วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมเมื่อวานนี้ เราต้องสูญเสียทหารกล้าแห่งกองทัพไทยไปอีก 1 นาย พร้อมๆ กับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อนำไปสู่การเจรจาหยุดยิงระหว่าง “ไทย-กัมพูชา” จากสงครามที่กัมพูชาเป็นผู้ก่อตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา
ทหารกล้าที่เสียชีวิตเป็นนายที่ 22 ก็คือ ส.อ.กัมปนาท ทองแสง ทหารเสือพระราชินี สังกัดกองกองพันทหารราบที่ 1กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ณ สมรภูมิตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ส่วนผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่มีนายโมฮามัด ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย เป็นประธาน และฝ่ายเรามีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมประชุม ผลสรุปของการประชุมที่ต่อเนื่องจากนี้ ก็คือ การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป “ไทย-กัมพูชา” หรือ “GBC” ในวันที่ 24 ธันวาคมพรุ่งนี้ ที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อเจรจาเรื่องการหยุดยิง โดยที่ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็แค่การซื้อเวลา เพราะหากกัมพูชามาไม่ปฏิบัติตาม ผลในทางปฏิบัติใดๆ ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริง และที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กัมพูชาไม่เคยมี “สัจจะ”
ความจริงที่กัมพูชาทำกับเราจากการก่อสงครามรุกรานไทยเป็นรอบที่สองในครั้งนี้นั้น ควรต้องถามวิญญาณทหารกล้าของไทยทั้ง 22 นาย ที่ได้ลสะชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทย และอีก 8 นายที่ต้องเสียขาว่าจะยอมกัมพูชากันแบบง่ายดายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรืออย่างไร ซึ่ง 22 ทหารกล้าที่สละชีพไปแล้วกลางสมรภูมิรบ ระหว่างวันที่ 8-22 ธันวาคม 2568 นั่นก็คือ
1.จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต สังกัดกองร้อยทหารม้าลาดตระเวนที่ 6 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ พลีชีพจากการถูกสะเก็ดระเบิด ขณะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ฐานป้องไพร ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ 8 ธันวาคม
2.พลทหารวายุ ขวัญเสือ สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ พลีชีพจากการถูกสะเก็ดระเบิดอาวุธวิถีโค้ง พื้นที่ฐานปฏิบัติการ 225 จังหวัดสุรินทร์, วันที่ 9 ธันวาคม
3.ส.อ.ชวกร เดชขุนทด สังกัดกองพันทหารม้าที่ 11กองร้อยทหารม้าลาดตระเวนที่ 6 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์พลีชีพจากการถูกสะเก็ดระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิด พื้นที่
พระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ, วันที่ 9 ธันวาคม
4.จ.ส.ท.จิระวัฒน์ มุ่งกลาง สังกัดกองพันทหารช่างที่ 1กรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ พลีชีพจากการถูกทหารกัมพูชายิงปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังหรือ (ปรส.) จากเนิน 677 ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ 9 ธันวาคม
5.พลทหารเทิดศักดิ์ ศรีลาชัย สังกัดกองพันทหารราบที่ 3กรมทหารราบที่ 23 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ พลีชีพ ณ สมรภูมิปราสาทคนา จังหวัดสุรินทร์, วันที่ 9 ธันวาคม
6.จ.ส.อ.อนันดา อุดร นักรบภูมะเขือ สังกัดกองพันสิงห์ศึก กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 กองพลทหารราบที่ 6 ค่ายบดินทรเดชา จังหวัดยโสธร พลีชีพจากการถูกยิงด้วยปืนใหญ่ ที่สมรภูมิภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ, วันที่ 10 ธันวาคม
7.พลทหารธนรัตน์ จันทร์ประทัด สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 112 กองพลทหารราบที่ 11 ตำแหน่งพลปืนเล็ก พลีชีพกลางสมรภูมิ“บึงตะกวน-บ้านคลองแผง” อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว, วันที่ 10 ธันวาคม
8.พลทหารชาญชัย ผดุงโชค สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 112 กองพลทหารราบที่ 11 ตำแหน่งพลยิงปืนกล พลีชีพกลางสมรภูมิบึงตะกวน-บ้านคลองแผง อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว, วันที่ 10 ธันวาคม
9.พลทหารธนกร สิงหาชาติ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 ตำแหน่งพลยิงลูกระเบิด 40 มม.(M203) พลีชีพกลางสมรภูมิปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากการถูกสะเก็ดกระสุน ปืน ค.ของฝ่ายกัมพูชา, วันที่ 10 ธันวาคม
10.จ.ส.อ.วุธจักร โททอง สังกัดกองพันทหารม้าที่ 25กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เสียชีวิตจากเหตุปะทะในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว, วันที่ 12 ธันวาคม
11.ส.อ.พชร แย้มแตงอ่อน ตำแหน่งพนักงานวิทยุสนาม สังกัดกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 พลีชีพจากการสู้รบ“เนิน 677” ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ 12 ธันวาคม
12.จ.ส.อ.ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง สังกัดกองพันจู่โจม จังหวัดลพบุรี พลีชีพจากการสู้รบ “เนิน 677” ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ 13 ธันวาคม
13.จ.ส.อ.ทวีรัตน์ รัตนบุรี สังกัดกองพันจู่โจมกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 พลีชีพจากการสู้รบ“เนิน 677” ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ 13 ธันวาคม
14.พลทหารกฤตฏิกร สร้อยระย้า สังกัดกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 9 กองพลทหารรราบที่ 9 พลีชีพจากการสู้รบ “เนิน 677” ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ 13 ธันวาคม
15.พลอาสามุสตากีม มาเจ๊ะมะ พลีชีพจากการสู้รบ “เนิน 677” ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ 13 ธันวาคม
16.จ.ส.อ.อภิสิทธิ์ บุนนาค ตำแหน่งนายสิบพยาบาล สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 พลีชีพกลางสมรภูมิภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จากการถูกสะเก็ดระเบิดจรวด“BM-21”, วันที่ 14 ธันวาคม
17.จ.ส.อ.กฤษดา หาญสุโพธิ์ สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม เสียชีวิตจากการปะทะที่ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์, วันที่ 15 ธันวาคม
18.จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 พลีชีพในสมรภูมิเนิน 350 พื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์, วันที่ 16 ธันวาคม
19.พลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 พลีชีพในสมรภูมิเนิน 350 พื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์, วันที่ 16 ธันวาคม
20.จ.ส.อ.พรศักดิ์ เอี่ยมสะอาด สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ พลีชีพ ณ สมรภูมิพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว, 17 ธันวาคม
21.พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 พลีชีพเสียในสมรภูมิซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ, วันที่ 17 ธันวาคม 2568
และ 22.รายล่าสุด ก็คือ ส.อ.กัมปนาท ทองแสง ที่เพิ่งจะสละชีพไป
บรรทัดนี้ ขอเชิดชูเกียรติทหารกล้าแห่งกองทัพไทยทั้ง 22 นาย ที่ได้เสียสละทำหน้าที่ชายชาติทหารเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย และอธิปไตยของชาติบ้านเมืองให้ดำรงสืบไป
ส่วนกัมพูชาสันดาน “สุนัขลอบกัด” สมควรต้องเดินหน้าเพื่อจัดการให้เด็ดขาดสิ้นซาก โดยเฉพาะ “ฮุนเซน” ที่ล่าสุดได้ประกาศยุทธศาสตร์สงครามระยะยาวกับไทย ซึ่งถ้าหากไม่จัดการกับ “ทรราชเขมร” ผู้นี้ ก็ไม่มีทางที่ไทยจะอยู่ได้เป็นสุข
เพราะ “ฮุนเซน” คือ “อาชญากรร้ายของโลก” !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

เจาะลึกโครงสร้างปอยเปต เมื่ออาณาจักรสแกมเมอร์ถูก ถอดปลั๊ก เริ่มกลายเป็นเมืองร้าง
รุดเยี่ยมครอบครัว 'จ่าเหิน' ทหารกล้า เหยียบระเบิดขาขาด รายที่ 8
สนามบินสุวรรณภูมิ ประชุมด่วน หลังพบโดรนเข้าพื้นที่ เตรียมจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันทันที
มหานครคนรวย เปิด 20 อันดับเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก กรุงเทพฯผงาดติดโผ
'อดีต สว.'ชวนฟังคลิปนาทีหนีตายปอยเปต ชี้มีคนไทยสั่งการ หนีระเบิดปืนใหญ่ไทยชัดเจน (คลิป)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี