ตั้งแต่มีประธานาธิบดีคนใหม่ที่ชื่อโดนัลด์ ทรัมป์นี่ ข่าวสารการเมืองจากอเมริกาดูเละเทะเปะปะ บางทีก็ตลกร้ายอย่างชนิดที่เรียกว่า “หัวเราะไม่ได้ ร่ำไห้ไม่ออก” เลยทีเดียว ลูกเด็กเล็กแดงที่เกิดทีหลังอาจจะนึกภาพไม่ออกว่า อเมริกาที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรเป็นอย่างไร เพราะยุคนี้น่าจะเป็นยุคที่อเมริกาเสื่อมทรามและตกต่ำอย่างถึงที่สุด
คนทั้งประเทศรุมจิกด่าทึ้งผมลุงทรัมป์จนไม่เหลือดี ยกเว้นพวกที่ยังดมกาวเมาวาทกรรม “Make America Great Again” นั่นแหละที่ยังนอนยิ้มกอดรูปลุงทรัมป์น้ำลายยืดไม่ยอมตื่น อย่าว่าแต่มะริกันเลย ผู้นำชาติอื่นก็รุมด่าลุงทรัมป์อย่างไม่ไว้หน้า อาตี๋คิมแห่งเกาหลีเหนือยกมือเสยผมทรงพิสดารแล้วด่าลอยลมมาพร้อมจรวดที่ขยันปล่อยมากวนตีนลุงทรัมป์ว่า “ทรัมป์เป็นไอ้แก่โรคจิต”
ล่าสุดประธานาธิบดีเวเนซุเอลาหมดความเกรงใจลุงทรัมป์ถึงขนาดกวนตีนออกสื่อ ด้วยการบอกว่า อยากขอบคุณทรัมป์ที่ด่าเช้าด่าเย็นจนคนทั้งโลกรู้จัก แถมยิ่งด่า ยิ่งทำให้ตัวผู้นำเวเนซุเอล่าเป็นที่รักของคนอื่นมากขึ้น แถมสะบัดบ็อบใส่ลุงแซมอย่างไม่ใยดีด้วยการหันไปค้าขายกับประเทศอื่นที่ชังน้ำหน้าลุงแซมแทน
ดูเหมือนว่าใครๆ ก็ไม่รัก แม้แต่สมาชิกพรรคการเมืองเดียวกับลุงทรัมป์ บ็อบ คอร์เกอร์ วุฒิสมาชิกอาวุโสจากพรรครีพับลิกันด่าลุงทรัมป์ออกสื่อรัวๆ ว่า บริหารประเทศเหมือนเล่นเกมเรียลลิตี้โชว์ จะว่าไปแล้วก็มีส่วนถูก เพราะยิ่งดูยิ่งตกต่ำลงทุกวันๆ คิดหรือว่าตาทรัมป์จะยอมฟังคำเตือน ลุงแกสวนกลับไปแบบเต็มหมัดว่าบ็อบ คอร์เกอร์นั้นก็แค่พวกคิดลบที่คอยแต่ละถ่วงความเจริญอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาล แถมย้ำว่าบ็อบ คอร์เกอร์นั้นขี้ขลาดเกินกว่าจะลงเลือกตั้ง
สาเหตุที่ทำให้สองลุงร่วมพรรคออกมาฟัดกันนัว เพราะบ็อบสนับสนุนรัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ที่อยากให้มีการเจรจารอมชอมกับเกาหลีเหนือ แต่เฒ่าทรัมป์กลับยักไหล่แล้วบอกว่า “เสียเวลาเปล่าๆ ปลี้ๆ” เล่นเอาบ็อบถึงกับด่าโขมงว่าตาทรัมป์นี่แหละที่จะทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็แทรก ตาทรัมป์หันไปเปิดศึกกับรัฐมนตรีที่ตัวเองปั้นมากับมือ แว่วๆว่าเร็กซ์ ทิลเลอร์สันแอบพูดลับหลังทรัมป์ว่า “ปัญญาอ่อน” ทรัมป์ถึงกับฉุนขาดแล้วท้าให้มีการวัดไอคิวระหว่างกัน อ่านข่าวนี้แล้วให้อ่อนอกอ่อนใจ ตาทรัมป์เหมือนเล่นปาหี่เป็นจำอวดให้ชาวโลกหัวเราะเยาะเข้าไปทุกวัน
ล่าสุดเจ้าพ่อนิตยสารปลุกใจเสือป่าลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่าจะจ่ายเงิน 10 ล้านดอลลาร์ให้ใครก็ได้ที่มีข้อมูลเด็ดๆ พอที่จะให้ตาทรัมป์ถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เล่นกันดุเดือดถึงพริกถึงขิงดีแท้ๆ
แต่ท่ามกลางความเสื่อมและตกต่ำของพญาอินทรีทั้งหลายทั้งปวง คงไม่มีข่าวไหนต่ำตมเท่าเรื่องที่ลุงแซมถอนตัวออกจากยูเนสโก้เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาอีกแล้ว พร้อมทั้งจูงมืออิสราเอลออกไปด้วย
องค์การองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO) ที่ก่อตั้งมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด ชาวโลกรู้ดีว่าลุงแซมเป็นตัวหลักในการช่วยเหลือ แต่วันนี้เหมือนฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาอย่างฉับพลัน เพราะลุงแซมหันไปจูงยิวโบกมืออำลาองค์การนี้ไปอย่างไม่ใยดีเป็นหนที่สอง
เรื่องนี้เล่นเอายูเนสโก้เดี้ยงแน่ เพราะลุงแซมเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ 1 ใน 5 ของบรรดาขาใหญ่ที่ให้เงินสนับสนุนการทำงานขององค์การนี้ การที่ทรัมป์ถอนตัวออกจากองค์การนี้เพราะจะทำให้วาทกรรมที่ว่าอเมริกาต้องมาก่อนเป็นจริงในเชิงภาพพจน์
นอกจากนี้ลุงแซมก็ยังอุ้มโอ๋เอาใจยิวอยู่อย่างไม่สร่างซา ประเด็นหลักที่ทำให้ลุงแซมและยิวไม่พอใจยูเนสโก้คือการที่ทางยูเนสโกบังอาจชี้นิ้วประณามอิสราเอล อันเป็นเด็กเส้นอันดับหนึ่งของลุงแซมในเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ ในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเลมตะวันออก แถมยังกำหนดให้พื้นที่เมืองเก่าเฮบรอนเป็นแหล่งมรดกโลกของปาเลสไตน์ ซึ่งเรื่องนี้เล่นเอายิวเต้นผางอย่างโกรธจัด เพราะยิวบอกว่า การทำเช่นนี้คือการปฏิเสธประวัติศาสตร์ของชาวยิว ซึ่งที่นั่นมีสุสานของบิดาผู้ก่อตั้งศาสนาอันเก่าแก่ย้อนกลับไปได้ถึงยุคของคัมภีร์ไบเบิลเลยทีเดียว
ยูเนสโกถูกก่อตั้งขึ้นโดย 37 ประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนสันติภาพและความมั่นคง โดยจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม
แต่นี่ไม่ใช่หนแรกที่ลุงแซมถอนตัวออกจากยูเนสโก ในยุคประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนก็ประกาศถอนตัวจากการเป็นสมาชิกยูเนสโกมาแล้ว โดยให้เหตุผลว่าทางองค์กรมีจุดยืนเอียงซ้ายในทางการเมือง และไร้ความรับผิดชอบด้านการเงิน แล้วกลับมาเป็นสมาชิกใหม่ในยุคสมัยของจอร์จ บุช
จนมาถึงปี 2011 ลุงแซมนึกเคืองยูเนสโก้อีกรอบเลยประกาศเลิกจ่ายเงินสนับสนุนเป็นการประท้วงการรับปาเลสไตน์เป็นสมาชิก ทำให้ยูเนสโกเริ่มมีหนี้ค้างจ่ายสะสม และมาปีนี้ ทรัมป์ก็จูงมือยิวถอนสมอออกไป ท่ามกลางเสียงด่าของสมาชิกชาติอื่นๆ และเสียงปรบมือเกรียวกราวของชาวยิว
คงต้องจับตาดู “ลุงแซมรายวัน” ว่าจะออกหมัดมวยใส่ใครหรือมาไม้ไหนต่อ เพราะตั้งแต่มีประธานาธิบดีชื่อโดนัลด์ ทรัมป์ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้..และเกิดขึ้นอย่างชนิดที่เรียกว่า “ไม่อาจคาดเดา” เสียด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี