วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
แผ่นดินไหว ลางร้ายของรัฐบาลหรือ

ดูทั้งหมด

  •  

แผ่นดินไหวในดินแดนอันเป็นถิ่นอาศัยของชนชาติไทยได้มีการบันทึกไว้มานานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งได้กล่าวไว้ในศิลาจารึก รวมทั้งที่กล่าวไว้ในพงศาวดารต่างๆ ก็มีอยู่หลายครั้ง โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดนั้นน่าจะเป็นแผ่นดินไหวที่ทำให้เมืองทั้งเมืองพร้อมเวียงวังทั้งหมดจมหายไป กลายเป็นบึงใหญ่จนถึงปัจจุบันนี้ โดยเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นประมาณปีพุทธศักราช ๑๕๕๘ ในสมัยของพระองค์มหาชัยชนะซึ่งเป็นกษัตริย์ของโยนก โดยแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเป็น ๓ ระลอก ทำให้ เวียงโยนกเมืองหลวงของอาณาจักรเชียงแสนยุบจมลงกลายเป็นบึงใหญ่ ซึ่งปัจจุบันพื้นน้ำแห่งนั้นคือทะเลสาบเชียงแสน

ในสมัยอาณาจักรอยุธยา ก็มีการกล่าวถึงแผ่นดินไหวหลายครั้งเช่นกัน เป็นการไหวใหญ่ ๕ ครั้ง ตามที่บันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ โดยแผ่นดินไหวทั้ง ๕ ครั้งนั้น ได้ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน


แผ่นดินไหวครั้งแรกที่ถูกกล่าวไว้เกิดขึ้นประมาณปีพุทธศักราช ๒๐๖๘ ในช่วงปลายรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ โดยมีบันทึกไว้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และเกิดขึ้นทั่วทุกเมือง เป็นผลให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพงอย่างรุนแรง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นไม่นานนักสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ก็เสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน ทำให้คนในยุคนั้นมองว่าแผ่นดินไหวใหญ่นั้นเป็นลางร้ายที่จะเกิดขึ้นกับชาติแผ่นดินได้

แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่ ๒ เกิดขึ้นในปีพ.ศ. ๒๐๘๙ หลังจากที่สมเด็จพระไชยราชาธิราชเสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหัน และหลังจากนั้นไม่นานพระเจ้ายอดฟ้าพระราชโอรสก็ถูกลอบปลงพระชนม์ จากการก่อกบฏของพระสนมศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศาธิราช จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงราชบัลลังก์ มีการกราบทูลเชิญพระเทียรราชาที่ทรงผนวชอยู่ให้ขึ้นครองราชแทนเป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิและ เป็นจุดเริ่มต้นที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในปีพ.ศ. ๒๐๙๒ ทำให้ต่อมาไทยต้องเสียเอกราชเป็นครั้งแรก

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งที่ ๓ เกิดขึ้นในปีพ.ศ. ๒๑๒๗ ในขณะที่สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปช่วยอาณาจักรหงสาวดีให้รบกับอังวะ โดยได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บริเวณเมืองกำแพงเพชร เชื่อกันว่าเป็นลางเตือนถึงแผนลวงของพระเจ้าหงสาวดีที่หวังจะปลงพระชนม์ แต่สมเด็จพระนเรศวรหนีมาได้ เหตุการณ์นั้นทำให้ไมตรีระหว่าง ๒ อาณาจักรสิ้นสุดลง และเกิดลางร้ายต่างๆในหัวเมืองเหนือ จนถึงปีถัดมาอาณาจักรหงสาวดีก็ยกทัพใหญ่มาโจมตีอาณาจักรอยุธยา

แผ่นดินไหวครั้งต่อมาซึ่งเป็นครั้งที่ ๔ นั้น เกิดเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๑๓๑ ในช่วงปลายรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวร แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง อย่างรุนแรงในกรุงศรีอยุธยา ประชาชนเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเป็นอย่างมาก เกิดการขาดแคลนอาหาร นำความทุกข์ยากอดอยากมาสู่ผู้คนเป็นจำนวนมาก

แผ่นดินไหวครั้งที่ ๕ ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้ายตามพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐนั้น เกิดขึ้นในวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๑๓๑ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมเด็จพระมหาธรรมราชาทรงพระอาการประชวร ทำให้เราผู้คนหวั่นไหวว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจเป็นลางร้าย ซึ่งก็เป็นจริงว่าหลังจากแผ่นดินไหว ๖ เดือนสมเด็จพระมหาธรรมราชาก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๑๓๓

จากการที่แผ่นดินไหวทั้ง ๕ ครั้งในสมัยอยุธยา ได้เกิดขึ้นควบคู่กับ วิกฤตการณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติโรคระบาด ความอดอยาก สงคราม หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง จึงทำให้ผู้คนในยุคนั้นเรียกแผ่นดินไหวว่าธรณีพิโรธ และมีความเชื่ออย่างฝังใจว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย ที่ฟ้าดินส่งมาเตือนล่วงหน้าถึงความวิบัติที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง อาจสะท้อนถึงพื้นฐานวัฒนธรรมไทยในเรื่องของโลกทัศน์แห่งการเชื่อถือโชคลาง ซึ่งมีต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน

จากข้อมูลของกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหวพบว่า ประเทศไทยได้มีการบันทึกเรื่องราวของแผ่นดินไหวตั้งแต่การล่มสลายของนครโยนกมาจนถึงปัจจุบันนี้มากกว่า ๒๐๐ ครั้งด้วยกัน ทั้งการไหวขนาดใหญ่พอสมควรจนประชาชนรู้สึกได้และการไหวขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะไม่รู้สึก

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในยุคกรุงเทพฯนั้น หากนับที่มีความรุนแรงมากกว่า ๕.๐ ริกเตอร์ก็มีจำนวนนับสิบครั้งแล้ว โดยครั้งที่มีความรุนแรงวัดขนาดได้สูงมากคือ ๖.๕ ริกเตอร์ เกิดขึ้นที่จังหวัดน่านเมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๘ ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลที่ทำให้กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสูงให้ทนต่อแผ่นดินไหว ที่มีการออกไว้เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ และปรับปรุงเพิ่มเติมในปี ๒๕๖๔ กำหนดว่า อาคารสูงที่สูงเกินกว่า ๑๕ เมตร จะต้องทนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ตั้งแต่ระดับ ๗.๐ ริกเตอร์ขึ้นไป

โดยครั้งที่มีความรุนแรงรองลงมาคือแผ่นดินไหวขนาด ๖.๓ ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เป็นผลจากการขยับตัวของรอยเลื่อนแม่ลาว ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนนับหมื่นหลัง เป็นความเสียหายรุนแรงมากกว่า ๔๐๐ หลัง และมีผู้เสียชีวิต ๑ ราย

ส่วนแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงมากครั้งล่าสุด คือที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคมที่ผ่านมานี้จากรอยเลื่อนสะกาย โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า มีขนาด ๘.๒ ริกเตอร์ ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิดแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย และทำให้อาคารที่กำลังก่อสร้าง ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มลงมา มีผู้สูญหายและเสียชีวิตนับร้อยรายด้วยกัน และอาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯได้รับความเสียหายด้วย

จากการสูญเสียชีวิตของผู้คนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดเป็นประเด็นปัญหาเรื่องระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยให้กับประชาชนของภาครัฐว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จนเกิดความตื่นตระหนกไปทั่ว เป็นเรื่องที่ภาครัฐจะต้องปรับปรุงเรื่องนี้ให้ดีขึ้น รวมทั้งต้องสืบสวนถึงกระบวนการทุจริตในการก่อสร้างอาคารของรัฐที่ถล่มมาด้วย

ปัจจุบันนี้มนุษย์จะอยู่กับสิ่งที่เป็นจริงหรือที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์ แต่เรื่องที่นอกเหนือจากวิทยาศาสตร์หรือพิสูจน์ไม่ได้ก็ยังพอมีอยู่บ้าง แผ่นดินไหวใหญ่ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ที่คร่าชีวิตของผู้คนซึ่งหากนับรวมที่ประเทศพม่าซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุก็คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ ๔,๐๐๐ คน ถือเป็นความเสียหายรุนแรงมาก ไม่นับรวมการถล่มทลายของบ้านเรือนในประเทศเพื่อนบ้านของเรา จึงอาจจะเป็นลางร้าย และไม่น่าจะตัดออกไปจากกระบวนความคิดของคนรุ่นใหม่ทั้งหมดเป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลเองก็ต้องทบทวนว่า การบริหารบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้มีอะไรหรือไม่ที่อาจจะเป็นเหตุให้ธรรมชาติต้องแสดงปฏิกิริยาบางอย่างออกมา ให้เห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นอาจจะไม่เหมาะสมและจะเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ

การแจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท แม้จะเป็นเรื่องที่ช่วยเหลือประชาชนได้บางส่วนแต่ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมของชาติดีขึ้นแต่อย่างใดและทำให้เงินซึ่งควรจะนำมาเป็นงบประมาณในการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการของประเทศให้ดีขึ้น เพื่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ก็ต้องสูญเปล่าไปเป็นจำนวนหลายแสนล้านบาทแล้ว และยังอาจจะต้องสูญเสียอีกต่อไป

การไม่เคารพซึ่งกฎหมายหรือพยายามใช้กฎหมายแบบบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือพวกพ้อง โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เพราะสังคมประชาธิปไตยหากจะอยู่ได้อย่างมั่นคงนั้นทุกคนน่าจะมีสิทธิ์พื้นฐาน ภายใต้กฎหมายที่เท่าเทียมกัน เน้นย้ำว่าภายใต้กฎหมาย

ความตั้งใจของรัฐบาลแบบมุ่งมั่นว่าจะต้องเปิดสถานบันเทิงครบวงจรโดยนำเรื่องของกาสิโนเข้าไปแฝงอยู่ด้วยนั้น ทั้งๆที่วัตถุประสงค์หลักคือการเปิดกาสิโนซึ่งก็จะทำให้มีแต่ความเสียหายเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสังคม คดีฉกชิงวิ่งราวปล้นฆ่า ยาเสพติด การล้มละลายหรือล่มสลายของครอบครัวมีโอกาสเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

รัฐบาลต้องกลับมาย้อนคิดแล้วว่าการบริหารบ้านเมืองที่เป็นอยู่ขณะนี้ เป็นคุณต่อประเทศชาติจริงหรือไม่อย่างไร เพราะหากไม่เป็นอย่างนั้นแล้วก็เชื่อว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนหรือเป็นลางร้ายที่จะบอกว่า ท่านอาจจะหมดโอกาสที่จะบริหารประเทศชาติต่อไป

 

ปิยะ เนตร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:11 น. 'ฮุน เซน'ขู่ตัดขาดไทย! จี้รัฐบาลกัมพูชาเลิกหนุนสินค้าทุกชนิด กร้าว'แม้ไม่มีจะกินก็อย่าพึ่งเขา'
13:51 น. จับหนุ่มหนีคดีพยายามฆ่าซุกตัวในซากเรือ
13:42 น. สุดโรแมนติก! 'โปรต้า'คุกเข่าขอ'ครูเบียร์'แต่งงานริมทะเล
13:39 น. วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน
13:35 น. (คลิป) เคลียร์ชัด!! ไทกร เปิดดีลลับตั้งนายก ตีแผ่หมดเปลือก ใครเป็นใคร!!
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
‘ทักษิณ‘ พร้อมลูกสาว ’เอม พินทองทา‘ เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก คดี ม.112
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ทิศทางของไทยคือความเป็นกลาง
‘หนีดีกว่า’อวสาน‘ตระกูลชิน’
สองพ่อลูกลุยกรรม
ไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกา
เดือน ก.ค. อำนาจตุลาการพิทักษ์แผ่นดิน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ฮุน เซน'ขู่ตัดขาดไทย! จี้รัฐบาลกัมพูชาเลิกหนุนสินค้าทุกชนิด กร้าว'แม้ไม่มีจะกินก็อย่าพึ่งเขา'

สุดโรแมนติก! 'โปรต้า'คุกเข่าขอ'ครูเบียร์'แต่งงานริมทะเล

วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน

(คลิป) ครม.อุ๊งอิ๊งค์ 1/2 ชุดขาวในเงามืด!

สมศักดิ์ศรีสาวบุรีรัมย์! 'ลิซ่า ลลิษา'โชว์สกิลเทพตำส้มตำปลาร้า ดันอาหารไทยสู่สายตาชาวโลก

'ญี่ปุ่น'แผ่นดินไหวทะลุ1,000ครั้ง! แถลงการณ์ฉุกเฉินสั่งปชช.เตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อ

  • Breaking News
  • \'ฮุน เซน\'ขู่ตัดขาดไทย! จี้รัฐบาลกัมพูชาเลิกหนุนสินค้าทุกชนิด กร้าว\'แม้ไม่มีจะกินก็อย่าพึ่งเขา\' 'ฮุน เซน'ขู่ตัดขาดไทย! จี้รัฐบาลกัมพูชาเลิกหนุนสินค้าทุกชนิด กร้าว'แม้ไม่มีจะกินก็อย่าพึ่งเขา'
  • จับหนุ่มหนีคดีพยายามฆ่าซุกตัวในซากเรือ จับหนุ่มหนีคดีพยายามฆ่าซุกตัวในซากเรือ
  • สุดโรแมนติก! \'โปรต้า\'คุกเข่าขอ\'ครูเบียร์\'แต่งงานริมทะเล สุดโรแมนติก! 'โปรต้า'คุกเข่าขอ'ครูเบียร์'แต่งงานริมทะเล
  • วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน วัดแทบแตก! ครอบครัวฝรั่งหัวใจพุทธ สร้างวัด-แจกไข่ไก่ชาวบ้าน
  • (คลิป) เคลียร์ชัด!! ไทกร เปิดดีลลับตั้งนายก ตีแผ่หมดเปลือก ใครเป็นใคร!! (คลิป) เคลียร์ชัด!! ไทกร เปิดดีลลับตั้งนายก ตีแผ่หมดเปลือก ใครเป็นใคร!!
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

12 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved