วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
.jpg)
อนาคตการผลิตสุราชาวบ้าน จำพวกสุรากลั่น สุราสี สดใสทันที
เมื่อสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบการแก้ไขพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ปลดล็อกการผลิตสุรากลั่นพื้นบ้าน
ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถผลิต “สุราสี” โดยไม่ถูกตั้งกำแพงการผลิตขั้นต่ำ 30,000 ลิตรต่อวันอีกต่อไป
เป็นไปตามแนวทางเปิดเสรี แบบไม่ใช่สุดโต่งชนิดใครผลิตเองที่บ้านก็ได้แบบร่างของพรรคส้ม (ที่จะเป็นอันตรายมาก)
ตอกย้ำว่า แนวทางของพรรคส้มนั้น ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เน้นปั่นกระแสเอาสะใจ เหมือนเด็กทำงานไม่เป็น
ส่วนแนวทางที่พรรคร่วมรัฐบาลร่วมมือกันนั้น เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ สมดุล สมเหตุสมผลได้จริงๆ
หากกฎหมายนี้เริ่มใช้บังคับ มีการออกกฎกระทรวงตามเจตนารมณ์ การผลิตสุราของภาคประชาชนจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เพราะผู้ผลิตสามารถผลิตสุราสี โดยไม่มีเกณฑ์ของกำลังการผลิต
ผู้ผลิตสุราจะสามารถนำสุราขาวที่ผลิตมาบ่มให้เป็นสุราสี เพื่อเพิ่มมูลค่าได้ ตามภูมิปัญญา ตามสูตรที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง
1.ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ถูกเสนอพรรครัฐบาล ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ
ส่วนร่างของพรรคก้าวไกลนั้น ถูกมองว่าสุดโต่งเกินไป
สุดท้าย ฝ่ายรัฐบาลจึงผลักดันเอาตามแนวทางร่างของพรรคร่วมรัฐบาล
กระทั่งได้คะแนนเห็นชอบวาระ 3 เอกฉันท์ ด้วยเสียงเห็นชอบ 415 เสียง
2.ที่ผ่านมา อุปสรรคสำคัญในการผลิตสุราสี ประเภทวิสกี้-บรั่นดี จะต้องมีกำลังการผลิต 30,000 ลิตรต่อวัน
หากเป็นประเภทรัม จะต้องมีกำลังสูงถึง 90,000 ลิตรต่อวัน
เท่ากับว่า ตั้งกำแพงตัดตอนการผลิตสุรากลั่นของชาวบ้านไปโดยปริยาย
แนวทางที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ คือ ให้ตัดเรื่องกำลังการผลิตออกไปทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ยังดูแลมาตรฐานการผลิตสุราเพื่อให้มีความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ทั้งในครัวเรือนและระดับการค้า
3.ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ … ) พ.ศ. … มีสาระสำคัญอยู่ที่การแก้ไขมาตรา 153 ระบุว่า
“ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุรา หรือมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครอง ให้ยื่นคำขออนุญาตต่ออธิบดี และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
การขออนุญาต และการออกใบอนุญาต ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดกฎกระทรวง”
.jpg)
กฎกระทรวงตามวรรคสอง ต้องมีสาระสําคัญ คือ
1.ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถประกอบอาชีพของตนได้ โดยไม่สร้างเงื่อนไขหรือภาระให้แก่ผู้ขออนุญาตเกินความจําเป็น
2.เปิดโอกาส ให้สถาบันเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน ได้เข้าถึงใบอนุญาตเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจฐานราก
3.ต้องไม่กําหนดถึงกําลังการผลิตและทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ แต่ให้คํานึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสําคัญด้วย
4.เมื่อร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบ และมีผลบังคับใช้ จะนำไปสู่การออกกฎกระทรวงเรื่องการผลิตสุราฉบับใหม่ ซึ่ง กมธ. มีข้อสังเกตร่วมกัน ดังนี้
“1.จะต้องไม่มีการนำหลักเกณฑ์เรื่อง กำลังแรงม้าของเครื่องจักร จำนวนคนงาน ขนาดกำลังการผลิตสุรา ปริมาณการผลิต ทุนจดทะเบียน ระยะเวลาในการประกอบกิจการ การจัดทำ EIA มาเป็นมาสร้างเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะของการผูกขาดทางเศรษฐกิจ
2.จะไม่สามารถกำหนดเงื่อนไขการขออนุญาตผลิตสุรา แบบขั้นบันไดได้อีกแล้ว จากเดิมที่ผู้ประกอบการจะต้องขอทำโรงสุราขนาดเล็กมาก่อน 1 ปีก่อน จึงจะสามารถขอทำโรงสุราขนาดกลางได้ จากนี้ใครมีความพร้อมในการทำโรงสุราขนาดใดก็สามารถขอทำ
โรงสุราขนาดนั้นๆ ได้เลย
3.การผลิตเบียร์จากเดิม หากจะบรรจุกระป๋อง หรือขวดขาย จะต้องทำเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ได้รับการเห็นชอบรายงาน EIA ซึ่งหมายความว่า คุณต้องมีปริมาณการผลิต 7.2 ล้านลิตรต่อปี จะต้องปรับแก้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีการผลิตเบียร์สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก และขนาดกลางที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างโรงเบียร์ที่เป็นโรงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น
4.จะต้องไม่กำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำ จากเดิมผู้ประกอบการที่ต้องการจะทำเหล้าสี จะต้องผลิตไม่น้อยกว่า 30,000 ลิตรต่อวัน หลังจากนี้จะไม่มีเงื่อนไขนี้แล้ว และจากเดิมที่อนุญาตเฉพาะกลุ่มบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล หลังจากนี้กลุ่มสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน ก็สามารถทำได้เช่นกัน
5.โรงสุราขนาดเล็ก หรือกลาง สามารถตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำได้ แต่ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสีย (โรงใหญ่ตั้งได้อยู่แล้ว และมีระบบบำบัด)
6.รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะพิจารณาแบ่งประเภทสุราใหม่ ให้มีการแสดงชื่อสุราบนฉลากที่มีความหลากหลายมากขึ้น
7.รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะพิจารณา ให้สามารถมีการบรรจุสุราในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กได้ เพื่อเป็นของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว
8.การขอใบอนุญาตผลิตสุรากลั่น และสุราแช่ สามารถใช้ที่อยู่เดียวกันได้ (สุราบางชนิดใช้ทั้งกระบวนการกลั่นและแช่ จากเดิมต้องย้ายโรงงานกันหรือส่งวัตถุดิบไปอีกโรงงานหนึ่ง)
9.ควรออกมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมเกษตรกรที่นำสินค้าเกษตรในท้องถิ่นมาผลิตเป็นสุรา
และ 10. โรงเบียร์ขนาดเล็กและกลาง ที่ไม่สามารถติดตั้งเครื่องพิมพ์เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี(หลักล้าน) ให้มีการพิจารณาให้มีการซื้ออากรแสตมป์มาติดได้”
5.สนับสนุน SMEs วิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรฯ ขอใบอนุญาตได้
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ยืนยันในที่ประชุมว่า สาระสำคัญ คือ การเพิ่มเติมความในมาตรา 153 เพื่อกำหนดกรอบในการออกกฎกระทรวง เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครอง ให้เปิดกว้างมากขึ้น
.jpg)
ภายใต้ 2 ประเด็นหลัก คือ
1) ต้องสนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อ
การค้าได้ โดยไม่ใช้หลักเกณฑ์ที่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นธรรม หรือสร้างภาระเกินสมควร
2) ต้องสนับสนุนการใช้สินค้าเกษตรในประเทศมาผลิตหรือนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตสุราทุกประเภท
ทั้งนี้ ยังดำรงในหลักการเดิมว่า การผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครอง ไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใด ยังคงต้องมีการขออนุญาต เพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับทราบและสามารถควบคุมผลกระทบจากการลักลอบผลิตอย่างผิดกฎหมายได้ ซึ่งไม่ใช่ “สุราเสรี” ที่เปิดให้ทุกคน ผลิตสุราโดยขาดการควบคุม
ซึ่งแตกต่างจากร่าง “สุราก้าวหน้า” ของพรรคประชาชน ที่สภาผู้แทนราษฎรเคยมีมติ “ไม่รับหลักการในวาระ 1” เพราะมีหลักการที่จะให้การขออนุญาตผลิตสุราต้องทำเมื่อผลิตเพื่อการค้าเท่านั้น
6.การที่สภาผู้แทนราษฎรร่วมกันผ่านร่างกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ครั้งนี้
ตอกย้ำว่า การทำงานร่วมกัน ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล สามารถสร้างผลสำเร็จได้จริง
โดยจะต้องไม่สุดโต่ง ไม่มุ่งเอาแต่ปั่นกระแส ตามแนวทางพรรคส้มที่ถูกคว่ำไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเหมือนเด็กที่ทำงานไม่เป็น
แต่การเดินหน้าบนพื้นฐานของความพอดี พอเหมาะพอควร สมเหตุสมผล ไม่เพ้อเจ้อ อยู่บนพื้นฐานชีวิตจริง สามารถประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนสังคมได้ดีกว่า
สารส้ม

'อนุทิน'โพสต์เนื้อเพลงบ้านเรา 'ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร'
เชิดชูเกียรติ 'จ.ส.อ.พลพร' นักรบภูมะเขือ รู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอสู้เพื่อประเทศชาติถึงที่สุด
ถอนแล้ว! 'กัมพูชา'โชว์ถอนปืนใหญ่อัตตาจร-รถยิงจรวด พ้นแนวหน้าฝั่งอุดรมีชัย
'ในหลวง-พระราชินี'ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระพันปีหลวง
‘ตม.อุบลราชธานี’จับชายชาวลาว อยู่เกินอนุญาต‘โอเวอร์สเตย์’ 50 วัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี