“แพทองโพย”กลับมาแล้วจากอังกฤษและโมนาโกเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมเมื่อวานนี้..และเดินทางต่อในตอนค่ำ..เพื่อไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 ณ ..กรุงกัวลาลัมเปอร์..ประเทศมาเลเซีย
จากการยกคณะเดินสายเวิลด์ทัวร์อังกฤษและโมนาโกรวมทั้งหมด 5 วันนั้น..น่าจะล้างผลาญเงินงบประมาณแผ่นดินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท..ทั้งค่าเครื่องบิน..ค่ากินค่าอยู่..และค่าใช้จ่ายต่างๆ..ในการจัดอีเว้นท์..เพื่อให้เป็นข่าวสมกับที่นายกรัฐมนตรีต้องยกคณะไป
และอันที่จริงแล้ว..“แพทองโพย”เป็นหัวหน้าทัวร์ยกคณะ“ทีมไทยแลนด์”ไปในครั้งนี้..ถ้าจะให้ข้าราชการประจำระดับผู้อำนวยการกอง..หรือระดับอธิบดี..นั่งเครื่องบินของสายการบินพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะไปก็ได้..ไม่ได้สำคัญถึงขนาดที่จะต้องให้นายกรัฐมนตรีเดินทางไป..ในขณะที่ที่ปัญหาต่างๆ ในประเทศมีมากมายที่จะต้องอยู่แก้ไข..หาใช่เพียงแค่ว่า..ได้สั่งคนโน้นคนนี้ทำแล้ว..เหมือนที่บอกว่าสั่ง“อนุทิน ชาญวีรกูล”ให้ดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่อำเภอแม่สาย..จังหวัดเชียงราย..จากการสั่งข้ามโลกมาจากอังกฤษ..ระหว่างที่ลั้ลลาอยู่ในลอนดอน
การทัวร์อังกฤษและโมนาโก..จึงเสียเวลาและเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์..เห็นได้จากภาพข่าว..ซึ่งคนในโลกโซเชียลเขาวิจารณ์กันขรมว่าไร้สาระ..แต่ละงานที่ไป..มองไม่เห็นผสสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นตามมาในอดนาคต..เพราะเป็นเรื่องพื้นๆ..ใครไปก็ได้..หรือไม่ไปก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..ไม่มีความจำเป็นใดๆ..เลยที่นายกรัฐมนตรีจะต้องไป
วันแรกมีภาพนายกรัฐมนตรีไทยไปยืนข้างถนนกับเพื่อนหนุ่มที่เป็นเลขานุการส่วนตัว..เหมือนผู้หลบหนีเข้าเมืองคุยอยู่กับคณะลูกทีมที่แต่งตัวดูดีกว่านายกรัฐมนตรีเสียด้วยซ้ำ..จากนั้นก็ไปเดินห้างสรรพสินค้า“Wing Yip”..สาขา Cricklewood..หยิบโน่นหยิบนี่..งุๆ..งิๆ..ตะมุตะมิ..ถ่ายภาพโชว์..แล้วก็จัดฉากนั่งโต๊ะประชุมสร้างภาพ..ก่อนจะไปชมค่ายมวยไทย
ที่ห้าง“Wing Yip”ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ในกรุงลอนดอน,..“แพทองโพย”พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์..นำโดยนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์..รองปลัดกระทรวงพาณิชย์..และนายพรวิช ศิลาอ่อน.. รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ..รวมทั้งผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)..ไปเดินดูสินค้าไทยในหมวดเกษตรและอาหาร..ที่มีการวางจำหน่าย..อาทิ..ข้าวหอมมะลิ..ข้าวแท่ง.. พืชผัก..อย่างสะตอ..พริกไทยอ่อน..รากผักชี..และผลไม้สด..เช่น..เงาะ..มังคุด..มะพร้าว..ทุเรียนหมอนทอง..รวมทั้งอาหารกระป๋อง..เครื่องปรุงรส..อาหารแช่แข็ง..ผลไม้แช่แข็ง..เครื่องดื่ม..ขนมขบเคี้ยว..กว่าพันรายการ..เป็นต้น
ชมเสร็จหยิบโน่นหยิบนี่..ก็เจื้อยแจ้วเป็นนกแก้วนกขุนทองว่า..ผลิตภัณฑ์ต่างๆ..และพืชผักผลไม้ของไทยเหล่านี้..ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวอังกฤษ..สะท้อนถึงศักยภาพของอาหารไทยในการสร้าง“Soft Power”..ซึ่งถือว่า..ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าหลักที่ได้รับความนิยม..และมีการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
“แพททองโพย”ขยายความในเรื่องนี้ว่า..“รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม..Soft Power..ด้านอาหาร..และการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดต่างประเทศ..เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ..และยกระดับภาพลักษณ์ของสินค้าไทยในเวทีโลก..ในโอกาสนี้รัฐบาลได้เชิญผู้บริหาร Wing Yip..เข้าร่วมงาน..Thaifex 2025..ด้วย..ซึ่ง Wing Yip..มีความสนใจในการนำเข้าสินค้าเครื่องดื่ม..และขนมไทยเพิ่มเติม..เพื่อนำมาวางจำหน่ายในห้างฯ ต่อไป”
ทางด้าน“สุทธิชัย หยุ่น”..ได้พูดถึงการเดินสายเวิลด์ทัวร์ของ“แพทองโพย”ครั้งนี้..ในรายกา“Suthichai live”เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมวานนี้ ในหัวข้อ “การเมืองเน่าซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจ!..บ้านเมืองจะไปต่ออย่างไร?” ว่า..ที่อังกฤษนั้น..“แพทองโพย”แค่ไปเดินตรวจว่ามีของไทยขายที่ร้านจีนที่ลอนดอนแค่ไหน..ไปดูค่ายมวย..ไปแจกป้าย“Thai SELECT”..แล้วก็ไปดูสนามแข่งรถ“F1”ที่โมนาโก..ขณะที่ประกาศว่าจะไปเปิดตลาดอียู..แต่ก็ปรากฏว่า“แพทองโพย”ไม่ได้เจอใคร..ทั้งที่อังกฤษและอียูเลยแม้แต่คนเดียว..ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการค้า..หรือที่จะไปสร้างความสัมพันธ์..ในการที่จะลดผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐฯ..เพื่อจะหาตลาดในยุโรป..แต่ไปพูดถึงอาหารไทย..มวยไทย ..และป้าย Thai SELECT
“สุทธชัย หยุ่น”ว่า..“เรื่อง F1 ก็เหมือนกัน..คุณเศรษฐา (ทวีสิน) ตอนเป็นนายกฯก็เจอกลุ่มนี้แหละ..คุณเศรษฐาก็ไปเจอ..และถ่ายรูปตรงนั้น..แล้วบอกจะมาแล้วๆ..F1..แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรเกิดเลย..แล้วคุณแพทองธารเป็นนายกฯก็ทำเหมือนเป๊ะ..และถึงแม้ F1 จะสนใจมา..แต่ยังมีขั้นตอนกระบวนการอีกยาวนาน..ไม่สามารถจะบอกว่า..พอ..F1..มาแข่งแล้ว..เศรษฐกิจเราจะเฟื่องฟู..จะแก้วิกฤตเศรษฐกิจได้..มันต้องมาแก้ตรงหัวใจ..ปัญหาจริงๆ..มันอยู่ตรงที่สภาพัฒน์ก็วิเคราะห์ออกมาแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า..จุดอ่อนมันคืออะไร..ว่าเครื่องยนต์ 3 เครื่องมันดับ..ท่องเที่ยว..ส่งออก..และการผลิต”
สรุปก็คือ..“แพทองโพย”ไปอังกฤษและโมนาโกคราวนี้..ก็คว้าน้ำเหลวเหมือนเดิม..ซึ่งก่อนเดินทาง..“จิรายุ ห่วงทรัพย์”โฆษกรัฐบาลอุตส่าห์ตีปี๊บเคาะกะลาประโคมโหมข่าวให้ดูสำคัญยิ่งใหญ่ว่า..จะเป็นการผลักดันนโยบายเชิงรุก..ทั้งด้านเศรษฐกิจ..การค้า..การส่งออก..การท่องเที่ยว..และ Soft Power..เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในสายตานานาชาติ..โดยเฉพาะในตลาดสหราชอาณาจักรและยุโรป..ที่มีศักยภาพสูง
โฆษกรัฐบาลเพ้อเจ้อเพ้อฝันถึงกับบอกว่า..“นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นดึงดูดและส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในไทย..เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์..อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญ..ในการเปิดทางให้ผู้ประกอบการของไทย..ได้ขยายพื้นที่ทางการค้าบนเวทีโลกอย่างยั่นยืน”
ตอนไปโมนาโก..นอกจากได้สวมเสื้อแจ็กเก็ตหนัง..ไปชมการแข่งขัน“Formula 1” (f 1)..และหารือกับผู้บริหาร F 1 ณ เมืองมอนติคาร์โล..ได้ทักทายถ่ายภาพกับ 'อเล็กซานเดอร์..อัลบอน..อังศุสิงห์' (Alex..Albon ..Ansusinha)..นักขับ F1..ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แล้ว..อีกงานหนึ่งก็แค่เข้าเฝ้าฯเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2..แห่งราชรัฐโมนาโก
ที่โมนาโกนั้น..“แพทองโพย”บอกว่า..“ดิฉันได้ใช้โอกาสนี้ในการแสดงความซาบซึ้งต่อการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของโมนาโก..ที่มีต่อการพัฒนาและส่งเสริมโครงการ..Formula 1..ในประเทศไทย..ความผูกพันอันยาวนานของโมนาโกกับ..Formula 1..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..การแข่งขัน..Monaco..Grand..Prix..ถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับประเทศต่างๆ..ที่กำลังริเริ่มพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของตน..ประสบการณ์และบทบาทความเป็นผู้นำของโมนาโก..ในการผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่..เป็นแบบอย่างที่มีคุณค่าสำหรับประเทศไทย..ในการพัฒนาและส่งเสริมระบบนิเวศของมอเตอร์สปอร์ตอย่างยั่งยืนในอนาคต..ประเทศไทยเชื่อมั่นว่า การจัดการแข่งขัน..Formula 1..ในอนาคตจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทย..ในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกิจกรรมระดับโลก..พร้อมทั้งดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลกค่ะ”
“แพทองโพย”ได้แค่นี้จริงๆ..และที่สำคัญ..ภารกิจจริงๆ..ของ“แพทองโพย”นั้น..คนในสังคมเขาสงสัยว่า..มีภารกิจอะไรแฝงเร้นหรือไม่..ซึ่งนอกจากจะแอบไปพบ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”..ในวันเดียวกับที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา..สั่งให้“ยิ่งลักษณ์”ชดใช้เงิน 1 หมื่นล้านในโครงการรับจำนำข้าว..และอาจจะกลายเป็นเรื่องให้ต้องตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรี..ที่ดอดไปพบ“นักโทษหนีคดี”แล้ว..“แพทองโพย”ซุกใครไปด้วยหรือไม่..เพราะคนผู้นั้น..เวลานี้กลายเป็น“บุคคลสูญหาย”ไปจากสังคมไทย
คงต้องอดใจรอดูว่า..วันที่ 13 มิถุนายนเดือนหน้า..“ทักษิณ ชินวัตร”จะไปปราฏตัว..ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี