บัดนี้คนไทยผู้มีสติปัญญาต้องทราบตรงกันแล้วว่า การที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีโง่เขลาเบาปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้ความละอาย และไร้คุณธรรมไร้จริยธรรม ไร้ความซื่อสัตย์ มันคือต้นเหตุสำคัญของความเสื่อมโทรม เสื่อมทราม และเสื่อมทรุดของประเทศไทย แล้วมันยังส่งผลเสียให้เศรษฐกิจของชาติไทยตกต่ำจนเรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤต
การที่คนไทยหลับหูหลับตาปล่อยให้คนคนหนึ่งบังอาจเข้าไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ทั้งๆ ที่คนคนนั้นไร้สิ้นภูมิปัญญา ปราศจากความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน มันคือการจงใจปล่อยให้คนโง่เขลา ไร้สติเข้าไปทำลายล้าง ล้างผลาญ ทำลายประเทศชาติ
ความเสียหายร้ายแรงถึงขั้นวิกฤตในแง่มุมต่างๆ ที่บังเกิดกับประเทศไทย เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศต้องร่วมกับรับผิดชอบ เพราะแม้บางคนจะอ้างว่าไม่ได้ลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยก็ตาม แล้วที่สำคัญคือพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลทุกพรรคต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับประเทศไทยด้วย เพราะถือได้ว่าพรรคการเมืองที่ร่วมเป็นรัฐบาลผสมต่างก็มีส่วนร่วมทำให้ประเทศไทยบังเกิดความเสียหายขั้นวิกฤต
ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านก็ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ในฐานะที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ไม่สามารถคัดค้านรัฐบาลป้องกันมิให้รัฐบาลสร้างความวิบัติบรรลัยให้กับประเทศชาติ
กล่าวโดยสรุปคือความเสียหายที่บังเกิดกับประเทศ แม้จะมาจากการกระทำของรัฐบาล แต่ก็ต้องย้ำยืนยันว่า คนทุกคนบนแผ่นดินไทยต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อความเสียหายที่บังเกิดกับแผ่นดินนี้ เพราะการที่เราทุกคนปล่อยให้รัฐบาลสามานย์สร้างความวินาศฉิบหายให้กับประเทศ ก็คือการปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลล้างผลาญชาติ หากคนไทยไม่ยินยอมให้รัฐบาลล้างผลาญทำลายชาติ ก็ต้องร่วมกันขับไล่รัฐบาลออกไป ไม่ปล่อยให้มันทำลายล้างประเทศชาติของเรา
หากจะกล่าวถึงปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่งที่กำลังบังเกิดกับไทยในขณะนี้คือ การทำสงครามโจมตีและรุกรานไทยโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถือว่าทั้งทหารและพลเรือนกัมพูชา ภายใต้คำบงการของฮุนเซนได้จงใจก่อการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยได้พบเห็นแล้วว่าทหารกัมพูชาจงใจใช้อาวุธสงครามโจมตีทำลายโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนประชาชน ตลาดรวมถึงวัดและเขตชุมชนของไทย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ใกล้เคียงกับชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขตอีสานตอนใต้ รวมถึงเขตภาคตะวันออกของไทย
นอกจากทหารกัมพูชาจงใจทำสงครามโจมตีไทยแล้วยังพบว่าประชาชนของกัมพูชาบางส่วนยังถูกใช้เป็นเครื่องมือก่อความไม่สงบตามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดังพบว่ากัมพูชาบงการให้ประชาชน รวมถึงทหารกัมพูชาที่ปลอมตัวเป็นประชาชนจงใจก่อเหตุไม่สงบด้วยกลอุบายต่างๆ เช่น การตัดรั้วลวดหนามที่ไทยวางเป็นเครื่องกีดขวางตามแนวชายแดน การส่งคนเข้าไปในรูปนักท่องเที่ยวแล้วก่อเหตุวุ่นวายในปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย และบริเวณสามเหลี่ยมมรกต รวมถึงการสั่งให้คนกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในศูนย์รับผู้อพยพที่เขตแดนไทยบ้านหนองจานโคกสูง สระแก้ว สร้างเรื่องโกหกโลกว่าบ้านหนองจานเป็นของกัมพูชา แล้วกล่าวหาว่าไทยรุกล้ำละเมิดเขตแดนกัมพูชา เป็นต้น
แน่นอนว่าปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาหลายประเด็นเกิดมาก่อนแพทองธาร ชินวัตร รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อ 18 สิงหาคม 2567 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่กัมพูชากล้าจงใจรุกรานและละเมิดอธิปไตยของไทย ด้วยการใช้อาวุธสงครามสารพัดชนิดโจมตีไทยก่อน โดยเรื่องได้เกิดขึ้นในปัจจุบันในยุคแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ต้องยอมรับว่าพ่อของแพทองธาร คือ ทักษิณ ชินวัตร คืออดีตที่ปรึกษาการเมืองของฮุนเซน และทั้งทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยเข้าไปซุกซ่อนตัวหลบหนีคดีอาญาของไทย โดยเข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ในกัมพูชาเพราะได้รับการช่วยเหลือจากฮุนเซน
ย้ำว่าสงครามที่กัมพูชาจงใจก่อขึ้นเพื่อรุกรานไทยครั้งนี้ เกิดในยุคแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี และกล่าวได้ว่าชนวนสงครามครั้งนี้มาจากความขัดแย้งกันในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวระหว่างทักษิณ ชินวัตร กับฮุนเซน การที่ทักษิณกลับมามีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชบนแผ่นดินไทยได้ในขณะนี้เพราะทักษิณคือเจ้าของพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยคือแกนนำรัฐบาลผสมโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นลูกสาวของทักษิณ ดังนั้นความวุ่นวายทั้งปวงจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร อีกต่อไป เพราะเมื่อหมดแพทองธาร ก็หมายถึงทักษิณหมดอิทธิพลไปโดยปริยาย ทักษิณจึงไม่มีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชเหนือการเมืองเมืองไทยอย่างเข้มข้นอีกต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี