บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบมจ. ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC กำไรที่ร่วงแรง YoY มีสาเหตุสำคัญมาจากการที่บริษัทบันทึกกำไรพิเศษ 1.4 พันล้านบาท จากการขายหุ้นทั้งหมดใน PTT Global Chemical (PTTGC.BK/PTTGC TB) ออกไปใน 1Q60 และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ลดลงเนื่องจาก i) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ii) บริษัทในเครือมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมีแห่งหนึ่งตามกำหนด และ iii) ต้นทุน naphtha แพงขึ้น ในขณะเดียวกัน กำไรที่ลดลงเล็กน้อย QoQ ก็มาจากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ซึ่งหักล้างไปเกือบหมดกับส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง
ประเด็นหลักคือ
i)กำไรจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ลดลงถึง 15% QoQ เหลือ 8.1 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทในเครือแห่งหนึ่งมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมีตามกำหนด แต่อย่างไรก็ตาม spread ของ HDPE และ PP พุ่งขึ้นถึง 22% QoQ เป็น US$798/ton และ 10% QoQ เป็น US$690/ton ตามลำดับ เนื่องจากจีนห้ามการนำเข้าพลาสติกรีไซเคิล ส่งผลให้อุปสงค์ของ polyolefins ที่ผลิตใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผู้บริหารคาดว่า spread ของ PE และ PP จะลดลงใน 2Q61 เนื่องจากอุปสงค์ที่จำกัดในช่วงเดือนรอมฎอน (15 พฤษภาคม-14 มิถุนายน) และการที่โรงงาน cracker ใหม่ในสหรัฐเริ่มเปิดดำเนินงาน แต่ยังคาดว่า spread จะอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
ii)กำไรจากธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างพุ่งขึ้นถึง 102% QoQ เป็น 2.5 พันล้านบาท จากการที่ราคาขายปูนสูงขึ้นและต้นทุนลดลง โดยบริษัทได้ขึ้นราคาขายปูนประมาณ 50 บาท/ตัน QoQ เป็น 1,700-1,750 บาท/ตัน ใน 1Q61 เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนถ่านหินที่แพงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินโครงการลดต้นทุนอย่างเช่น การลดต้นทุนค่าไฟฟ้าจากการเริ่มเปิดดำเนินการโครงการ solar farm ขนาด 10MW ใกล้ๆ โรงปูน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิต solar farm อีก 20MW ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ปูนในประเทศไม่เพิ่มขึ้นเลย YoY ใน 1Q61 (+6% ในภาครัฐ, -3% ในภาคการพาณิชย์ และ -3% ในภาคอสังหาริมทรัพย์) ซึ่งอุปสงค์ที่โตถึง 6% ในภาครัฐมาจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ แม้ว่าการลงทุนในโครงการในต่างจังหวัดของรัฐจะยังคงชะลอตัวลงก็ตาม นอกจากนี้ ผู้บริหารก็ยังมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นกับอุปสงค์ปูนของไทยเมื่อเทียบกับสามสี่เดือนก่อน
iii)กำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น 23% QoQ เป็น 1.5 พันล้านบาท จาก margin ที่เพิ่มขึ้นของสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์
เรายังคงเป็นห่วงประเด็นอุปทาน olefins ใหม่จากสหรัฐที่จะเพิ่มเข้ามาอีก 9.5MTA ในปี 2560-2563 ซึ่งจะทำให้อุปทานในตลาดโลก
เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันอีก 6% ดังนั้นเราจึงยังคงมีมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มตลาด olefins ซึ่งเรากำลังอยู่ระหว่างการทบทวนคำแนะนำและราคาเป้าหมาย
ปัจจัยเสี่ยงจากกรณีที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด และ spread ปิโตรเคมีลดลง
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี