วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
รูปการณ์การเมืองไทยในขณะนี้คงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงจะเป็นไปตามคำมั่นสัญญาของฝ่ายการเมืองที่ว่าจะจัดให้มีการยุบสภาในวันที่ 31 มกราคม 2569 ซึ่งจะนำไปสู่ช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียงประมาณ45 วัน และเกิดการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงเดือนมีนาคม 2569
การนี้ก็หมายความว่า แต่ละพรรคการเมืองก็ต้องดำเนินการ เตรียมการ ใน 3 เรื่องด้วยกันเป็นสำคัญคือ
1.การจัดหาผู้สมัครทั้งในระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขตเลือกตั้ง
2.การจัดหาผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพรรคละ3 ชื่อ
3.การเสนอนโยบายและแผนการพัฒนาเพื่อนำพาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งบางพรรคการเมืองก็ได้เริ่มทยอยเปิดเผยรายชื่อผู้สมัครและแนวนโยบายกันบ้างแล้ว และก็คงจะทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยจะส่งผลให้สนามการเมืองของไทยเรามีความคึกคัก และมีสีสันมากขึ้นกันอย่างแน่นอน
ในภาพกว้างอาจจะกล่าวได้ว่า ทุกพรรคการเมืองต่างมี “การบ้าน” ที่จะต้องทำการเพื่อส่งมอบให้กับประชาชนพลเมืองในโอกาสแรก
แต่การบ้านนั้นก็จะมีกันได้ 2 ทิศทางคือ บรรดาพรรคการเมืองมอบการบ้านให้กับตัวเอง หรือประชาชนพลเมืองมอบการบ้านให้กับพรรคการเมือง
ในกรณีหลังผู้เขียนในฐานะพลเมืองคนหนึ่งก็ขอถือโอกาสเสนอข้อคิดเห็นดังนี้ว่า แต่ละพรรคการเมืองคิดอ่านและมีจุดยืนกันอย่างไร
1.จะนำพาประเทศไทยออกจากสภาวะของการจมปลักของประเทศรายได้ระดับปานกลาง(The Middle Income Trap) กันอย่างไร?
2.จะลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ ในสังคมไทยอย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นความไม่ทั่วถึงของการบริการด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค การที่ประเทศไทยมีระบบการรักษาพยาบาลถึง 3 ระบบ บ่งบอกถึงความไม่ทัดเทียมหรือการเลือกปฏิบัติ การเล่าเรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี แทนที่จะต้องมีการกู้ยืมเงินเพื่อการเล่าเรียน การมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตั้งแต่เริ่มทำงาน เป็นต้น
3.จะตัดสินใจให้มีการกระจายอำนาจและลดความเหลื่อมล้ำระหว่างชาวกรุงเทพฯ ที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้ ขณะที่ชนชาวจังหวัดที่เหลือทั้งหมดไม่มีสิทธิ์แต่อย่างไร?
4.จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของระบบราชการ เพื่อให้มีความทันสมัย มีความคล่องตัว และลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันอย่างไร? อาทิ การจัดตั้งกระทรวงกิจการชายแดน(ที่จะประกอบด้วยงานศุลกากร งานตรวจคนเข้าเมือง งานตำรวจตระเวนชายแดน) กระทรวงกิจการความมั่นคงภายใน (ซึ่งจะประกอบด้วยฝ่ายตำรวจ ฝ่ายข่าวกรอง ฝ่ายทะเบียนราษฎร์ ฝ่ายรักษาดินแดนหรือป้องกันความสงบภายใน) กระทรวงโยธาธิการ (ที่จะประกอบด้วยงานก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐทั้งหมด) สำนักงานจัดซื้อจัดจ้างส่วนกลางโดยแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ไปจนถึงฝ่ายปกครองท้องถิ่นไม่ต้องจัดซื้อจัดจ้างเอง สำนักงานบริหารจัดการน้ำ (แบบประเทศเนเธอร์แลนด์) เป็นต้น
5.การจัดการเรื่องพลเมืองศึกษา เพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วม (Civic and Political Education)
6.การเสริมสร้างจริยธรรมในทุกวงการ ด้วยการฝึกอบรมเป็นระยะๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ ให้ละเว้นจากการเอาเปรียบและลักขโมยของส่วนรวม
7.การปฏิรูประบบพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคการเมืองเป็นของสมาชิกอย่างแท้จริง มิใช่ธุรกิจของครอบครัว หรือองค์กรในอาณัติของผู้ทรงอิทธิพล เป็นต้น
การบ้านดังกล่าวนี้ ทั้งหมดมิใช่เรื่องสลับซับซ้อน หากแต่ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของบรรดาผู้นำพรรคที่ต่างอาสาเข้ามารับใช้บ้านเมืองซึ่งก็จะต้องรับใช้บ้านเมืองเป็นหลักเท่านั้น
จะเป็นอื่นมิได้
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

'เลขาอาชีวะ'นำทัพ'Fix It-จิตอาสา' ฟื้นฟู'อยุธยา'หลังน้ำลด
'พ.อ.กิตติพงษ์'เดือด! ซัดพวกวิจารณ์กองทัพ ไม่เคยเหยียบสนามจริง อย่าริเป็นกูรู
'ในหลวง' ทรงรับ 'พลทหาร เทิดศักดิ์' ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมพระราชทานน้ำหลวง-เพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
'เงือกเนย'ลุ้นสุดใจ!คว้าทองผีเสื้อ200ม.ซีเกมส์
ประวัติศาสตร์!ขี่ม้าโปโลไทยคว้าทองแรกซีเกมส์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี