การเลือกตั้งทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับการมีอำนาจการเมือง ทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ขาวสะอาด ปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่มีการทุจริตใดๆ เพราะพรรคการเมืองทุกพรรค และทุกกลุ่มการเมือง รวมถึงผู้สมัคร และผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดล้วนยึดมั่นหลักประชาธิปไตยไม่ซื้อสิทธิ์ ไม่ขายเสียง
หากมีใครมาบอกกับคุณในเรื่องที่ปรากฏในย่อหน้าข้างต้น ถามว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ หรือหากคุณได้ยินเรื่องนี้แล้ว คุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร บางคนอาจตอบว่าแค่เพียงได้ยินว่าการเลือกตั้งในเมืองไทยบริสุทธิ์ ขาวสะอาด ก็เกิดอาการอยากจะอาเจียนแล้ว เพราะมันไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย
ถามว่าในเมื่อทุกคนรู้ดีว่าการเลือกตั้งในประเทศไทยมันไม่ขาว ไม่สะอาด แต่มันเต็มไปด้วยความโสโครก โสมม แล้วทำไมยังมีผู้เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้ง แถมยังจะเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งให้มากขึ้น เช่น เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
ก่อนอื่นต้องตอบว่าการเลือกตั้งโดยตัวของมันเองนั้นไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ เพราะมันคือการให้อำนาจตัดสินใจกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่าจะตัดสินใจเลือกใคร แต่ที่น่ารังเกียจนั้นมันมาจากการที่ผู้รับสมัครลงแข่งขันในการเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยดันมีพฤติกรรมการโกงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะซื้อเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ถามต่อไปว่าแล้วทำไมผู้มีสิทธิเลือกตั้งจึงต้องขายเสียง ตอบว่าเพราะเขาเห็นว่าเมื่อผู้สมัครได้เข้าไปเป็น สส. หรือเป็น นายก อบจ. แล้ว ก็ไม่ได้ดำรงตนเป็นคนดี ไม่รักษาหน้าที่ของการเป็นตัวแทนประชาชนอย่างเคร่งครัด แถมยังรู้ว่า สส. และนายก อบจ.(อันที่จริงยังต้องกล่าวถึง นายก อบต. และบรรดานายกเทศมนตรีด้วย) ไม่ได้ดำรงตนเป็นคนดี ไม่ได้ดำเนินกิจกรรมการเมืองด้วยความขาวสะอาด
พูดง่ายๆ คือ เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งรู้ดีว่าคนที่ลงรับสมัครชิงตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่คนสะอาด แล้วก็หาคนขาวสะอาดได้ยากเหลือเกิน เพราะฉะนั้นก็จึงตัดสินใจรับเงินซื้อเสียงไว้ก่อน เพราะรู้ว่าเมื่อปล่อยให้คนไม่ดีเข้าไปเป็น สส. หรือ นายก อบจ. แล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆดังนั้น จึงยึดแนวคิดที่ว่า กำขี้ ดีกว่ากำตด ได้เงินจากการซื้อเสียงเป็นหลักร้อย หลักพัน ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยในอนาคต จึงไม่แปลกใจที่เลือกรับเงินซื้อเสียงไว้ก่อน
ถามต่อไปว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รู้หรือไม่ว่าการเลือกตั้งในไทยเต็มไปด้วยการทุจริต ฉ้อฉลต่างๆ นานาสารพัดสารพัน ตอบว่า กกต. ย่อมต้องรู้ดีอยู่เต็มอก แต่ทว่า กกต. ไม่มีปัญญาจับผู้กระทำทุจริตได้ เมื่อจับคนทุจริตไม่ได้ ก็จึงประกาศว่าการเลือกตั้งในไทยไม่มีการทุจริต ขอย้ำว่าการจับคนทุจริตไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการทุจริต เพียงแต่คนมีหน้าที่จับคนทุจริตไม่มีปัญญาจับผู้ก่อเหตุทุจริตได้เท่านั้น
การเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นอีกกรณีหนึ่งที่คนไทยที่ติดตามข่าวเรื่องนี้ทราบดีว่าเต็มไปด้วยการซื้อเสียง พรรคการเมืองที่ส่งคนของตนลงชิงตำแหน่งก็ทราบปัญหาการซื้อเสียงเป็นอย่างดี เพราะคอการเมืองวิจารณ์กันตรงๆ ว่าซื้อเสียงกันทุกพรรค เพียงแต่ซื้อมากหรือน้อยเท่านั้น
การที่ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยต้องตระเวนไปหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยในจังหวัดต่างๆ โดยบางจังหวัดไปหาเสียงมากกว่า
หนึ่งครั้ง ก็คือการแสดงโดยนัยให้เห็นว่าการเลือกตั้ง นายก อบจ. ครั้งนี้มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด เมื่อต่อสู้กันแรงมาก ก็หมายถึงการยิงกระสุนก็ต้องแรงมากตามไปด้วย เพราะพรรคคู่แข่งก็ไม่ลดราวาศอกให้ เมื่อเอ็งยิงกระสุนแรง ข้าก็ต้องยิงกระสุนให้แรงกว่า
คำถามคือ เราจะได้เห็นการทำหน้าที่ของ กกต. อย่างเข้มแข็งและจริงจังหรือไม่ หรือว่าเมื่อจบการเลือกตั้ง นายก อบจ. ในครั้งนี้ กกต. ก็จะลอยหน้าประกาศว่าผลการเลือกตั้งเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เหมือนเช่นการเลือกตั้ง สส. ครั้งที่ผ่านๆ มา ในเมื่อ กกต. เขายืนยันว่าบริสุทธิ์ ก็หมายความว่า การเลือกตั้งที่ทุจริตแต่ไม่สามารถจับคนทุจริตได้ คือการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้ สวัสดีความเศร้าของประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี