วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')
คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

วันพุธ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
เมื่อจีนใช้ AI ช่วยสะสางการคอร์รัปชันอย่างได้ผล ไทยจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง

ดูทั้งหมด

  •  

ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กลายเป็นคำคุ้นหูที่ท่านผู้อ่านคงได้ยินได้ฟังกันมาบ้าง ทุกวันนี้ AI ถูกใช้อย่างแพร่หลายในแวดวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา สาธารณสุข หรือการท่องเที่ยว
AI กลายเป็นพัฒนาการสำคัญที่ส่งเสริมให้การทำงานหลายอย่างสะดวกขึ้น การแข่งขันทางเทคโนโลยี AI กำลังเข้มข้นมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะ เมื่อจีนเปิดตัว DeepSeek สำเร็จ ซึ่งกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Open AI

ในห้วงหลายปีที่ผ่านมาจีนมีความจริงจังกับการพัฒนาระบบ AI อย่างมาก เพื่อตอบโจทย์การบริการ ประชาชน และช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เนื่องจากจีนกำลังเข้าสู่ยุคที่ประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว การนำ AI เข้ามาช่วยจึงเป็นทางเลือกและทางรอดของรัฐบาลจีน


ช่วงที่ผู้เขียนกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศจีน ได้มีโอกาสสัมผัสและต้องมีความเกี่ยวข้องกับระบบ AI ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและเสียง การเข้าสู่กระบวนการช่วยให้ AI ได้เรียนรู้สำนวนภาษาไทยตลอดจนการให้ความร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการอนุญาตการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินที่มีการทำธุรกรรมในประเทศจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันและฟอกเงิน

นับตั้งแต่ปี 2012 จีนมีความจริงจังอย่างมากในการผลักดันแคมเปญแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชันในระดับฐานรากโดยเน้นป้องกันมากกว่าปราบปรามตามภาษิตจีนโบราณยุคราชวงศ์จินที่กล่าวว่า “ป้องกันปัญหาเล็กน้อยก่อนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แม้ว่านโยบายนี้จะถูกวิจารณ์จากชาติตะวันตกว่าเป็นเพียงการกวาดล้างขั้วตรงข้ามในพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อเปิดทางให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นสู่อำนาจ แต่ข้อมูลทางสถิติพบว่าแคมเปญนี้ไม่ได้เล่นงานผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเท่านั้น แต่ยังจัดการข้าราชการระดับเล็ก ไปจนถึงระดับใหญ่ได้เป็นจำนวนมากด้วย

ข้อมูลของศาสตราจารย์หยู เหวินซวน จากมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน สะท้อนว่าเฉพาะปี 2024 เพียงปีเดียว หน่วยงานตรวจสอบและกำกับดูแลวินัยของจีนได้สอบสวนกรณีการทุจริตและประพฤติมิชอบในข้าราชการระดับต่างๆ กว่า 596,000 กรณี และลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องไปกว่า 462,000 คน

โดยศาสตราจารย์หยูชี้ว่าการต่อต้านคอร์รัปชันไม่ว่าประเทศใดย่อมเผชิญความท้าทาย แต่สำหรับในกรณีของจีนที่มีการตรวจจับการทุจริตได้รวดเร็วส่วนหนึ่งเป็นผลสำคัญมาจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปฏิบัติการ โดยเฉพาะ AI และ Big Data เพราะนอกจากจีนจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการแบ่งเบางานของเจ้าหน้าที่แล้ว ยังใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการส่งเสริมความรู้ประชาชนให้เท่าทันกับการทุจริตรูปแบบใหม่ๆ ด้วย

หนึ่งในมาตรการสำคัญที่รัฐบาลจีนได้ใช้ โดยอาศัยความร่วมมือกับเครือข่ายมือถือ ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้มีโอกาสได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ ตอนที่อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน คือ รัฐบาลจีนได้ประสานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์น่าสงสัยว่าจะเป็นสแกมเมอร์ และคอยอัปเดตข้อมูลกับค่ายมือถือเสมอ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เมื่อเบอร์ของสแกมเมอร์โทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของเรา จอมือถือจะแสดงทันทีว่าเบอร์โทรศัพท์นี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง ซึ่งช่วยป้องกันคดีอาชญากรรมจำนวนมหาศาลได้ในจีน โดยการทำงานเช่นนี้เป็นผลมาจากการเชื่อมข้อมูล Big Data เข้าหากัน โดยให้ AI ประมวลผล

จีนยังใช้งาน AI ในลักษณะใกล้เคียงกันในการศึกษาการไหลเข้า-ออกเงินของบัญชีต่างๆ เพื่อตรวจจับความเสี่ยงในการฟอกเงิน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ของระบบธนาคาร และ Fintech เข้าด้วยกัน โดยดึง AI ของหน่วยงานตรวจสอบการฟอกเงินและต่อต้านการรับสินบนเข้ามาประมวลผล เมื่อระบบพบว่าลักษณะการทำธุรกรรมของบางบัญชีมีความสุ่มเสี่ยงว่าเข้าข่ายฟอกเงินหรือรับสินบน บัญชีจะถูกระงับในทันที ซึ่งหากเจ้าของบัญชีมั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่บัญชีม้า หรือเกี่ยวข้องกับการรับสินบนก็สามารถไปขอแก้ไขได้ในภายหลัง น่าสนใจว่าระบบนี้ช่วยให้จีนสามารถจับกุมกลุ่มอาชญากรรมที่ทำงานผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงการรับสินบนของข้าราชการด้วย

นี่เป็นเพียงสองตัวอย่างที่อยากยกขึ้นมาเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นว่าวันนี้เทคโนโลยีเดินหน้าไปไกล และช่วยงานด้านการตรวจสอบการทุจริตได้อย่างมาก แต่สิ่งสำคัญที่เราจะเห็นก็คือการจะพัฒนา AI ให้มีศักยภาพสูงได้ขนาดนี้ สิ่งสำคัญก็คือข้อมูล เพราะความฉลาดของ AI มาจากการเรียนรู้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจากปริมาณข้อมูลที่มันมี หรือถูกป้อนเข้าไป ซึ่งกว่าที่ AI ของจีนจะมาได้ไกลขนาดนี้ ก็มาจากการเก็บข้อมูลอย่างแข็งขันและจริงจังของเจ้าหน้าที่ตลอดหลายทศวรรษนับตั้งแต่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการผลักดันเทคโนโลยี AI ในฐานะอุตสาหกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ

วันนี้ เทคโนโลยีต่างๆ เช่น บิ๊กดาต้า (Big Data) และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกระตุ้นการพัฒนาแนวทางการต่อต้านคอร์รัปชันด้วย ในขณะที่บิ๊กดาต้าช่วยให้สามารถระบุความเสี่ยงการทุจริตได้อย่างแม่นยำ ทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัญญาประดิษฐ์ช่วยเสริมสร้างการตรวจสอบในระดับฐานรากให้มีความโปร่งใสและมีส่วนร่วมมากขึ้น

เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกบูรณาการเข้าสู่ระบบเดียวกัน จะช่วยให้สามารถตรวจจับการทุจริตได้ตั้งแต่เนิ่นๆ กระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต และส่งเสริมการศึกษาเพื่อต่อต้านการทุจริต การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความโปร่งใส แต่ยังเสริมสร้างความรับผิดชอบในทุกระดับของรัฐบาลอีกด้วย

แม้ว่า AI จะยังถูกกังขาว่ามีความแม่นยำมากน้อยเพียงใดในการตรวจจับข้อเท็จจริงในเชิงข้อมูล แต่ผู้เขียนไม่ได้ต้องการจะสื่อว่าให้นำเอา AI มาใช้ในการตัดสิน แต่ให้นำมาใช้เป็นตัวช่วย เพราะต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอยู่ ไม่เพียงพอต่อภาระการทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันอยู่แล้ว การนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยคัดกรองเบื้องต้น จะผ่อนแรงการทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ภาครัฐเป็นอย่างมาก

และที่สำคัญกว่านั้นคือ AI จะเข้ามาช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการหลอกลวงประชาชน และการทุจริตในโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ อันจะช่วยให้ประเทศชาติไม่ต้องสูญเสียทรัพยากรไปกับกรณีการคอร์รัปชัน ซึ่งบางครั้งมีมูลค่าที่สูงมาก

อนาคตของการต่อต้านการคอร์รัปชันอยู่ที่การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้อย่างชาญฉลาด เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนาต่อไป ศักยภาพในการปรับโฉมการบริหารจัดการ ปรับปรุงการตรวจสอบ และส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยการยอมรับนวัตกรรมเหล่านี้ ประเทศไทยจะมีโอกาสสร้างแนวทางการบริหารจัดการงานที่มีความโปร่งใส รับผิดรับชอบ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต

 

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:05 น. เบื้องลึกปม'เดชอิศม์'หัก'เฉลิมชัย' เกมร้อนเปลี่ยนกัปตันก่อนล่มกลางพายุ
14:05 น. กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทย ประกาศผลรางวัลการทูตสาธารณะ 2568 ตอกย้ำ Soft Power อุตสาหกรรมบันเทิงไทยสู่สายตาโลก
13:58 น. มวยโลกเศร้า!'แฮตตัน'กำปั้นดังชาวอังกฤษเสียชีวิตในวัย46ปี
13:57 น. 'นายกฯ'เผย'ว่าที่ขุนคลัง'เตรียมหารือเงินบาทแข็งบ่ายนี้
13:54 น. บุกแดนกระทิงดุ! 3นักชกดังนำทัพ'มวยไทยมาสเตอร์คลาส'
ดูทั้งหมด
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
คนไทยตาสว่าง! 'ติ๊กต็อกเกอร์ดัง'เฉลยหลังโซเชียลแห่โยง'ลุงตู่' ปมการบินไทยฝ่าฝูงม็อบที่เนปาล
ดูทั้งหมด
กรมพระศรีสวางคว้ฒน วรขัตติยราชนารี กับหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ (ตอนที่ 1)
‘หนูกู้ชาติ’ดีกว่า‘เพื่อไทยขายชาติ’
‘พ่อขายฝัน อาขายข้าว ลูกสาวขายชาติ เห็นศัตรูเป็นญาติ เห็นรั้วของชาติเป็นศัตรู’
ประชาชนอนุญาตให้เสียสัตย์
สุ จิ ปุ ลิ : หัวใจของนักปราชญ์ การฟัง การคิด การถาม และการเขียน สำหรับเยาวชนไทยในวันนี้ (1)
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ผ่า‘รัฐบาลอนุทิน’! ปัญหาเฉพาะตัวที่ต้องเผชิญ สภาพ‘เปราะบาง’อาจเป็น‘กรณีศึกษาใหม่’

บุกแดนกระทิงดุ! 3นักชกดังนำทัพ'มวยไทยมาสเตอร์คลาส'

ลุคนี้เต็มสิบ! 'หนูแหม่ม สุริวิภา'อวดลุคผมสั้นสุดชิค

'ณัฐวุฒิ'ใจบาง! รับใจสะเทือนเห็น'หญิงอ้อ'ควงลูกๆ เยี่ยม'ทักษิณ'

เครื่องบินอยู่ไหนน้า! 'สนามบินเตโช'ไร้เที่ยวบินเข้าออกหลังเปิดใช้งานใหม่

นายกฯเฉพาะกาล'เนปาล'ขอเวลาทำงาน 6 เดือน พร้อมปูทางสู่เลือกตั้ง

  • Breaking News
  • เบื้องลึกปม\'เดชอิศม์\'หัก\'เฉลิมชัย\' เกมร้อนเปลี่ยนกัปตันก่อนล่มกลางพายุ เบื้องลึกปม'เดชอิศม์'หัก'เฉลิมชัย' เกมร้อนเปลี่ยนกัปตันก่อนล่มกลางพายุ
  • กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทย ประกาศผลรางวัลการทูตสาธารณะ 2568 ตอกย้ำ Soft Power อุตสาหกรรมบันเทิงไทยสู่สายตาโลก กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทย ประกาศผลรางวัลการทูตสาธารณะ 2568 ตอกย้ำ Soft Power อุตสาหกรรมบันเทิงไทยสู่สายตาโลก
  • มวยโลกเศร้า!\'แฮตตัน\'กำปั้นดังชาวอังกฤษเสียชีวิตในวัย46ปี มวยโลกเศร้า!'แฮตตัน'กำปั้นดังชาวอังกฤษเสียชีวิตในวัย46ปี
  • \'นายกฯ\'เผย\'ว่าที่ขุนคลัง\'เตรียมหารือเงินบาทแข็งบ่ายนี้ 'นายกฯ'เผย'ว่าที่ขุนคลัง'เตรียมหารือเงินบาทแข็งบ่ายนี้
  • บุกแดนกระทิงดุ! 3นักชกดังนำทัพ\'มวยไทยมาสเตอร์คลาส\' บุกแดนกระทิงดุ! 3นักชกดังนำทัพ'มวยไทยมาสเตอร์คลาส'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ITA ภาพลวงตาแห่งความโปร่งใสแบบ Made in Thailand รัฐไทยทำโชว์

ITA ภาพลวงตาแห่งความโปร่งใสแบบ Made in Thailand รัฐไทยทำโชว์

10 ก.ย. 2568

ประชาชน อำนาจอธิปไตย รัฐธรรมนูญไทยมาตรา 3

ประชาชน อำนาจอธิปไตย รัฐธรรมนูญไทยมาตรา 3

27 ส.ค. 2568

Wonder Mom : ฮีโร่ที่ไม่ได้มีแค่ในหนัง แต่ยืนหยัดเคียงข้างลูกในทุกวัน

Wonder Mom : ฮีโร่ที่ไม่ได้มีแค่ในหนัง แต่ยืนหยัดเคียงข้างลูกในทุกวัน

13 ส.ค. 2568

สะใจเรา ลำบากเขา : เมื่อเราก้าวข้าม ‘ความเป็นชาติ’ ไม่พ้น เลยขาด ‘ความเป็นคน’ ในสงคราม

สะใจเรา ลำบากเขา : เมื่อเราก้าวข้าม ‘ความเป็นชาติ’ ไม่พ้น เลยขาด ‘ความเป็นคน’ ในสงคราม

6 ส.ค. 2568

โลกที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงทางความมั่นคง นำมาสู่ความเสี่ยงทางคอร์รัปชันที่มากขึ้น

โลกที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงทางความมั่นคง นำมาสู่ความเสี่ยงทางคอร์รัปชันที่มากขึ้น

30 ก.ค. 2568

การทุจริตของตระกูลการเมืองที่นำพาประเทศสู่หายนะ

การทุจริตของตระกูลการเมืองที่นำพาประเทศสู่หายนะ

23 ก.ค. 2568

เรามีระบบตรวจสอบ หรือมีแต่ใบอนุญาตที่ซื้อได้?

เรามีระบบตรวจสอบ หรือมีแต่ใบอนุญาตที่ซื้อได้?

16 ก.ค. 2568

เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน

เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน

9 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved