วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันจันทร์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
กรณี‘อุยกูร์’อเมริกาไม่ใช่พ่อ (โว้ย)

ดูทั้งหมด

  •  

สหรัฐอเมริกานั้น สทร.ขนานแท้ และเวลานี้ตั้งแต่“โดนัลด์ ทรัมป์” ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี และมี “มาร์โก รูบิโอ” เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ดูคล้ายเหมือนหมาบ้า เที่ยวแยกเขี้ยวยิงฟันอาละวาดข่มขู่ประเทศต่างๆ ไปทั้งโลก

สำหรับประเทศไทยทั้งเหนื่อยและหนักในการรับมือ เพราะอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินไม่ชัดเจน ไม่เพียงแต่มี“มาดามแพทองโพย”ผู้ซึ่งขาด“ภาวะผู้นำ-ขาดวุฒิภาวะ-ขาดความรู้” และไม่รู้จักกาลเทศะใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว การตัดสินใจกดปุ่มสั่งการภายใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรีก็ยังถูก“ทับซ้อน”โดยอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาที่“สทร.”เสือกทุกเรื่อง แต่ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาแบบปฏิเสธความรับผิดชอบทุกเรื่อง ประเภทรับ“ชอบ”แต่ไม่รับ“ผิด”


กรณีทางการไทยส่งชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน ในสถานภาพผู้หลบหนีเข้าเมืองมานานกว่า 11 ปี กลับประเทศจีนแผ่นดินถิ่นเกิดเมื่อวันนี้ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ประเทศตะวันตกที่อยู่ในอาณัติของสหรัฐอเมริกาจะส่งเสียงคัดค้านต่อต้านประณามไทยเท่านั้น คนไทยในประเทศเราที่มี“ใจเป็นทาส”เมืองขึ้นตะวันตก ยังร้องขานรับเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนกันให้ระงมตามไปด้วย

และไปไกลถึงขนาดที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีราวกับกระบอกเสียงของประเทศตะวันตก ออกมาประโคมข่าวอย่างต่อเนื่องเป็นระบบว่า การส่งกลับชาวอุยกูร์ของทางการไทยไม่ได้ละเมิดแค่มาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2562 เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่จำนวนไม่น้อย ตั้งแต่ระดับสั่งการไปจนถึงผู้ทำตามคำสั่งหลายระดับ น่าจะเข้าข่ายผิดมาตราอื่นๆ ในกฎหมายฉบับนี้ด้วย รวมถึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ข้อคิดเห็นดังกล่าวของนายกัณวีร์ สืบแสง สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับนายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ซึ่งได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมหลังจากชาวอุยกูร์ 40 คนถูกส่งกลับไปยังประเทศจีนได้ไม่กี่วัน ว่าไทยได้ละเมิดกฎหมายและสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

ภายหลังจากนายโวลเกอร์ เติร์ก ออกแถลงการณ์, ปรากฏว่า รัฐสภายุโรป (European Parliament) ก็ได้ประชุมมีมติเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 482 ต่อ 57 และงดออกเสียง 68 เสียง ประณามประเทศไทยซ้ำเข้าไปอีก และเรียกร้องให้ทางการไทยยุติการส่งตัวผู้ลี้ภัย, ผู้ขอลี้ภัย และนักโทษการเมือง กลับไปยังประเทศที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตของบุคคลเหล่านี้

พร้อมกันนี้รัฐสภายุโรปก็ยัง“สทร.” คือ“แส่”และ“เสือก”เรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของไทย ที่ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ถือหางและยุยงแกนนำม็อบสามกีบ รวมทั้ง สส.พรรคประชาชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาและจำเลยในฐานความผิดมาตรานี้พ่วงเข้ามาด้วย โดยกล่าวหาว่าทางการไทยบังคับใช้กฎหมายมาตรานี้ต่อเยาวชน นักการเมือง และนักกิจกรรมทางการเมือง

สำคัญที่สุด จากการประชุมของรัฐสภายุโรปก่อนจะมีมติดังกล่าว ที่ประชุมได้ถกกันว่า การกระทำของทางการไทยในกรณีส่งกลับ 40 ชาวอุยกูร์ ถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ และอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสหภาพยุโรป (EU) กับประเทศไทยที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยเน้นย้ำว่าผลลัพธ์ของการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีนั้น มีเงื่อนไขขึ้นอยู่กับเกณฑ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงการเคารพประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศภาคีด้วย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา นายมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็น“สายเหยี่ยว”ที่ประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับจีนตั้งแต่เป็นวุฒิสมาชิกรัฐฟลอริดา และมีหน้าที่ในคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภา ก่อนจะมาร่วมหอลงโลงกับทรัมป์ ได้“ประกาศนโยบายข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซ่า” คือจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ทั้งปัจจุบันและในอดีต ที่มีความเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม กับกระบวนการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปยังจีน

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบานามว่า“รูบิโอ”วัย 53 ปีผู้นี้ ซึ่งบิดามารดาของเขาเป็นชาวคิวบาที่อพยพจากคิวบามาตั้งรกรากในสหรัฐฯ และมีจุดยืนที่แข็งกร้าวทั้งต่อจีนและอิหร่าน โดยเห็นว่าจีนคือ "ศัตรูที่ใหญ่ที่สุดและก้าวหน้าที่สุดที่อเมริกาเคยเผชิญมา" และเรียกอิหร่านว่าเป็นระบอบการปกครอง "ผู้ก่อการร้าย", กล่าวถึงนโยบายจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ทั้งปัจจุบันและในอดีตว่า :-

“ผมปฏิบัติตามนโยบายนี้โดยทันที ด้วยการดำเนินขั้นตอนเพื่อกำหนดข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซ่ากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันและในอดีต ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์ 40 คน ออกจากประเทศไทยในวันที่ 27 กุมภาพันธ์"

จะอย่างไรก็ตามแต่ แม้ว่าประเทศไทยจะนั่งยันนอนยันว่า การส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับแผ่นดินจีนถิ่นเกิด เป็นการตัดสินใจบนหลักการมนุษยธรรม ที่ไม่ปรารถนาจะให้ชาวอุยกูร์เหล่านี้ต้องถูกขังจนตายคาคุกในประเทศไทย อีกทั้งประเทศจีนก็ได้มีหนังสือให้คำรับรองอย่างเป็นทางการต่อสวัสดิภาพของชาวอุยกูร์ และเมื่อส่งกลับไปแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยยังได้ติดตามไปดูความเป็นอยู่ถึงประเทศจีนเพื่อให้เห็นกับตาแล้วก็ตาม แต่ฝ่ายที่จะหาเรื่อง ก็ยังหาเรื่องต่อไปไม่ยอมหยุด

ที่สุดแล้วแม้สหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่“พ่อของไทย” แต่การที่ประเทศเรามีผู้นำรัฐบาลอย่าง“มาดามแพทองโพย” อะไรๆ มันก็น่าวิตกไปหมด ว่าไทยจะรับมือกับแรงกดดันจากทั้งจากประเทศสหรัฐฯและประเทศบริวารในอาณัติ ซึ่งจะถาโถมเข้ามาเป็นระลอกนับจากนี้ไปได้หรือไม่  และลำดับแรกคนไทยส่วนใหญ่อยากเห็นรัฐบาลไทย ลุกขึ้นมารักษาและปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศเราเอง ด้วยการตอบโต้สหรัฐฯโดยใช้มาตรการเดียวกับที่สหรัฐฯประกาศใช้กับเรา

ครั้งหนึ่งในอดีตเมื่อปี 2547 สมัย“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรีเคยกล่าวว่า “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ” จากการถูกยูเอ็นขอเข้ามาตรวจสอบเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย แต่ในปี พ.ศ.นึ้ประชาชนคนไทยที่เป็นวิญญูชน อยากได้ยินเสียงตะโกนของ“มาดามแพทองโพย” เหมือนเช่นที่เคยแหกปากส่งเสียงบนเวทีปราศรัยว่าคนไทยจะ“มีกิน-มีใช้-มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี”ในช่วงเลือกตั้งว่า

“อเมริกาไม่ใช่พ่อ”(โว้ย) !

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
20:11 น. ทภ.1 สรุปปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ระดมยิง 3 พื้นที่ ทำลายคลังอาวุธสำเร็จ
20:03 น. โรม มอง อนุทิน ทำไทยเสียเปรียบปมชายแดน โต้คนวิจารณ์ ปชน. สนใจแต่แก้ รธน.-เลือกตั้ง
19:40 น. ไทยต้องสั่งสอน! ดร.ปิติ ฟาด ทรัมป์ หลังเรียกเหยียบระเบิด อุบัติเหตุข้างทาง ชี้ถ้ากดดัน เราจะเลือกข้าง
19:31 น. เจนธิรา ทายาทนมเปรี้ยวชื่อดัง เปิดตัวแบรนด์กระเป๋าหัตถกรรมชั้นสูง เจ้าชายมาทีน-พระชายาอนิชาร่วมงาน
19:29 น. อนุทิน เมิน อันวาร์ ยัน 4 ทุ่มไม่มีหยุดยิง จี้กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจ
ดูทั้งหมด
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
ปรากฏการณ์ใหม่! ‘ประชาธิปัตย์ กทม.’ผู้สนใจเสนอตัวกว่า 150 คน 33 เขต เตรียมเปิดโชว์วิสัยทัศน์
‘ในหลวง-ราชินี’เสด็จพิธีเปิดซีเกมส์2025
ด่วน!กองทัพส่ง F-16 บินถล่มกัมพูชา ล็อก 3 เป้าหมาย
ดูทั้งหมด
อว.เร่งนำงานวิจัยสู้ภัยพิบัติ-เยียวยาประชาชน ชง ‘คืนค่าเทอม-เลื่อนสอบ’ บรรเทาผลกระทบ
ปักกิ่งเตือนกัมพูชาขายความมั่นคงให้สหรัฐจีนตัดหางปล่อยวัดตระกูลฮุน
เทศกาลชิงเปรตกำลังจะมา
บุคคลแนวหน้า : 13 ธันวาคม 2568
อ้าว! ยุบสภาเสียแล้ว
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทภ.1 สรุปปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ระดมยิง 3 พื้นที่ ทำลายคลังอาวุธสำเร็จ

โรม มอง อนุทิน ทำไทยเสียเปรียบปมชายแดน โต้คนวิจารณ์ ปชน. สนใจแต่แก้ รธน.-เลือกตั้ง

เจนธิรา ทายาทนมเปรี้ยวชื่อดัง เปิดตัวแบรนด์กระเป๋าหัตถกรรมชั้นสูง เจ้าชายมาทีน-พระชายาอนิชาร่วมงาน

อนุทิน เมิน อันวาร์ ยัน 4 ทุ่มไม่มีหยุดยิง จี้กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจ

ทภ.2 เผยไทยยึด ปราสาทคนา ครบ 4 ที่หมาย เขมรตอบโต้ยิงจรวด BM-21-โดรน FPV พุ่งชน

ศุภจี เผยสหรัฐฯ ส่งสัญญาณ เริ่มเจรจาภาษีระดับเทคนิคกับไทย 

  • Breaking News
  • ทภ.1 สรุปปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ระดมยิง 3 พื้นที่ ทำลายคลังอาวุธสำเร็จ ทภ.1 สรุปปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ระดมยิง 3 พื้นที่ ทำลายคลังอาวุธสำเร็จ
  • โรม มอง อนุทิน ทำไทยเสียเปรียบปมชายแดน โต้คนวิจารณ์ ปชน. สนใจแต่แก้ รธน.-เลือกตั้ง โรม มอง อนุทิน ทำไทยเสียเปรียบปมชายแดน โต้คนวิจารณ์ ปชน. สนใจแต่แก้ รธน.-เลือกตั้ง
  • ไทยต้องสั่งสอน! ดร.ปิติ ฟาด ทรัมป์ หลังเรียกเหยียบระเบิด อุบัติเหตุข้างทาง ชี้ถ้ากดดัน เราจะเลือกข้าง ไทยต้องสั่งสอน! ดร.ปิติ ฟาด ทรัมป์ หลังเรียกเหยียบระเบิด อุบัติเหตุข้างทาง ชี้ถ้ากดดัน เราจะเลือกข้าง
  • เจนธิรา ทายาทนมเปรี้ยวชื่อดัง เปิดตัวแบรนด์กระเป๋าหัตถกรรมชั้นสูง เจ้าชายมาทีน-พระชายาอนิชาร่วมงาน เจนธิรา ทายาทนมเปรี้ยวชื่อดัง เปิดตัวแบรนด์กระเป๋าหัตถกรรมชั้นสูง เจ้าชายมาทีน-พระชายาอนิชาร่วมงาน
  • อนุทิน เมิน อันวาร์ ยัน 4 ทุ่มไม่มีหยุดยิง จี้กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจ อนุทิน เมิน อันวาร์ ยัน 4 ทุ่มไม่มีหยุดยิง จี้กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ต้องเผด็จศึกเขมรโดยเร็วก่อน‘ฝูงอีแร้ง’ลงรุมทึ้ง

ต้องเผด็จศึกเขมรโดยเร็วก่อน‘ฝูงอีแร้ง’ลงรุมทึ้ง

12 ธ.ค. 2568

‘เผด็จศึกเขมร’ไม่มีการหยุดยิง

‘เผด็จศึกเขมร’ไม่มีการหยุดยิง

11 ธ.ค. 2568

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร

10 ธ.ค. 2568

จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC

จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC

9 ธ.ค. 2568

‘รธน.’ยาพิษนักการเมือง

‘รธน.’ยาพิษนักการเมือง

8 ธ.ค. 2568

ภาพถ่าย‘เบน สมิธ’ทุ่นระเบิดสังหาร‘อนุทิน-บิ๊กแดง’

ภาพถ่าย‘เบน สมิธ’ทุ่นระเบิดสังหาร‘อนุทิน-บิ๊กแดง’

5 ธ.ค. 2568

ดูเขาดูเราเรื่องภัยน้ำท่วม

ดูเขาดูเราเรื่องภัยน้ำท่วม

4 ธ.ค. 2568

‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่

‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่

3 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved