วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันเวลาผ่านไปอะไรที่เคยเป็นความลับนั้น ไม่ว่าช้าหรือเร็ว สุดท้ายก็ต้องถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งปัญหา“ไทย-กัมพูชา”ที่ 2 พ่อลูกตระกูลฮุน คือ“ฮุนเซน-ฮุน มาเนต”เป็นผู้ก่อสงครามรุกรานไทย ตั้งแต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดย“แพทองธาร ชินวัตร” กระทั่งยืดเยื้อมาถึงรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หลายสิ่งหลายอย่างก็เริ่มถูกเปิดเผยออกมา จากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และยังมีชีวิตอยู่
เรื่องปราสาทตาควาย ที่ตั้งอยู่บนสันเขาของเทือกเขาพนมดงรัก ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ในความรู้สึกของคนไทยต่างเห็นว่า เราต้องสูญเสียให้แก่กัมพูชาจาก“สงคราม 5 วัน”ที่กัมพูชาเป็นผู้ก่อนั้น ถ้ารัฐบาลของพรรคเพื่อไทยซึ่งมี นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีเวลานั้น ไม่ด่วนตัดสินใจยอมลงนามหยุดยิงกับ“ฮุน มาเนต”นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เชื่อว่าเราก็คงจะไม่เสียปราสาทแห่งนี้ซึ่งเป็นโบราณสถานของไทย ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอุดรมีชัย ของประเทศกัมพูชา
สำหรับประเทศไทย เรายืนยันว่าปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ดินแดนไทย และเป็นของไทย เช่นเดียวกับกลุ่มปราสาทตาเมือนอีก 3 หลัง คือ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือน ที่ตั้งอยู่ช่องเขาตาเมือนหรือตาเมียง ในพื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาควายประมาณ 12 กิโลเมตร โดยที่กลุ่มปราสาทตาเมือนแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยในปี 2478 ก่อนที่ประเทศกัมพูชาจะได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์จากฝรั่งเศสในปี 2496
ดังนั้น สงคราม 5 วันที่กัมพูชาเป็นผู้ก่อ โดยมีเจตนารุกล้ำเขตแดนและอำนาจอธิปไตยของไทยระหว่างวันที่ 24-28กรกฎาคม 2568 ในช่วงที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศ และก็ไปเจรจาหยุดยิงแบบปัจจุบันทันด่วน ทำให้ไทยต้องเสียปราสาทตาควายไปด้วยการขีดเส้นตายให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และทำให้ทหารไทยต้องเสียชีวิตและขาขาดจากการเหยียบทุ่นระเบิดเพื่อจะยึดปราสาทคืนจากกัมพูชาให้ได้ภายในเวลาที่ถูกขีดเส้นตายไว้
ด้วยเหตุนี้ปราสาทตาควายจึงเป็น รอยจารึกแห่งความเจ็บช้ำของคนไทยจากสงครามที่กัมพูชาเป็นผู้ก่อในครั้งนี้ ที่คนไทยเกิดความคลางแคลงใจและมีข้อกังขามาตลอดว่ารัฐบาลไทยโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีเวลานั้น ไปเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขได้อย่างไร ในขณะที่ไทยยังยึดปราสาทตาควายคืนจากกัมพูชาไม่ได้ และในปัจจุบัน ปราสาทตาควายแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ทหารฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานทางทหารเท่านั้น ยังมีการวางทุ่นระเบิดไว้รอบบริเวณเพื่อชิงความได้เปรียบทางยุทธภูมิ
และที่น่าเจ็บใจที่สุด ไม่เพียงแต่รัฐบาลไทยเวลานั้นที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และมี“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นผู้ชักใยและครอบงำรัฐบาล จะรีบไปเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขกับกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซียเท่านั้น ยังมี“ผู้ใหญ่”ที่เป็น“ไอ้โม่ง”สั่งให้ทหารไทยคือกองทัพภาคที่ 2 ปฏิบัติการรบอยู่ในพื้นที่หยุดยิงอีกด้วย
ประเด็นเรื่อง“ไอ้โม่ง”สั่งหยุดยิงนี้ พล.ท.บุญสิน อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งปัจจุบ้นเป็นที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ได้เปิดเผยจากการสัมภาษณ์ของ“อัญชะลี ไพรีรัก” เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ที่ชุมชนปฐมอโศก จังหวัดนครปฐม ในงาน“มหาปวารณาครั้งที่ 43” ซึ่งชาว“บุญนิยม”ของสันติอโศก มอบรางวัล“เชิดชูเกียรตินักสู้ผู้กล้า”เป็น“หยาดน้ำใจทองคำ”ให้แก่บุคคลทั้งสอง ในฐานะเป็นผู้กล้าเสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ โดยช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ พล.ท.บุญสินได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการสั่งหยุดยิงในวันแรกที่กัมพูชาเปิดสงครามรุกรานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ว่ามีคำสั่งให้หยุดยิงตั้งแต่ 6 ชั่วโมงแรก
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาค 2 ซึ่ง“แพทองธารชินวัตร”กล่าวกับ“ฮุนเซน”อริราชศัตรูของไทย ตามที่ปรากฏใน“คลิปอัปยศ”จนทำให้“แพทองธาร”ต้องถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าเป็น“ฝ่ายตรงข้าม”รัฐบาลไทยและกัมพูชา ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในวันแรกที่กัมพูชาเปิดศึกรุกรานไทยว่า
“6 ชั่วโมงแรกให้หยุดเลยครับ ตั้งแต่เริ่มปะทะกันปุ๊บ ให้หยุดเลย 6 ทุ่ม วันแรกที่ปะทะกัน เขาบอก ขอร้องให้หยุดเลย แต่ผมขอไม่หยุดครับ เพราะผมสตาร์ทแล้ว ผมขอร้องผู้บังคับบัญชาว่าไม่หยุดครับ ผมขอต่อรองไปหลายวัน บวกลบคูณหารบอกว่าเท่านี้ได้มั้ย ได้มั้ย ไม่ได้ครับ ผมไปต่อก่อน เพราะผมเข้าเกียร์ 1 แล้ว”
“อัญชะลี ไพรีรัก”ที่ได้รับรางวัล“เชิดชูเกียรตินักสู้ผู้กล้า” ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้าและแนวหน้าออนไลน์ ถาม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง หรือ“แม่ทัพกุ้ง”ต่อว่า “พอไม่หยุด คนที่สั่งไม่ว่าหรือ?” พล.ท.บุญสินตอบว่า “เขาไปตั้งหลักใหม่ครับ ก็แค่นั้นแหละครับ ถ้าหยุด ผมต้องออกมาพูดว่าใครสั่งให้หยุด แล้วเขาจะอยู่ไม่ได้ครับ เพราะว่าผมจะเอาแผ่นดินคืน แล้วคุณไม่หยุดนี่ นั่นคือโทษประหารคุณเลยทีเดียวนะครับ”
“อัญชะลี ไพรีรัก”ถามต่อว่า “ได้ถามเหตุผลที่สั่งให้หยุดหรือไม่” พล.ท.บุญสิน พาดกลางตอบว่า “ผมคิดว่าผิดแผนเขมรครับ ผมว่าเขมรเขาเคยทำแบบนี้แล้วเข้าทางเขาไงครับ เขาจะเอาเรื่องนี้ขึ้นศาลโลก ขึ้นศาลโลกเสร็จ ประเทศไทยบุกเขาใช่มั้ย ตายไป 3 คนแล้วนี่ งั้นเขาขอประท้วงเอาแผ่นดินคืน 3 ปราสาทกับ 1 พื้นที่ นี่สูตรของเขา แม่ทัพกุ้งก็เสือกไปรู้อีก รู้แผนเขาอีก ก็เลยไหนๆ 3 พื้นที่นี้กูก็ไม่ให้ กูเอาคืนอีกเพิ่มเติมแล้วกัน”
ส่วนเรื่องปราสาทตาควายที่ถูกกัมพูชายึดนั้น “แม่ทัพกุ้ง”บอกว่า “วันนั้นที่เราหยุดก่อน เนื่องจากจะมีการประชุมยูเอ็น ประชุมสหประชาชาติ เรากลัวที่เขาจะเอาเรื่องเหล่านี้ เหมือนเราไปรังแกประเทศเล็ก เพราะว่าตรงนี้อยู่เส้นเขตแดนพอดี ผู้ใหญ่เกรงว่าเขาจะเอาเรื่องนี้ขึ้นไปสู่ที่ประชุมยูเอ็น แล้วนานาประเทศก็จะรุมตำหนิเราไปรังแกเขาทำไม ว่าเรารังแกประเทศเล็ก ไหนว่าหยุดยิงแล้ว ก็เลยยังไม่ได้ยึดคืน ที่นี่แหละ 2 วัน แม่ทัพกุ้งก็ยังอยู่ในพื้นที่ เพราะรอ รอไฟเขียว พอนั่นเสร็จ บอกมึงกลับได้แล้ว ไปส่งธงเถอะ ก็เอา ไม่เป็นไร”
“อัญชะลี ไพรีรัก”ถามต่อ “พอหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่ นโยบายเปลี่ยนหรือไม่” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ตอบว่า “อันนี้ผมไม่ทราบ คือจริงๆ แล้ว ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์) ท่านก็ออกมาพูดแล้วว่า ปราสาทตาควายเป็นของไทยแน่นอน และท่านจะต้องทวงคืนให้ได้ เวลาไหนนั้น รอเวลาให้มันเหมาะสมนิดหนึ่ง สภาพแวดล้อมที่เอื้อนิดหนึ่ง..อันนี้รัฐบาลรู้แล้ว กองทัพรู้แล้ว และก็เป็นหนึ่งในแผนที่เราจะทวงปราสาทตาควายคืน หนึ่ง สอง สาม”
สรุปก็คือ คนไทยก็ต้องอดใจรอ“วัน ว. เวลา น.” ที่จะยึดปราสาทตาควายของไทยกลับคืนจากเขมร ส่วน“ไอ้โม่ง” หรือ “ผู้ใหญ่”ที่สั่งให้ทหารไทยหยุดยิงตั้งแต่ 6 ชั่วโมงแรก ในวันที่“2 พ่อลูกตระกูลฮุน”ก่อสงครามรุกรรานไทยนั้น ถ้าจะให้เดาก็มีอยู่ 2 คน คือ“ภูมิธรรม เวชยชัย” กับนายใหญ่ที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล

น้ำในหลุมศักดิ์สิทธิ์ โซเชียลฮือฮา!ชาวบ้านกราบขอโชค‘กระโปกพระร่วง’
'สิริพงศ์'ฟาด'จอม-ทวี'ทำการบ้านน้อย กล่าวหา MotoGP เอื้อธุรกิจใคร
'สมชาย'ชวนจับตา! ปฏิบัติการจับ'ไทยเทา'เร็วๆนี้
สุดโรแมนติก! 'ใหม่-เต๋อ'จูงมือเข้าพิธีวิวาห์หวานราวเทพนิยาย
ผบช.ภ.4 สั่งทุกโรงพักเอกซเรย์เร่งปราบยาเสพติด-อาชญากรรมทุกรูปแบบ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี