วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ทหาร ธงชัยเฉลิมพล อธิปไตยของชาติ

ดูทั้งหมด

  •  

พิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน แด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ของทหารรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๗ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ  ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ พระลานพระราชวังดุสิต โดยพลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ผู้บังคับการกองผสม และพลเอกหญิงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นองค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ในพิธีดังกล่าว ต้องถือว่าเป็นพิธีการที่ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติยศเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งได้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง พร้อมเพรียง มีระเบียบวินัยของทหารรักษาพระองค์ เป็นที่ชื่นชมของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากประชาชนจะได้ชื่นชมในพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชวงศ์แล้ว ยังได้มีโอกาสเห็นพิธีสวนสนามโดยเหล่าทหารรักษาพระองค์ในชุดเครื่องแบบเต็มยศของแต่ละกองพัน แล้วยังได้มีโอกาสเห็นการอัญเชิญธงชัยเฉลิมพลของเหล่าทัพต่างๆ  ซึ่งถือว่าเป็นธงที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งของเหล่าทหารกล้าของชาติ


ธงชัยเฉลิมพลเป็นสัญลักษณ์ที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่เป็นสิ่งซึ่งเป็นเกียรติยศของหน่วยทหารเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นจอมทัพอีกด้วย ทั้งยังเป็นเครื่องหมายของ ๓ สถาบันหลักของชาติคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นหลักสำคัญของบ้านเมืองที่ทหารจะต้องรักษาไว้ เพื่อประโยชน์สุขแห่งประเทศชาติและประชาชน

ธงชัยเฉลิมพลเป็นธงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานให้กับหน่วยทหารต่างๆ ธงนี้ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของทหาร ที่ทหารทุกคนต้องเคารพสักการะและพิทักษ์รักษาไว้ด้วยชีวิต การปฏิบัติต่อธงทุกขั้นตอนเป็นไปตามแบบแผนพิธีการที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้โปรดให้สร้างธงชัยเฉลิมพลประจำกองทัพ โดยแต่เดิมนั้นธงจะถูกแยกออกเป็น ๒ ชนิดชนิดแรกคือ ธงชัยประจำกองทัพ อันได้แก่ ธงจุฑาธุชธิปไตยและธงไพชยนต์ธวัช และชนิดที่ ๒ คือธงประจำกองทหาร โดยได้พระราชทานธงจุฑาธุชธิปไตยให้แก่กองทัพไทยเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๑๘ เพื่อเปรียบเสมือนตัวแทนพระองค์ไปในกองทัพที่ยกไปปราบพวกฮ่อที่ก่อการจลาจลในแคว้นหัวพันทั้งห้าทั้งหกและแคว้นสิบสองปันนาของไทยในครั้งนั้น ส่วนธงไพชยนต์ธวัชพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๕ เพื่อนำมาใช้คู่กัน

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานธงชัยเฉลิมพล ประจำกองทหารต่างๆ เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๓๑  โดยได้มีพระบรมราโชวาทตอนหนึ่งว่า “ทหารย่อมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับที่จะป้องกันพระราชอาณาเขต และเป็นเหตุที่จะให้อำนาจบ้านเมืองกว้างขวางมั่นคงยั่งยืน ทหารไม่เป็นแต่สำหรับที่จะต่อสู้ในเวลาที่เกิดการศึกสงครามอย่างเดียว ย่อมเป็นประกันห้ามการศึกสงครามมิให้เกิดมีได้ด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องกล่าวว่าการที่มีทหารประจำรักษาพระราชอาณาเขตอันพรักพร้อมไปด้วยเครื่องศาสตราวุธและมีความกล้าหาญนั้น เป็นเครื่องป้องกันการที่จะเกิดสงครามได้ เหตุฉะนี้กองทหารทั้งปวงจึงเป็นผู้ที่มีความชอบอยู่เป็นเนืองนิจ”

ลักษณะสำคัญของธงชัยเฉลิมพลคือเป็นธงสี่เหลี่ยม อาจจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นอยู่กับกองทัพ พื้นธงเป็นสีธงชาติ ตรงกลางของธงของทัพบกและกองทัพอากาศจะเป็นรูปอุณาโลม ส่วนของกองทัพเรือเรือจะเป็นรูปจักร และมีสมอสอดวงจักรโดยทุกธงจะมีพระมหามงกุฎประดับอยู่ ส่วนคันธงตรงตำแหน่งที่มีธง จะมีหมุดโลหะสีทอง ๑๕ หมุด หมุดที่ ๑ เป็นรูปประเทศไทย หมุดที่ ๒ เป็นรูปเสมาธรรมจักร หมุดที่ ๓ เป็นรูปพระปรมาภิไธยย่อ หมุดที่ ๔ เป็นรูปรัฐธรรมนูญ หมุดต่อๆ ไปเป็นเครื่องหมายของเหล่าทัพ ส่วนยอดธงนั้นจะบรรจุเส้นพระเจ้าไว้ในพระกรัณฑ์(ผอบ) และไขปิดด้วยยอดซุ้มเรือนแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปที่เรียกกันว่าพระยอดธงไว้

ความหมายสำคัญของธงชัยเฉลิมพล มีอยู่ ๓ ประการคือ พื้นธงหมายถึงชาติ ยอดธงที่บรรจุพระพุทธรูปหมายถึงพระศาสนา และเส้นพระเจ้า(เส้นผม) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหมายถึงองค์พระมหากษัตริย์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงกระทำพิธีพระราชทานธงชัยเฉลิมพลให้แก่ทหารกรมกองต่างๆ ทหารทุกคนจึงระลึกอยู่เสมอว่า ธงชัยนั้นจะต้องปลิวสะบัดอย่างสง่างาม เป็นมิ่งขวัญของชาวไทย ตราบเท่าที่ประเทศไทยดำรงความเป็นเอกราชอยู่ได้ เป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องระวังรักษาธงชัยเฉลิมพลไว้ด้วยความเคารพรักและเทิดทูนอย่างสูงยิ่ง เพราะธงชัยเฉลิมพลย่อมเป็นเกียรติยศของหน่วยทหารนั้นๆ เมื่อเวลาเข้าสู่สงครามทหารทั้งปวงต้องพิทักษ์รักษาธงชัยเฉลิมพลของหน่วยตนไว้ด้วยชีวิต ธงชัยเฉลิมพลจึงเป็นเครื่องนำความองอาจกล้าหาญแห่งหมู่ทหารทั้งปวงให้เข้าต่อสู้ข้าศึกศัตรู ให้ได้ชัยชนะกลับมา

ในปี พ.ศ.๒๕๒๒ มีการตราพระราชบัญญัติธงในมาตรา ๑๔ ให้ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์มีธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหารมหาดเล็กเพิ่มขึ้นอีก ๑ ธงได้ โดยธงนี้มีลักษณะอย่างเดียวกับธงชาติ เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง ๗๐ เซนติเมตร ยาว ๕๐ เซนติเมตร ตรงกลางมีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดงกว้าง ๓๕ เซนติเมตร ยาว ๕๒.๕ เซนติเมตร และมีรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนอยู่ภายในรูปสี่เหลี่ยมนี้หันหน้าเข้าหาคันธง พื้นธงมุมบนด้านที่ติดกับคันธงมีรูปพระมหามงกุฎและเลขหมายประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์ที่พระราชทาน เป็นตัวเลขไทยสีเหลือง ภายใต้พระมหามงกุฎมีพระปรมาภิไธยย่อสีเหลือง และมีชื่อหน่วยทหาร เป็นแถบโค้งอยู่ใต้พระปรมาภิไธยย่อ

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เริ่มพระราชทานธงนี้ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖ โดยหน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานคือกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่ ๑ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและหน่วยขึ้นตรง

การที่มีพรรคการเมืองบางพรรคหรือนักการเมืองบางคน ออกมาพูดในลักษณะของการหาเสียง ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีทหาร โดยหากมีโอกาสเข้ามาบริหารบ้านเมือง จะเริ่มต้นด้วยการปรับโครงสร้างของกองทัพ และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร จึงเป็นการพูดที่เต็มไปด้วยอคติ ขาดสติ ปัญญาและสามัญสำนึกของความรักชาติอย่างสิ้นเชิง

นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีแนวคิดในการที่จะแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปกป้องคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ โดยไม่เคยสำนึกเลยว่าชาติไทยของเรานั้นกษัตริย์สร้างขึ้นมา จนเข้มแข็งอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ หาใช่นักการเมืองทั้งสิ้น

จะไม่กล่าวถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่มีนายกฯหญิงที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมือง ตลอดจนความสามารถในการที่จะบริหารประเทศหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งมาแล้วเกือบ ๔ เดือน ก็ไม่มีอะไรเป็นที่ปรากฏชัด และยังมีวุฒิภาวะบางอย่างที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากมาย ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศว่าไม่น่าจะเหมาะสมกับการเป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดว่าเหตุใดนักการเมืองที่คิดว่าตัวเองมีประสบการณ์และอาวุโสมากกว่า ที่เคยผ่านเหตุการณ์ในสมัย เดือนตุลาคมในอดีตทั้งหลายนั้น กลับให้การสนับสนุนมากเหลือเกิน จนอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะถูกครอบงำโดยบุคคลบางคน ที่มีอำนาจเงินมหาศาลที่เคยทุจริตคอร์รัปชั่นต่อบ้านเมืองและยอมรับสารภาพในการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งปรากฏหลักฐานอยู่ในราชกิจจานุเบกษา อันเป็นที่ทราบโดยทั่วกัน

แต่สิ่งที่ชาวไทยจำนวนมากกังวลและไม่ต้องการให้เกิดขึ้น คือการที่รัฐบาลนี้ มีทีท่าที่จะยอมให้ประเทศกัมพูชา ได้อ้างสิทธิ์ในทรัพยากรที่อยู่บริเวณรอบเกาะกูด ซึ่งเป็นแผ่นดินของราชอาณาจักรไทย โดยอ้างเอา MOU ๔๔ ที่เป็นบันทึกความเข้าใจมาบอกว่าเป็นสิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติ และถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ก็เท่ากับชาติไทยได้เสียอธิปไตยบางส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวไทยคงจะไม่ยอม

ถึงเวลานั้นก็เชื่อว่าน่าจะมีทหารผู้รักชาติ และเคยกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งหมายความว่าจะต้องเคารพสักการะพระมหากษัตริย์และพิทักษ์รักษาชาติไว้ด้วยชีวิต ออกมากระทำการบางอย่างร่วมกับประชาชนที่ยังมีความรักชาติ เพื่อปกป้องชาติบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของเราไว้อย่างแน่นอน

ปิยะ เนตรวิชัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
20:37 น. ญี่ปุ่นคาดการณ์ แผ่นดินไหวใหญ่ในอนาคตอาจคร่า18,000ชีวิตในโตเกียว
20:30 น. ‘นายกเทศมนตรีเมืองน่าน’รุดตรวจสอบ‘ถนนวรวิชัย’ หลังงานขุดวางท่อกระทบการสัญจร
20:18 น. ‘รองนายกฯธรรมนัส’เยือนเชียงราย ลุยขับเคลื่อนและเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำ
20:17 น. ‘ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13’ลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติงาน‘อุทยานแห่งชาติแม่จริม’
20:15 น. แตกตื่นทั้งหมู่บ้าน! โคมยักษ์ปริศนาติดธงพม่าร่วงกลางสุรินทร์
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568
เสี่ยงเป็น‘นักรบรับจ้าง’! ห้วงธ.ค.‘ตม.’ปฏิเสธเข้าเมือง 128 ต่างชาติ-78 กัมพูชา
ทรัมป์ สั่งแบนเพิ่ม ห้ามพลเมือง 5 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ มีผล 1 ม.ค.ปีหน้า
เปิดใจมรสุมชีวิต! อาจารย์อดัม เล่าทุกอย่างหลังชีวิตพลิกผันครั้งใหญ่
‘อนุทิน’เคลียร์ทุกคำถาม ลั่นใจไม่ถึงพอเอา‘อธิปไตย-ทหาร-ปชช.’แลกคะแนนนิยม
ดูทั้งหมด
อว.ชู ‘วิจัยติดดิน กินได้’ ทำโคราชเป็น ‘ศูนย์กลางนวัตกรรม’
ขัดแย้งไทย-กัมพูชา หาข้อสรุปได้ก่อนปีใหม่
‘ทำไมด้อมส้มยังโง่อยู่’
‘เนิน 350’สมรภูมิสุดท้ายเผด็จศึกเขมร
ข้อตกลงสร้างสันติภาพ ไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ญี่ปุ่นคาดการณ์ แผ่นดินไหวใหญ่ในอนาคตอาจคร่า18,000ชีวิตในโตเกียว

แตกตื่นทั้งหมู่บ้าน! โคมยักษ์ปริศนาติดธงพม่าร่วงกลางสุรินทร์

ทุกข์ซ้ำ!ผู้อพยพในบุรีรัมย์เครียดหนัก รายได้ไม่มี โดนไฟแนนซ์โทร.ทวงค่างวดรถ

ดีสุดรอบ 18 ปี กำปั้นไทยควงหมัดผงาด 14 ทอง

ครูเดวิด ซัดเดือด ตอกกลับสาวเขมรบูลลี่คนไทยพูดอังกฤษห่วย

อธิษฐานแผ่นดินพ้นภัยพาล 'อ.อัจฉราวดี'เชิญร่วมภาวนาเสาร์นี้

  • Breaking News
  • ญี่ปุ่นคาดการณ์ แผ่นดินไหวใหญ่ในอนาคตอาจคร่า18,000ชีวิตในโตเกียว ญี่ปุ่นคาดการณ์ แผ่นดินไหวใหญ่ในอนาคตอาจคร่า18,000ชีวิตในโตเกียว
  • ‘นายกเทศมนตรีเมืองน่าน’รุดตรวจสอบ‘ถนนวรวิชัย’ หลังงานขุดวางท่อกระทบการสัญจร ‘นายกเทศมนตรีเมืองน่าน’รุดตรวจสอบ‘ถนนวรวิชัย’ หลังงานขุดวางท่อกระทบการสัญจร
  • ‘รองนายกฯธรรมนัส’เยือนเชียงราย ลุยขับเคลื่อนและเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำ ‘รองนายกฯธรรมนัส’เยือนเชียงราย ลุยขับเคลื่อนและเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำ
  • ‘ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13’ลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติงาน‘อุทยานแห่งชาติแม่จริม’ ‘ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13’ลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติงาน‘อุทยานแห่งชาติแม่จริม’
  • แตกตื่นทั้งหมู่บ้าน! โคมยักษ์ปริศนาติดธงพม่าร่วงกลางสุรินทร์ แตกตื่นทั้งหมู่บ้าน! โคมยักษ์ปริศนาติดธงพม่าร่วงกลางสุรินทร์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ

ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ

15 ธ.ค. 2568

เงินดิจิทัล หายนะทางสังคม

เงินดิจิทัล หายนะทางสังคม

8 ธ.ค. 2568

คุณและโทษของน้ำ มนุษย์จะจัดการอย่างไร

คุณและโทษของน้ำ มนุษย์จะจัดการอย่างไร

1 ธ.ค. 2568

ความสัมพันธ์ไทย-จีน‘เราเป็นครอบครัวเดียวกัน’

ความสัมพันธ์ไทย-จีน‘เราเป็นครอบครัวเดียวกัน’

24 พ.ย. 2568

เขมร ยังจะต้องไว้ใจกันอีกหรือ

เขมร ยังจะต้องไว้ใจกันอีกหรือ

17 พ.ย. 2568

จากอั้งยี่ มาสู่แก๊งสแกมเมอร์

จากอั้งยี่ มาสู่แก๊งสแกมเมอร์

10 พ.ย. 2568

พระองค์ผู้ทรงเป็นวีรสตรี มหาราชินี

พระองค์ผู้ทรงเป็นวีรสตรี มหาราชินี

3 พ.ย. 2568

ผู้บริหารบ้านเมืองต้องไม่ทุจริต คดโกง

ผู้บริหารบ้านเมืองต้องไม่ทุจริต คดโกง

27 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved