วันอังคาร ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')
คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

วันพุธ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
เกิดมาทั้งที ขอมีชีวิตดีๆ หน่อยไม่ได้หรือ

ดูทั้งหมด

  •  

แด่ผู้คนที่ต้องการชีวิตที่ดี

ความต้องการในชีวิตของผมมีเพียงไม่กี่อย่าง เปลี่ยนไปตามช่วงอายุและประสบการณ์ที่พบเจอระหว่างทาง และหนึ่งในความต้องการหรือความฝันอันสูงสุดของผมคงเป็นการได้มี “ชีวิตที่ดี” อยู่ในสังคมที่พร้อมพัฒนา ที่แม้แต่ในขณะผมที่เขียนบทความจะยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า ชีวิตที่ดีของผมคืออะไรกันแน่ แต่หากทุกคนอยากลองขบคิดถึงการมีชีวิตที่ดีไปพร้อมๆ กันกับผม ผมอยากขอให้ทุกคนร่วมอ่านเรื่องราวของผมที่จะทำให้หวนนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านไปจนถึงช่วงเวลาที่ยังมาไม่ถึงกับคำถามที่ว่า ชีวิตที่ดีเกิดขึ้นจากอะไร ใครเป็นคนกำหนด อำนาจเหนือร่างกายของตัวผมเป็นเรื่องจริงหรือเพียงมายาคติในการชี้ทางให้พลเมืองเป็นไปตามความต้องการของผู้มีอำนาจ ผ่านเรื่องราวการเติบโตของบุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่มีความต้องการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเพียงเพื่อมีชีวิตที่ดี ผนวกรวมกับการตีความบทความและหนังสือชื่อดังอย่าง “จากครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน” ของอาจารย์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ บุคคลที่มีความสามารถและมีจริยธรรมมากที่สุดคนหนึ่งที่ผมรู้จัก


แม้จะจำรายละเอียดได้ไม่ชัดเจนเท่าไร แต่คงจะเริ่มได้ตั้งแต่ช่วงที่การเดินและการพูดยังเป็นเรื่องแปลกใหม่ของผม ช่วงนั้นตัวผมเองอาจจะยังไม่มีความต้องการที่เป็นรูปธรรมมากนัก แต่คนที่มีความต้องการอย่างเห็นได้ชัดคงจะเป็นคุณแม่ของผมที่ต้องการเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างเท่าเทียม เพราะคุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่า คุณแม่จำเป็นต้องเดินทางด้วยตัวเองผ่านการขึ้นรถสาธารณะที่เข้าซ้ายสุดออกขวาสุดเสมอเพื่อไปโรงพยาบาลเวลาที่ผมป่วย และเมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ยังต้องรอเวลาในการเข้าตรวจและรับยาไปพร้อมๆ กับการพบเจอการใช้อำนาจเพื่อเข้าถึงบริการที่โรงพยาบาลก่อนประชาชนผู้มีสิทธิคนอื่นๆ ที่ทำตามกติกาของสังคม ซ้ำร้ายยังต้องกล่อมให้ผมรู้สึกดีขึ้นจากพิษไข้หรืออาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นอยู่บ่อยครั้ง ถัดมาอีกหน่อยคงเป็นช่วงที่ผมต้องเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบาย “เรียนฟรี 15 ปี”ของรัฐบาลในยุคนั้น ผมคงเป็นหนึ่งในคนโชคดีที่ได้รับการศึกษาในโรงเรียนที่ค่อนข้างพร้อมให้การดูแลและเรียนรู้ที่ดีแก่ผม ในช่วงนั้นความต้องการของผมคงไม่ต่างจากคุณแม่ในช่วงก่อนหน้าเท่าไร แต่อีกอย่างที่ผมต้องการคงจะเป็นเวลาจากครอบครัวที่ต้องวิ่งวุ่นทำงานเพื่อหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูผมให้สามารถเรียนอยู่ในโรงเรียนเอกชนที่ถึงแม้จะมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาลที่นโยบายสาธารณะอาจครอบคลุมไม่ถึง

จนมาถึงการศึกษาขั้นมัธยมศึกษาที่อาจไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากบาดแผลสะสมจากการวิ่งวุ่นทำงานของครอบครัวผมที่สร้างความเหนื่อยล้าให้แก่ทั้งครอบครัว หรือตัวผมเองที่ต้องสวมหมวกมากขึ้นจากที่เคยสวมการเป็นพลเมือง เป็นลูกของพ่อแม่ และเป็นนักเรียน แต่กลับต้องสวมการทำงานเข้ามาเพื่อเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้น ตัวผมในตอนนั้นเหนื่อยล้าจากการโดนสังคมบีบรัดให้เข้าสู่วัยทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าทรัพยากรที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตโดยไม่จมอยู่ในระบบการหาเลี้ยงชีพ และมีเวลามากพอที่จะค้นหาตัวตนเพื่อเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต แต่ความคาดหวังของผมไม่ได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย เพราะบาดแผลที่เคยเกิดขึ้นนั้นลึกเกินกว่าจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีในการเยียวยา มิหนำซ้ำ การศึกษาในระดับอุดมศึกษาของผมยังเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากปัญหาที่รุมเร้ามาตั้งแต่การรอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างยาวนาน พร้อมทั้งการเดินทางด้วยบริการสาธารณะที่สร้างผลกระทบทางร่างกายจากฝุ่นควัน และมลพิษทางอากาศอื่นๆ มากมาย ส่งผลให้ผมที่เคยป่วยเพียงแค่เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น กลับป่วยอย่างรุนแรงจากภาวะภูมิคุ้มกันลดลงและอาการภูมิแพ้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นต่อร่างกายของผม ไม่รู้ว่าโชคยังเข้าข้างหรือตัวผมยังคงมีความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ถึงสามารถรอดจากสถานการณ์ที่ผมไม่สามารถหาทางออกของชีวิตที่ดีได้เลย แต่ก็เป็นช่วงนี้เองที่ทำให้ผมได้ตระหนักกับตัวเองว่า ชีวิตผมไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าการมีชีวิตที่ดีที่แม้จะเป็นนามธรรมแค่ไหน แต่สมองและใจของผมยังพูดคำนี้อยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ที่ผมเข้าสู่ช่วงเบญจเพส ยิ่งทำให้ตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง

เมื่อเชื่อมโยงเรื่องราวการล้มลุกคลุกคลานของผมเข้ากับสาระสำคัญของบทความ “จากครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน” จะเห็นได้ว่า ตัวผมนั้นไม่ได้เข้าใกล้การมี “ชีวิตที่ดี” เลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่การเข้าถึงบริการสาธารณะที่ยากลำบากส่งผลให้ต้นทุนในการใช้ชีวิตมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อทรัพยากรที่สำคัญที่สุดอย่าง ทรัพยากรมนุษย์ (human capital) ที่สมควรได้รับโอกาสในการเรียน การมีโภชนาการที่ดี การทำงานอาชีพที่มีความหมาย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตอันดี รวมถึงการเข้าถึงสินค้าสาธารณะอย่างทั่วถึงโดยไม่มีการแข่งขันเพื่อใช้งาน (non-rivalry) หรือการกีดกันการใช้งานของผู้อื่น (non-excludability) และหากอ้างอิงจาก Human Development Index (HDI) จะระบุว่ามนุษย์ควรได้รับการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีและยืนยาว การเข้าถึงการศึกษาและมีการศึกษาที่ดี และการมีมาตรฐานการครองชีพที่ดี ที่เห็นได้ชัดจากชีวิตของผมว่าสังคมของเราอาจยังไปไม่ถึงจุดนั้นสักเท่าไร หรือลองมองย้อนมาในเรื่องที่คุณแม่ของผมใช้บริการอย่างรถสาธารณะ ก็จะพบว่า การใช้บริการสาธารณะที่ควรสร้างความสะดวกสบายในชีวิตกลับส่งผลกระทบระยะยาวต่อทรัพยากรมนุษย์จากปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศที่เกี่ยวโยงกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงขึ้นอย่างน่ากลัว และส่งผลต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในทุกระดับ ซึ่งตามมาด้วยมาตรการเยียวยาช่วยเหลือต่างๆ อย่างการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ฟรีถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 แต่ก็เกิดข้อถกเถียงในสังคมถึงเรื่องจำนวนผู้ใช้งานและการแบ่งระดับของผู้คน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากต้นทุนการเข้าถึงบริการสาธารณะที่สูงเกินกว่าทุกคนจะเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ทำให้เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความเท่าเทียมขึ้นอย่างกะทันหัน จึงได้ปลุกอารมณ์ของผู้เสียทรัพยากรหลายๆ คนให้ไม่พอใจต่อการพยายามช่วยเหลือผู้คนให้เผชิญปัญหาน้อยลงอย่างถ้วนหน้าสักเท่าไร

อีกเรื่องสำคัญที่พ่วงมากับการมีชีวิตที่ดีคงหนีไม่พ้นการจัดทำนโยบายและการจัดสรรงบประมาณ และถ้ากล่าวถึงในช่วงนี้ก็คงจะเป็นประเด็นสำคัญอย่าง การเลือกตั้งท้องถิ่นหรือการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นและหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ ที่ถึงแม้บทความจะไม่มีการกล่าวถึงประเด็นการเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมา แต่ได้มีการพูดถึงความสำคัญของประชาชนว่า ประชาชนมีปากมีเสียงในการกำหนดชะตากรรมของบ้านเมือง โดยไม่ถูกกดขี่ข่มเหงประทุษฐภัย(การเบียดเบียน ทำร้าย) หากลองคิดเล่นๆ ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจช่วยทำให้เราได้เข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆ อย่างเท่าเทียม มีการกำกับดูแลการใช้อำนาจแทรกแซงอย่างเคร่งครัด มีการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างเสริมความพร้อมของสถานศึกษาในการพัฒนาและเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านต่างๆ อย่างทั่วถึง จะทำให้ชีวิตที่ดีของเราเป็นไปได้ง่ายขึ้นขนาดไหน หรือทรัพยากรมนุษย์จะถูกพัฒนาโดยไร้ข้อจำกัดด้านความไม่เท่าเทียมลดลงไปได้มากขนาดไหน สิ่งเหล่านี้ส่งผลตั้งแต่ในระดับครัวเรือน ประเทศ หรือทั่วโลก ผ่านการสร้างและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเห็นคุณค่า อันส่งผลให้ประชาชนพร้อมเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการหรือทำให้สิ่งนี้เป็นจริงได้ไม่ได้มีเพียงแค่ประชาชนที่มีความต้องการ แต่จำเป็นต้องมีผู้ที่เข้าถึงอำนาจในการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ เพื่อผลประโยชน์โดยรวมอย่างแท้จริงด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ การนิยามและยกตัวอย่างชีวิตที่ดีที่ผมได้ร้อยเรียงให้ทุกท่านได้อ่านอาจเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ จากชีวิตของบุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่หวังเพียงแค่ว่า เขาจะได้มีชีวิตที่ดีไม่ว่าจะต้องพยายามหรือรออีกนานเท่าไรก็จะยังคงหวังและทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้พูดได้เต็มปากว่า เกิดมาทั้งที ในที่สุดก็มีชีวิตดีๆ สักที สุดท้ายนี้ ปัญหาคุณภาพชีวิตไม่ได้จบเพียงแค่เข้าใจและการปรับความคิด เพราะคุณภาพชีวิตของเราถูกยึดโยงอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอย่างลึกซึ้ง อย่างประเด็นปัญหาฝุ่นหรือการจัดสรรทรัพยากรในท้องถิ่นที่ยังคงต้องการแรงจากประชาชนทุกคนเพื่อสร้างสังคมที่พร้อมให้เรา ลูกหลานของเราสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ได้มีชีวิตที่ดีตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน

จากผู้คนที่ต้องการชีวิตที่ดี

วสุพล ยอดเกตุ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:47 น. ปรีวิว-ฟันธง! ปืนคึกเปิดรังรับตราหมีถ้วยยุโรป
12:47 น. สภากทม.หารือสนอ.-สนพ.-สปสช.เขต13 แก้ปัญหาส่งต่อผู้ป่วยบัตรทองล่าช้า
12:46 น. ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ชวนดู'นักรบ 800'วีรกรรมสะเทือนโลกกลางสมรภูมิเดือด
12:41 น. เน้นเป็นเลิศ! ’กีฬาสากล‘ต้องท็อป-บอลล่าแชมป์
12:40 น. Only Monday และ Famoso ปล่อยพลังแน่น MRT ปิดซีรีส์ 'MRT MUSIC JOURNEY 2025'
ดูทั้งหมด
บุกจับ'เสี่ยบอย'พร้อมเมีย! รองหัวหน้าพรรคการเมืองดังเปิดตลาดเถื่อน ทุบของหลวงสร้างพื้นที่
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2568
(คลิป) ส่องแฟชั่น ภริยานายกฯ วันนี้! ผ้าสีสวยมาก ทรงผมน่ารัก แต่...นาฬิกาต้องเปลี่ยนนะคะ
‘เกาหลีใต้’บอมบ์‘ฮุน มาเนต’กลางวงทูตทั่วโลก หมดสภาพผู้นำ
จาก‘โรฮิงแยม’ถึง‘พี่อังคณา’ สะท้อนความเข้าใจ‘สิทธิมนุษยชน’
ดูทั้งหมด
มินิทแมน
‘ทักษิณ-ฮุนเซน’ผู้มีชะตากรรมเดียวกัน
ขายชาติ
พรรคแดงตกต่ำ?
มะเร็งร้าย คือ การบริหารจัดการที่ไม่รับผิดชอบ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปรีวิว-ฟันธง! ปืนคึกเปิดรังรับตราหมีถ้วยยุโรป

เน้นเป็นเลิศ! ’กีฬาสากล‘ต้องท็อป-บอลล่าแชมป์

‘สีหศักดิ์’เชื่อ​กลไกเจรจา‘เจบีซี-จีบีซี’ยังได้ผล​ มอง‘ไทย-กัมพูชา’ตกลงกันได้

กสม.ออกแถลงการณ์!!! ขอให้ทุกฝ่ายเคารพความเห็นต่าง ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

‘ธรรมนัส’ลั่น‘กล้าธรรม’พร้อมเลือกตั้งมากกว่าทุกพรรค อุบดึง‘ไชยา พรหมา’ซบ

ช็อก! นางแบบเบลารุสวัย26ปีโดนลักพาตัวจากกรุงเทพ สุดท้ายถูกฆาตกรรม-ชิงอวัยวะในเมียนมา

  • Breaking News
  • ปรีวิว-ฟันธง! ปืนคึกเปิดรังรับตราหมีถ้วยยุโรป ปรีวิว-ฟันธง! ปืนคึกเปิดรังรับตราหมีถ้วยยุโรป
  • สภากทม.หารือสนอ.-สนพ.-สปสช.เขต13 แก้ปัญหาส่งต่อผู้ป่วยบัตรทองล่าช้า สภากทม.หารือสนอ.-สนพ.-สปสช.เขต13 แก้ปัญหาส่งต่อผู้ป่วยบัตรทองล่าช้า
  • ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ชวนดู\'นักรบ 800\'วีรกรรมสะเทือนโลกกลางสมรภูมิเดือด ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ชวนดู'นักรบ 800'วีรกรรมสะเทือนโลกกลางสมรภูมิเดือด
  • เน้นเป็นเลิศ! ’กีฬาสากล‘ต้องท็อป-บอลล่าแชมป์ เน้นเป็นเลิศ! ’กีฬาสากล‘ต้องท็อป-บอลล่าแชมป์
  • Only Monday และ Famoso ปล่อยพลังแน่น MRT ปิดซีรีส์ \'MRT MUSIC JOURNEY 2025\' Only Monday และ Famoso ปล่อยพลังแน่น MRT ปิดซีรีส์ 'MRT MUSIC JOURNEY 2025'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

รักษาหลักนิติธรรม-แก้คอร์รัปชัน-พูดแล้วทำ (ได้ไหม?)

รักษาหลักนิติธรรม-แก้คอร์รัปชัน-พูดแล้วทำ (ได้ไหม?)

15 ต.ค. 2568

สื่อสืบสวน เครื่องมือสร้างสังคมโปร่งใส

สื่อสืบสวน เครื่องมือสร้างสังคมโปร่งใส

8 ต.ค. 2568

Red flag ความรักที่เหมือนงบรัฐ :  ชวนส่องความเสี่ยงทุจริตผ่านความ Toxic ในความสัมพันธ์

Red flag ความรักที่เหมือนงบรัฐ : ชวนส่องความเสี่ยงทุจริตผ่านความ Toxic ในความสัมพันธ์

24 ก.ย. 2568

เยาวชนกับการต่อต้านคอร์รัปชัน : เราจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้โตมาโดยไม่ยอมรับความผิดปกติได้อย่างไร

เยาวชนกับการต่อต้านคอร์รัปชัน : เราจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้โตมาโดยไม่ยอมรับความผิดปกติได้อย่างไร

17 ก.ย. 2568

ITA ภาพลวงตาแห่งความโปร่งใสแบบ Made in Thailand รัฐไทยทำโชว์

ITA ภาพลวงตาแห่งความโปร่งใสแบบ Made in Thailand รัฐไทยทำโชว์

10 ก.ย. 2568

ประชาชน อำนาจอธิปไตย รัฐธรรมนูญไทยมาตรา 3

ประชาชน อำนาจอธิปไตย รัฐธรรมนูญไทยมาตรา 3

27 ส.ค. 2568

Wonder Mom : ฮีโร่ที่ไม่ได้มีแค่ในหนัง แต่ยืนหยัดเคียงข้างลูกในทุกวัน

Wonder Mom : ฮีโร่ที่ไม่ได้มีแค่ในหนัง แต่ยืนหยัดเคียงข้างลูกในทุกวัน

13 ส.ค. 2568

สะใจเรา ลำบากเขา : เมื่อเราก้าวข้าม ‘ความเป็นชาติ’ ไม่พ้น เลยขาด ‘ความเป็นคน’ ในสงคราม

สะใจเรา ลำบากเขา : เมื่อเราก้าวข้าม ‘ความเป็นชาติ’ ไม่พ้น เลยขาด ‘ความเป็นคน’ ในสงคราม

6 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved