั้งหมด 14 กระทรวง ก็เพิ่มเป็น 20 กระทรวง เท่ากับเป็นการเกลี่ยอำนาจให้แก่“กลุ่ม-ก๊วน”ที่เป็นมุ้งเล็กมุ้งน้อยในพรรคไทยรักไทย สามารถจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีได้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังสามารถกระชับอำนาจในกระทรวงต่างๆ จากการแต่งตั้งข้าราชการที่ยอมทอดตัวรับใช้ไปลงในตำแหน่งที่สำคัญในแต่ละกระทรวง

ไม่ต้องกล่าวให้มากความก็สามารถพูดได้ว่า รัฐบาล“อุ๊งอิ๊ง1”ชุดนี้คือการกลับมาของ“ระบอบทักษิณ”เมื่อในอดีตที่ใช้นโยบายประชานิยมเป็น“เรือธง”ในการบริหารประเทศ

หากย้อนกลับไปดูในปี 2544 ที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล และมีอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยในเวลานั้นเชื่อว่าคนอย่างทักษิณ“รวยแล้วไม่โกง” ได้นำนโยบายที่หาเสียงไว้ภายใต้ข้ออ้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นจากวิกฤตที่มีผลต่อเนื่องมาจาก“วิกฤตต้มยำกุ้ง”ในปี2540 มาปรับใช้ โดยเน้นย้ำว่า เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในระดับฐานรากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและพ้นจากความยากจน

จะเห็นว่า“มาดามแพ”ยกวาทกรรมที่พรรคเพื่อไทยเคยโฆษณาหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้งว่า“ดิฉันจะทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”มากล่าวในตอนสุดท้ายของการแถลงนโยบบายต่อรัฐสภา เพื่อเสริมกับคำแถลงในช่วงแรกที่ชี้ให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนว่า “มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินครัวเรือน ซึ่งขณะนี้มีมูลค่ากว่า 16 ล้านล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ขณะที่สัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับปัญหาหนี้นอกระบบ”

สุดท้าย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่แถลงเหมือนกับ“ลิปซิ้ง”ของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณชินวัตร ก็มาลงด้วยวาทกรรมที่เป็นเหตุเป็นผลสนับสนุนว่า “รัฐบาลตระหนักดีว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องปัญหาหนี้สิน รายได้ ค่าครองชีพ รวมทั้งความมั่นคงและปลอดภัยในสังคมคือ ปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเร่งสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ ด้วยการแก้หนี้ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาที่กระทบความมั่นคงของสังคม เพื่อนำความหวังของคนไทยกลับมาให้เร็วที่สุด โดยมีนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันที”

นโยบายเร่งด่วนทันทีก็อาทิเช่น ”จะผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถ ช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ ภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยทางการเงิน และไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม (Moral Hazard)ของผู้มีภาระหนี้สิน ควบคู่กับการเพิ่มความรู้ทางการเงินและส่งเสริมการออมในรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย โดยจะดำเนินนโยบายผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ, ธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์”

สรุปให้เห็นภาพ ก็คือ “ระบอบทักษิณ”สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มี“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ดำเนินนโยบายด้วย“ประชานิยมแบบทักษิณ”หรือ“ทักษิโณมิกส์” ที่ล้างผลาญงบประมาณแผ่นดิน โดยที่การใช้จ่ายของรัฐบาลต้องใช้เงินจำนวนมาก ทั้งเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินนอกงบประมาณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตรแถลงนโยบายในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะมุ่งเน้นไปที่ประชาชนในระดับรากฐานแล้ว “SMEs”หรือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ก็อยู่ในบริบทนี้ด้วย

ดังที่นางสาวแพรทองธาร ชินวัตรกล่าวถึง“SMEs”ว่า “รัฐบาลจะดูแลและส่งเสริมพร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะSMEs จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งทางการค้าต่างชาติที่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และการแก้ไขปัญหาหนี้ของ SMEs เช่น การพักหนี้ การจัดทำ Matching Fund ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐบาลและเอกชน เพื่อประคับประคองให้กลับมาเป็นกลไกที่แข็งแรงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”

อย่างไรก็ตาม บทเรียนจากอดีตในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มีอดีตนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่บริหารประเทศด้วย“ประชานิยมแบบทักษิณ”นั้น ได้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันโกงกินกันอย่างมโหฬาร ตลอดจนมีเบื้องหลังเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนจากโครงการของรัฐ ซึ่งการที่“ทักษิณ”ต้องกลายเป็นนักโทษในคดีทุจริตประพฤติมิชอบขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและเพิ่งจะพ้นโทษ ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้น

วันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่อาจจะกล่าวได้ว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่รู้ประสีประสาอะไรสักเรื่องเดียว จะเป็นได้ก็แค่“ร่างทรง”ของบิดา นั่นก็คือ จากคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ที่นางสาวแพทองธารระบุถึง“การพัฒนาระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ” ซึ่งเธอกล่าวชัดถ้อยชัดคำว่า จะต้องสำรวจหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม คือ “การเจรจาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา (OCA) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน”

ขุมทรัพย์ใต้ทะเลที่มีมูลค่ามากกว่า“20 ล้านล้านบาท” อันเป็นปัญหา“พื้นที่ทับซ้อน”บริเวณเกาะกูดจังหวัดตราด ซึ่งเป็นปัญหาคาราคาซังระหว่าง“ไทย-กัมพูชา”มายาวนานตั้งแต่ครั้งอดีตนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะตกลงกันได้ด้วยดีระหว่าง“ตระกูลชินวัตร”กับ“ตระกูลฮุน”

แบบไทย“ครึ่งหนึ่ง-เขมรครึ่งหนึ่ง”วิน วิน กันทั้งสองตระกูล ?!

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
00:10 น. ใช้โซเชียลอย่างมีวิจารณญาณ! 100คลิป‘TikTok’ยอดฮิตด้าน‘สุขภาพจิต’กว่าครึ่งให้ข้อมูลผิดๆ
22:01 น. ‘ธีรรัตน์’คว้ารางวัลเกียรติยศ Pride Popular of Politician Awards 2025
21:48 น. สองตายายร่ำไห้ใจจะขาด ไฟไหม้คอกควายที่เลี้ยงไว้ ตาย 10 ตัว
21:45 น. กำแพงความถูกต้อง! ‘หมอตี๋’ให้กำลังใจ‘กรรมการแพทยสภา’
21:30 น. 'ในหลวง-พระราชินี'พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เฝ้าฯทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่
ดูทั้งหมด
'เจิมศักดิ์'บอก'ออกอาการแล้ว' หลัง'ทูตรัศม์'โพสต์ป่วยจิตวิปลาส ปลุกหมอล้มรัฐบาลเลือกตั้ง
'แพทยสมาคมฯ'มาแล้ว!!! ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนสนับสนุนมติแพทยสภา
ประวัติศาสตร์!เชลซี ทีมแรกกวาดทุกแชมป์ถ้วยยุโรป
‘แม่ทัพภาคที่ 2’ฮึ่ม! หากเขมรไม่ถอนกำลังออกไปจาก‘ช่องบก’ ทหารไทยไม่ถอยเช่นกัน
ทุบเปรี้ยง!ยก 5 เหตุผล‘ทักษิณ’ไม่หนี หวั่น‘ปิดประตูตาย’
ดูทั้งหมด
ชีวิตชราชน คนเดินดิน กินข้าวแกง ด้วยความรัก พอเพียง ใจสุขสงบ 2
พ่อมดกับการเมือง(1)
ฮุนเซน กำเริบเสิบสาน
บุคคลแนวหน้า : 2 มิถุนายน 2568
ทักษิณเข้าคุก หรือไม่ ทุกฝ่ายต้องเคารพศาล
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ใช้โซเชียลอย่างมีวิจารณญาณ! 100คลิป‘TikTok’ยอดฮิตด้าน‘สุขภาพจิต’กว่าครึ่งให้ข้อมูลผิดๆ

สองตายายร่ำไห้ใจจะขาด ไฟไหม้คอกควายที่เลี้ยงไว้ ตาย 10 ตัว

กำแพงความถูกต้อง! ‘หมอตี๋’ให้กำลังใจ‘กรรมการแพทยสภา’

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2568

ด้อม‘พี่ตุ๋ย’เดือด! ระดมพลโซเชียลให้กำลังใจ-สนับสนุน‘พีระพันธุ์’

อุกอาจ! รถตู้ทึบจอดขวางลักพาตัวสาว ถูกซ้อมก่อนอุ้มหนี ตร.เมืองตราดเร่งตาม

  • Breaking News
  • ใช้โซเชียลอย่างมีวิจารณญาณ! 100คลิป‘TikTok’ยอดฮิตด้าน‘สุขภาพจิต’กว่าครึ่งให้ข้อมูลผิดๆ ใช้โซเชียลอย่างมีวิจารณญาณ! 100คลิป‘TikTok’ยอดฮิตด้าน‘สุขภาพจิต’กว่าครึ่งให้ข้อมูลผิดๆ
  • ‘ธีรรัตน์’คว้ารางวัลเกียรติยศ Pride Popular of Politician Awards 2025 ‘ธีรรัตน์’คว้ารางวัลเกียรติยศ Pride Popular of Politician Awards 2025
  • สองตายายร่ำไห้ใจจะขาด ไฟไหม้คอกควายที่เลี้ยงไว้ ตาย 10 ตัว สองตายายร่ำไห้ใจจะขาด ไฟไหม้คอกควายที่เลี้ยงไว้ ตาย 10 ตัว
  • กำแพงความถูกต้อง! ‘หมอตี๋’ให้กำลังใจ‘กรรมการแพทยสภา’ กำแพงความถูกต้อง! ‘หมอตี๋’ให้กำลังใจ‘กรรมการแพทยสภา’
  • \'ในหลวง-พระราชินี\'พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เฝ้าฯทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ 'ในหลวง-พระราชินี'พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เฝ้าฯทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลพัง! ถ้า‘เพื่อไทย’เปิดศึกยึด‘มหาดไทย’

รัฐบาลพัง! ถ้า‘เพื่อไทย’เปิดศึกยึด‘มหาดไทย’

2 มิ.ย. 2568

‘สมศักดิ์’พลีชีพ‘วีโต้’ป้อง‘ทักษิณ’

‘สมศักดิ์’พลีชีพ‘วีโต้’ป้อง‘ทักษิณ’

30 พ.ค. 2568

ปาก‘ส.ท.ร.’นิสัยถาวรของ‘ทักษิณ’

ปาก‘ส.ท.ร.’นิสัยถาวรของ‘ทักษิณ’

29 พ.ค. 2568

บาปของ‘ทักษิณ’ใน‘สงครามยาเสพติด’

บาปของ‘ทักษิณ’ใน‘สงครามยาเสพติด’

28 พ.ค. 2568

‘สัจจะ’ไม่มีในหมู่โจร

‘สัจจะ’ไม่มีในหมู่โจร

27 พ.ค. 2568

‘แพทองโพย’แอบซุกใครไปอังกฤษหรือไม่ ?!

‘แพทองโพย’แอบซุกใครไปอังกฤษหรือไม่ ?!

26 พ.ค. 2568

กรรมไล่ล่า‘ตระกูลชินวัตร’

กรรมไล่ล่า‘ตระกูลชินวัตร’

23 พ.ค. 2568

ความเหมือน‘ตระกูลชิน’กับ‘ตระกูลมาร์กอส’

ความเหมือน‘ตระกูลชิน’กับ‘ตระกูลมาร์กอส’

22 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved