รัฐบาลในห้วงเวลานี้ไม่เพียงแต่ “ล้มเหลว” หากแต่ได้กลายเป็น “ต้นเหตุแห่งวิกฤต”
ที่กัดกร่อนทุกเสาหลักของชาติ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความบกพร่องเล็กน้อย หากแต่เป็นการล้มครืนทั้งระบบ จนประชาชนไม่อาจ
หลีกเลี่ยงความจริงได้อีกต่อไปว่า-นี่คือรัฐบาล
ที่สอบตกครบทุกด้าน
รัฐบาลทุกชุดย่อมถูกทดสอบด้วยวิกฤต แต่รัฐบาลชุดนี้กลับเป็นฝ่ายก่อให้เกิดวิกฤตด้วยตัวเอง นายกรัฐมนตรีซึ่งควรเป็น “เสาหลักแห่งความมั่นคง” กลับกลายเป็น “ตัวแปรของความแตกแยก” ภาวะผู้นำที่ขาดวุฒิภาวะทางการเมืองและการตัดสินใจที่มุ่งเอาตัวรอดมากกว่าคิดถึงประเทศชาติ ได้กลายเป็นเชื้อเพลิงให้ความ
ขัดแย้งปะทุรุนแรง จนพาประเทศเข้าสู่ภาวะสงครามกับกัมพูชา
การที่นายกรัฐมนตรีถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นจริยธรรม มิใช่เพียงข้อกฎหมาย แต่คือการตอกย้ำว่า “ผู้ถืออำนาจสูงสุดของประเทศ”
ได้สูญสิ้นความน่าเชื่อถือไปแล้วโดยสิ้นเชิง และเมื่อความน่าเชื่อถือถูกทำลาย ความมั่นคงของชาติ
ย่อมสั่นคลอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในยามที่สงครามปะทุ สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุดคือผู้นำที่แข็งแกร่ง กล้าหาญ และมีวิสัยทัศน์ แต่สิ่งที่ประชาชนเห็นกลับตรงกันข้าม ภาพของ “นายกรัฐมนตรีในฐานะรักษาการ”แสดงให้เห็นถึงความไร้ศักยภาพ ขาดความเด็ดขาด ไม่สามารถแสดงภาวะผู้นำแม้เพียงเล็กน้อยได้เลย
ในสายตานานาชาติ ไทยถูกมองว่าเป็นรัฐที่อ่อนแอ ปราศจากบารมี และปราศจากทิศทาง เกียรติภูมิของชาติถูกลดทอนจนแทบไม่เหลือความหมาย ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้นำรัฐบาลไม่เพียงแต่ไร้ความสามารถ หากแต่ยังกลายเป็นภาระของประเทศในยามที่ต้องการพลังมากที่สุด
ความล้มเหลวของรัฐบาลมิได้ปรากฏเพียงในสนามรบ แต่ยังสะท้อนชัดเจนในความรู้สึกของประชาชน นิด้าโพล ได้เปิดเผยผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้มีระดับความไว้วางใจ
ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนี่ไม่ใช่เพียงคะแนนนิยมที่ลดลง แต่คือ “การสูญเสียความชอบธรรม” อย่างสิ้นเชิง
ในขณะที่สงครามและการเมืองกำลังสั่นคลอน ประเทศยังต้องเผชิญวิกฤตปากท้อง เศรษฐกิจไทยในวันนี้เหมือนเรือที่ไร้หางเสือ ประชาชนเผชิญความทุกข์ยากมากขึ้นทุกวัน ราคาสินค้าพุ่งสูง ค่าแรงไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นจนแตะระดับน่าหวั่นวิตก
ธุรกิจขนาดเล็กทยอยปิดตัว เกษตรกรไม่สามารถแบกรับต้นทุนได้อีกต่อไป ขณะที่นโยบายรัฐบาลกลับไร้ทิศทาง ไม่อาจแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างใดๆ ได้เลย ประชาชนถูกปล่อยให้อยู่ตามยถากรรม ราวกับรัฐบาลไม่เคยมีหน้าที่ดูแลผู้คนที่เลือกพวกเขามา
หากรัฐบาลสอบตกเพียงด้านใดด้านหนึ่ง อาจยังพออ้างเหตุผลเพื่อแก้ตัวได้ แต่เมื่อสอบตกทุกด้าน ตั้งแต่ความมั่นคง การต่างประเทศ การเมืองในประเทศ ไปจนถึงเศรษฐกิจ ย่อมไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ที่พอจะรับฟังได้อีกต่อไป ทุกวันเวลาที่รัฐบาลยังคงยื้ออยู่บนอำนาจ คือทุกวันที่ประเทศถอยหลังลงเหว
รัฐบาลที่ล้มเหลว ไม่อาจนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตได้ และประชาชนไม่ควรถูกบังคับให้แบกรับผลลัพธ์จากความล้มเหลวของผู้นำที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้อีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องยอมรับความจริง-ความจริงที่ว่าประเทศนี้จะไปต่อไม่ได้ หากยังคงมีผู้นำที่สอบตกครบทุกด้านเป็นผู้กำหนดชะตากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี