วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทหาร ผู้ปกป้องและรักษาชาติ

ดูทั้งหมด

  •  

ประวัติศาสตร์ของชาติไทยเรา ได้ผ่านการต่อสู้กับศัตรูผู้รุกรานอยู่หลายครั้ง และในแต่ละครั้งนั้น นักรบไทยได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ เข้มแข็ง มีวินัยในการรบ จนทำให้ประสบชัยชนะได้เป็นอย่างดี

แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้เป็นนักรบ แต่เป็นชาวบ้านธรรมดา เมื่อถึงเวลาที่ชาติถูกรุกราน ก็จะมีการรวมตัวเพื่อต่อสู้กับข้าศึกศัตรูอย่างห้าวหาญและเข้มแข็ง แม้ ไม่ได้ถูกฝึกให้เป็นทหาร และอาวุธที่ใช้ก็จะเป็นเพียงดาบยาวแบบชาวบ้าน มีดหรือแม้กระทั่งค้อน กระบอง และอื่นๆ แต่ก็เข้าสู้ศัตรูอย่างมิเคยพรั่น


เกียรติประวัติของชาวไทยที่ได้รวมตัวกันต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองที่ถูกบันทึกไว้และเป็นที่รับรู้กันดีคือเรื่องชาวบ้านบางระจัน ที่ได้ร่วมกันต่อสู้ภัยรุกรานจาก อาณาจักรหงสาวดี ที่จะยกมาตีกรุงศรีอยุธยาในปีพุทธศักราช ๒๓๐๘

ทัพของพม่าที่ยกมาจากทางเหนือ นำมาโดยเนเมียวสีหบดีผ่านเข้ามาทางด่านระแหง แขวงเมืองตาก จนเข้าใกล้กรุงศรีอยุธยาได้หยุดพักทัพที่เมืองวิเศษชัยชาญ เข้ากวาดต้อนทรัพย์สินและผู้คน

ชาวเมืองวิเศษชัยชาญต่างพากันโกรธแค้นต่อการกดขี่ข่มเหงของทหารพม่า จึงคบคิดรวมตัวกันเพื่อต่อสู้ มีการรวบรวมชาวบ้านทั้งจากเมืองวิเศษชัยชาญ สิงห์บุรี สรรคบุรี โดยมีนายแท่น นายโชติ นายอินทร์ นายเมือง ได้หลอกลวงทหารของพม่าโดยนำพาทรัพย์สิ่งของที่พม่าต้องการหลบหนีทหารพม่าหลงเชื่อติดตามไปจึงถูกชาวบ้านที่เหล่านี้ฆ่าตายประมาณ ๒๐ คน ก่อนที่จะหนีไปยังบางระจัน

บางระจันเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันอยู่ในอำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจุดที่สร้างประวัติศาสตร์อันลือลั่นในการต่อสู้กับศัตรูผู้รุกราน

ชาวบ้านชาวเมืองเมื่อทราบข่าวดังกล่าวก็ติดตามเข้ามาอยู่ที่บางระจันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ด้วย นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสพึ่งพาพระอาจารย์ธรรมโชติ พระภิกษุซึ่งมีกิตติศัพท์ในเรื่องวิทยาคม เพื่อจะได้ให้ปกป้องคุ้มภัย จนรวบรวมชาวบ้านได้ประมาณ ๔๐๐ คน ตั้งค่ายขึ้น ๒ ค่ายเพื่อป้องกันทหารหงสาวดีที่จะยกมา จัดหากำลังและศัสตราวุธเพิ่มเติมด้วย

ที่นี่เองได้มีคนไทยชั้นหัวหน้าได้ขอเข้ามาร่วมด้วยอีก ๗ คน คือ ขุนสรรค์ พันเรือง นายทองเหม็น นายจันทร์หนวดเขี้ยวนายทองแสงใหญ่ นายดอกไม้ และนายทองแก้ว รวมมีหัวหน้าคนสำคัญของค่ายบางระจัน ๑๑ คนที่จะต่อสู้กับพม่า

พม่าได้ยกพลเข้าตีค่ายบางระจันถึง ๗ ครั้ง

ครั้งที่ ๑ ยกพลมาจำนวน ๑๐๐ คนเศษ เมื่อมาถึงบางระจัน ก็หยุดพักอยู่ที่ฝั่งลำธาร นายแท่นได้จัดคน ๒๐๐ คน ข้ามแม่น้ำไปรบกับพม่าซึ่งไม่ทันรู้ตัว ใช้อาวุธสั้นเข้าไล่ฟันแทงพม่าถึงขั้นตะลุมบอน ทหารพม่าล้มตายหมดเหลือเพียง ๒ คนที่หนีไปได้ และไปแจ้งข่าวให้เนเมียวสีหบดีที่ตั้งค่ายอยู่ ณ ปากน้ำพระประคบทราย

ครั้งที่ ๒ เนเมียวสีหบดี ให้งาจุนหวุ่นคุมคน ๕๐๐ คน มาตีค่ายบางระจัน แต่ก็ถูก นายแท่นและพรรคพวกตีทัพจนแตกพ่าย และถึงแม้จะเกณฑ์ทหารเพิ่มอีก ๗๐๐ คน ให้เยกินหวุ่นมาสมทบก็ถูกตีพ่ายอีก

ครั้งที่ ๓ เนเมียวสีหบดีเห็นว่ากำลังของบางระจันเข้มแข็ง จึงเกณฑ์คนอีก ๕๐๐ คนให้ติงจาโบคุมทัพมา แต่ก็แพ้ต่อชาวบ้านบางระจันอีกครั้ง

ครั้งที่ ๔ เป็นการรบที่ดุเดือดพม่ายกกำลัง ๑,๐๐๐ คน เป็นทหารม้า ๖๐ คน โดยมีสุรินจอข่องเป็นนายทัพ ยกมาตั้งที่บ้านห้วยไผ่ ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดอ่างทอง ฝ่ายค่ายบางระจันได้เตรียมรบโดยนายแท่นคุมกำลัง ๒๐๐ คน พันเรืองคุมกำลัง ๒๐๐ คนเช่นกัน โดยครั้งนี้ใช้ปืนคาบศิลาซึ่งยึดมาจากพม่าในการรบครั้งก่อนๆ เพื่อใช้ในการสู้รบด้วย ทัพไทยยกไปตั้งอยู่คนละฝั่งคลองกับทับพม่ายิงโต้ตอบกัน แต่การที่ไทยชำนาญภูมิประเทศมากกว่า จึงรุกไล่ฆ่าพม่าล้มตายเป็นอันมาก สุรินจอข่องนายทัพพม่าถูกฟันตายในที่รบ ส่วนนายแท่นแม่ทัพไทยก็ถูกปืนที่เข่าบาดเจ็บต้องหามออกจากที่รบเช่นกัน แต่ในที่สุดทัพไทยก็สามารถเอาชนะทัพพม่าโดยกำลังพลพม่าล้มตายไปประมาณ ๓ ใน ๔ ไทยยึดอาวุธได้เป็นอันมาก

ครั้งที่ ๕ พม่าว่างเว้นไม่ยกมาตีค่ายบางระจันประมาณ ๑๐ วัน หลังจากนั้นก็แต่งทัพมาอีก โดยมีแยจออากาเป็นนายทัพ กำลังพล ๑,๐๐๐ เศษ พร้อมด้วยม้าและอาวุธต่างๆ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ปราชัยกับชาวบ้านบางระจัน

ครั้งที่ ๖ พม่ายกมาครั้งนี้มีกำลังเพียง ๑๐๐ คนเศษ และให้จิกแกปลัดเมืองทวายคุมพลมา แต่ก็พ่ายแพ้กับฝ่ายไทยอีกเช่นเคย

ครั้งที่ ๘ ถือเป็นการรบใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยเนเมียวสีหบดีได้แต่งทัพกำลังพล ๑,๔๐๐ ให้อากาปันคยี เป็นแม่ทัพ ฝ่ายบางระจันให้ขุนสรรค์ซึ่งแม่นปืนคุมทหารป้องกันทัพม้าของพม่า และนายจันทร์หนวดเขี้ยวเป็นแม่ทัพใหญ่คุมพล ๑,๐๐๐ เศษออกตีทัพพม่าและล้อมค่ายไว้โดยทำการรบแบบอยู่จู่โจม พม่ายังไม่ทันตั้งค่าย ก็ถูกฆ่าตายเกือบหมดรวมทั้งแม่ทัพด้วย ทำให้พม่าพักรบนานถึงครึ่งเดือน

ครั้งที่ ๘ หลังจากพ่ายแพ้ถึง ๗ ครั้ง แม่ทัพพม่าจึงวางแผนการรบใหม่ประกอบกับได้ตัวชาวมอญผู้หนึ่งที่รู้จักภูมิประเทศดีอาสาเข้าทำการรบ จึงแต่งตั้งให้ผู้นี้ได้รับตำแหน่ง มีชื่อว่าสุกี้พระนายกองยกทัพ ๒,๐๐๐ คน พร้อมทั้งม้าและสรรพาวุธ เข้ารบกับค่ายบางระจัน โดยการตั้งค่ายเรียงราย ๓ ค่าย และสลับหมุนเข้าหาบางระจันทีละค่าย ทัพของบางระจันได้เข้าตีหลายครั้งไม่สำเร็จ เสียไพร่พลไปจำนวนมาก รวมทั้งนายทองเหม็นแม่ทัพฝ่ายไทยที่คงกระพันชาตรี พม่ารุกเข้าใกล้จนสามารถใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายค่ายบางระจันได้ ผู้นำทัพไทยที่เข้าต่อสู้ ทั้งนายแท่น ขุนสรรค์ นายจันทร์ตายในที่รบทั้งหมด เมื่อติดต่อขอปืนใหญ่ไปยังกรุงศรีอยุธยาก็ไม่ได้รับ ในที่สุดพม่าก็ตีค่ายบางระจันแตก รวมเวลาที่ค่ายบางระจันสามารถยันกองทัพพม่าไว้ได้เป็นระยะเวลานานถึง ๕ เดือน

นับว่าเป็นวีรกรรมที่ใหญ่ยิ่งของชนชาติไทย ที่เมื่อถึงเวลาต้องต่อสู้กับศัตรู จะต่อสู้อย่างกล้าหาญเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ ยอมเสียแม้เลือดเนื้อและชีวิต เพื่อรักษาชาติบ้านเมืองเอาไว้ให้ได้

ก็เช่นเดียวกับการเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยและเขมร จนกระทั่งมีการสู้รบที่เรียกได้ว่าเป็นสงคราม ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เป็นต้นมา ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่า มูลเหตุที่แท้จริงเกิดมาจากผลประโยชน์มหาศาลที่ยังขัดแย้งและตกลงกันไม่ได้ของตระกูลโกงชาติ ๒ ตระกูล คือชินและฮุน ที่เป็นและเคยเป็นผู้นำของไทยและเขมร โดยผลประโยชน์นั้นน่าจะเป็นเรื่องของแหล่งทรัพยากรแก๊สธรรมชาติขนาดใหญ่บริเวณเกาะกูดที่โยงกับเรื่องเขตแดน และการจะเปิดศูนย์บันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนในไทยด้วย

ในการสู้รบครั้งนี้ ทหารกล้าของไทยทั้งจากทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ รวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดนและอาสาสมัครทหารพราน ซึ่งทุกคนมีความรักชาติเป็นอย่างยิ่งได้เข้าต่อสู้กับศัตรู
ผู้รุกรานด้วยความกล้าหาญ เข้มแข็ง มีแผนการรบที่ยอดเยี่ยม และสอดประสานแผนระหว่างหน่วยรบต่างๆ ได้อย่างดีที่สุด จนทำให้ไทยได้รับชัยชนะ ยึดพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินของชาติที่เคยถูกเขมรรุกรานกลับคืนมาได้ถึง ๑๑ จุด เป็นวีรกรรมที่ควรได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง

แต่ก็เป็นเรื่องที่ชาวไทยทุกคนเศร้าสลดและเสียใจ จากการที่เราต้องเสียวีรบุรุษผู้กล้าไปถึง ๑๕ ชีวิต และยังมีผู้ที่ต้องพิการรวมทั้งบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนประมาณ ๑๗๐ ราย ไม่รวมชาวบ้านทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่ที่ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการยิงที่บ้าระห่ำของกองทัพเขมร ที่ใช้ปืนใหญ่หลายลำกล้องและลำกล้องเดี่ยว ยิงเข้ามาทำลายชุมชนทั้งโรงพยาบาล ร้านค้า บ้านเรือน ของผู้คน จนเสียหายอย่างมากมาย โดยไม่มีตระกูลโกงชาติตระกูลไหนมารับผิดชอบ

การกระทำของกองทัพเขมรนี้ เป็นสิ่งที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ป่าเถื่อน และ มีความผิดตามอนุสัญญาทั้งออตตาวาและเจนีวา อันเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยจะต้องเข้มแข็ง ในการสื่อสารให้ชาวโลกได้รับทราบ และประณามสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ตลอดจนการร้องเรียน ไปยังองค์กรที่รับผิดชอบในระดับนานาชาติทั้งหลาย

สงครามระหว่างไทยและเขมรครั้งนี้ แบ่งได้เป็น ๓ รูปแบบ คือสงครามด้วยการใช้อาวุธ สงครามการสื่อสาร คือการใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดในการกล่าวหาและทำร้ายทางด้านความคิด และสงครามของเรื่อง geopolitic เพราะมหาอำนาจบางชาติกำลังแสวงหาประโยชน์ในภูมิภาคนี้ จึงอาจจะอยู่เบื้องหลังการศึกสงครามครั้งนี้ก็เป็นได้

สงครามครั้งนี้ยังไม่จบง่ายอย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีการเจรจากันระหว่างสองฝ่าย โดยมีชาติมหาอำนาจขอเป็นผู้สังเกตการณ์ ก็ได้แต่หวังว่าชาติที่เป็นผู้สังเกตการณ์นั้น จะไม่ทำหน้าที่เป็นสทร. จนเกิดผลร้ายต่อฝ่ายไทย โดยฝ่ายทหารจะต้องเป็นหลักของผู้แทนฝ่ายไทยในการเจรจา จะต้องรอบคอบ มีข้อมูลพร้อม วางแผนและเจรจาด้วยสติและปัญญา อย่าได้โอนอ่อนผ่อนตามหรืออ่อนแออย่างที่รัฐบาลนี้เป็นอยู่ เป็นรัฐบาลที่ควรจะออกไปเสียที ขอให้การเจรจานั้นเกิดประโยชน์สูงสุดและรักษาอธิปไตยของชาติที่เรารักไว้ได้ตลอดไป

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:05 น. เฮ้อ!!!ไม่รู้จักเข็ด การเมืองแบบคว้าคนในครอบครัว ทั้งหมดล้วนรับชะตากรรม
08:03 น. 'พุทธิพงษ์'ส่งกำลังใจ'เจ๊ปอง' ยกเป็น'พี่สาวคนเก่ง' เข้มแข็ง ไม่กลัว ไม่หนี
08:00 น. กทม. เร่งทำราคากลาง-จัดซื้อจัดจ้างรถขยะ EV ดันได้ใช้กลางปีหน้า
07:47 น. ​เปิดประวัติ'ดรีม วิสุดา วิเชียรศิลป์' ลูกสาว'ศักดิ์ดา' ชิงเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4
07:43 น. กยศ.ปล่อยกู้3.71หมื่นล้าน ช่วยนักเรียนนักศึกษา584,677 ราย
ดูทั้งหมด
ออกครบแล้ว! ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2568
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
'DSI'เตือน!! อย่าโอน-สแกนซื้อสิ่งนี้ หากไม่อยากเสี่ยงถูกอายัดบัญชี
(คลิป) 'ฮุนเซน' ออกโรงแจงด่วนกลางดึก ยึดทรัพย์ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' ในเขมร
'มล.รจนาธร'โพสต์ขอบคุณ'ลิซ่า ลลิษา' สวมจิวเวลรีแบรนด์ไทยในลุค After party Emmy Awards
ดูทั้งหมด
มุกเดิม‘น.ช.ทักษิณ’ป่วยเรื้อรังซ้ำซาก
ปิดชายด่านจนระบอบฮุนเซน ล่มสลายให้ศิโรราบก่อนเจรจา
‘รัฐสวัสดิการของสังคม’
สัมผัส พึ่งประดิษฐ์ : ทนายความเพื่อประชาชน
การประท้วงเงียบของประชาชน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'พุทธิพงษ์'ส่งกำลังใจ'เจ๊ปอง' ยกเป็น'พี่สาวคนเก่ง' เข้มแข็ง ไม่กลัว ไม่หนี

​เปิดประวัติ'ดรีม วิสุดา วิเชียรศิลป์' ลูกสาว'ศักดิ์ดา' ชิงเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4

คลังผนึกกำลังแบงก์ชาติ เตรียมออกมาตรการแก้ปมบาทแข็ง

อุตฯดิจิทัล กังวล3ปัญหา ฉุดดัชนีอยู่ในระดับ ‘ไม่เชื่อมั่น’

‘กรมอุตุนิยมวิทยา’ประกาศ‘ฉบับ3’ เตือนรับมือพายุโซนร้อน‘มิแทก’ ทำไทยฝนเพิ่ม-ตกหนัก

'พีระพันธุ์'จับไมค์ ร้องเพลง'ศรัทธา' ปลุกสมาชิกพรรค รทสช.เดินหน้าสู้

  • Breaking News
  • เฮ้อ!!!ไม่รู้จักเข็ด การเมืองแบบคว้าคนในครอบครัว ทั้งหมดล้วนรับชะตากรรม เฮ้อ!!!ไม่รู้จักเข็ด การเมืองแบบคว้าคนในครอบครัว ทั้งหมดล้วนรับชะตากรรม
  • \'พุทธิพงษ์\'ส่งกำลังใจ\'เจ๊ปอง\' ยกเป็น\'พี่สาวคนเก่ง\' เข้มแข็ง ไม่กลัว ไม่หนี 'พุทธิพงษ์'ส่งกำลังใจ'เจ๊ปอง' ยกเป็น'พี่สาวคนเก่ง' เข้มแข็ง ไม่กลัว ไม่หนี
  • กทม. เร่งทำราคากลาง-จัดซื้อจัดจ้างรถขยะ EV ดันได้ใช้กลางปีหน้า กทม. เร่งทำราคากลาง-จัดซื้อจัดจ้างรถขยะ EV ดันได้ใช้กลางปีหน้า
  • ​เปิดประวัติ\'ดรีม วิสุดา วิเชียรศิลป์\' ลูกสาว\'ศักดิ์ดา\' ชิงเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4 ​เปิดประวัติ'ดรีม วิสุดา วิเชียรศิลป์' ลูกสาว'ศักดิ์ดา' ชิงเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4
  • กยศ.ปล่อยกู้3.71หมื่นล้าน ช่วยนักเรียนนักศึกษา584,677 ราย กยศ.ปล่อยกู้3.71หมื่นล้าน ช่วยนักเรียนนักศึกษา584,677 ราย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

15 ก.ย. 2568

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

8 ก.ย. 2568

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

1 ก.ย. 2568

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

18 ส.ค. 2568

พันท้ายนรสิงห์ กับนักการเมืองในปัจจุบัน

พันท้ายนรสิงห์ กับนักการเมืองในปัจจุบัน

11 ส.ค. 2568

ทหาร ผู้ปกป้องและรักษาชาติ

ทหาร ผู้ปกป้องและรักษาชาติ

4 ส.ค. 2568

หรือไทยจะต้องพิชิตศึกละแวกอีกครั้ง

หรือไทยจะต้องพิชิตศึกละแวกอีกครั้ง

28 ก.ค. 2568

คนไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกรานดินแดน

คนไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกรานดินแดน

21 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved