วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ประเทศไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี“แพทองโพย”ร่างทรงของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานี้ ขนาดว่าไม่ได้อยู่ในภาวะที่มีศึกสงคราม เสนาบดีที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่งคงของประเทศ ก็ยังไว้วางใจไม่ได้
เพราะต่างฝ่ายต่างเอาตัวรอด แบบไม่อยากจะเสี่ยงว่า หากพลาดท่าพลาดทีขึ้นมา ตนเองอาจจะต้อง“ติดคุก”..คือ“กลัวตาย”มากกว่าเห็นประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนเป็นประการสำคัญ..ขณะที่ปากมักจะอ้างว่าอาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน
นึกภาพดูแล้วน่าหวาดเสียว ถ้าในยามศึกสงคราม หากชาติบ้านเมืองมีเสนาบดีที่เป็นแม่ทัพนายกองเช่นนี้ คงบ้านแตกสาแหรกขาดแน่..และก็คงไม่แคล้วเช่นกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ.2310 ดังที่“สุนทรภู่”บรมกวีของไทย ได้พรรณนาไว้ใน“นิราศพระบาท”ตอนหนึ่งว่า
กำแพงรอบขอบคูก็ดูลึก
ไม่น่าศึกอ้ายพม่าจะมาได้
ยังให้มันข้ามเข้าเอาเวียงชัย
โอ้อย่างไรเหมือนบุรีไม่มีชาย ฯ
ปัญหา“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่เกี่ยวกับเรื่องการ“ตัดไฟ”หรือ“ไม่ตัดไฟ” ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.ขายให้กับฝั่งเมียนมานั้น ก็ไม่ต่างจากกลอนที่“สุนทรภู่”พรรณนา..เพราะเปรียบเหมือนกับว่า ประเทศไทยเวลานี้ไม่มีเสนาบดีที่เป็น“ชายอกสามศอก”อีกแล้ว..ส่วนที่เห็นๆ กันอยู่ก็ประเภทซุกอยู่ใต้กระโปรง“คุณหนู”ลูกสาวนายใหญ่
เพราะกว่าจะตัดสินใจกันได้ว่า ต้อง“ตัดกระแสไฟฟ้า”ที่ กฟภ.ขายให้แก่ฝั่งเมียนมาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น เสียเวลากับการ“โยนกลอง”กันไปกันมาจนชาวบ้านเขารู้สึกรำคาญ ถ้าจะนับกันจริงๆ ก็ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมคมปีที่แล้ว ที่ กฟภ.ทำหนังสือขอความชัดเจนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งหมด 25 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก กฟภ.เป็นรัฐวิสาหกิจระดับปฏิบัติที่คอยสนองนโยบายของรัฐบาล
เพิ่งจะเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์วานนี้เอง ที่“มาดามแพทองโพย”บอกว่า “ได้ทันทีค่ะ” คือสามารถ“ตัดไฟได้ทันที” เป็นการแถลงและตอบคำถามผู้สื่อข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ทุกวันอังคาร
“มาดามแพทองโพย”แถลงถึงเรื่องนี้ด้วยอาการเลิ่กลั่กขาดความมั่นใจ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหน้าเดิมๆ ของพรรคเพื่อไทยยืนเป็นพระอันดับเสริมบารมี และเป็นการแถลงหลังจากที่ช่วงเช้าก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กำกับดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศ ให้สัมภาษณ์ด้วยเสียงเข้มอย่างมีอารมณ์ว่า
“วันนี้ผมจะสั่งการไปยัง สภาความมั่งคงแห่งชาติ ให้แจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค..เรื่องนี้รุนแรง จะต้องไปดำเนินการให้ตัดไฟทันที ไม่ใช่มารอโยกไปมาเหมือนที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นปัญหา..ผู้บังคับหน่วยส่วนไหนหรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ผมจะยืมตัวมาช่วยราชการ”
เรื่องของเรื่องก็แค่นี้เอง คนที่สามารถตัดสินใจได้ ไม่ใช่ กฟภ. หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กฟภ. หรือหน่วยงานทั้งหลายของรัฐ แต่เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ“มาดามแพทองโพย”ในฐานะนายกรัฐมนตรี และรองลงไปก็คือนายภูมิธรรม เวชยชัย ก็แค่บุคคลสองคนนี้เท่านั้น ซึ่งทั้ง“มาดามแพทองโพย”และนายภูมิธรรม ก็ยังเป็นประธานและรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติโดยตำแหน่งอีกด้วย
หากว่า“มาดามแพทองโพย” กับนายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะ“พี่เลี้ยงฝึกงานนายกฯ” คุยกันสองคนให้สะเด็ดน้ำตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อคุยกันแล้ว ถ้าเห็นว่าการจ่ายไฟฟ้าขายให้กับฝั่งเมียนมา กระทบต่อความมั่นคงของชาติ..แล้วรีบดำเนินการอย่างทันทีทันควัน ปัญหาก็จบสิ้นไปตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอจนเมื่อเย็นวันที่ 4 กุมภาพันธ์วานนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติได้มีมติภายหลังการประชุมโดยนายภูมิธรรรม เวชยชัย เป็นประธาน ให้“ตัดไฟ-ตัดอินเตอร์เน็ต-ตัดน้ำมัน”ที่ส่งข้ามไปยังฝั่งเมียนมา ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์วันนี้เป็นต้นไป รวมทั้งหมด 5 จุด
นั่นก็คือ 1.จุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ, 2.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน, 3.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน, 4.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2-เมืองเมียวดี และ 5.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง-เมืองเมียวดี
อย่างไรก็ตาม ที่น่าอับอายขายขี้หน้า และน่าสมเพชเวทนาเสนาบดีของไทยสิ้นดี..ก็คือ เรื่องการ“ตัดไฟ-ตัดอินเตอร์เน็ต-ตัดน้ำมัน”ดังกล่าวนี้ ล้วนเป็นข้อเสนอล่าสุดของฝ่ายจีน ที่เสนอให้ทางการไทยดำเนินการ..อันเป็นผลต่อเนื่องมาจาก“นายหลิว จงอี” ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และทีมงานชุดใหญ่ ได้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อสัปดาห์ก่อน
ทั้งหลายทั้งปวงนั้น สรุปได้ดังคำกลอนของ“สุนทรภู่”มหากวีเอกแห่งกรุงรัตน์โกสินทร์ ที่ว่า..“โอ้อย่างไรเหมือนบุรีไม่มีชาย” คือมีแต่เสนาบดีเอาตัวรอดที่เป็น“เต่าหดหัว”อยู่ในกระดอง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

ปชป. ร่อนแถลงการณ์ ซัด พรรคส้ม ออกลูกงอแงหวังประโยชน์แก้ รธน. ยอมเอา ‘อธิปไตยชาติ’ มาเสี่ยง
ยุบสภา อนุทิน ยันแล้ว คืนอำนาจให้ประชาชน
คอนเฟิร์ม! นายกฯอนุทิน ยื่นยุบสภาแล้ว เผยต่อรอง ปชน. ชี้ สั่ง สว.ไม่ได้ ไม่โหวตตัดอำนาจ
สะพัด อนุทิน ยื่นยุบสภาคาไว้แล้ว ตั้งแต่เย็นวันนี้ ตัดหน้า ‘ปชน.’ ล่าชื่อซักฟอกรัฐบาล
สื่อนอกตีข่าว เหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือน2ประเทศอพยพแล้วครึ่งล้านคน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี