เราต้องการ “สังคมอุดมปัญญา” เราต้องการ “สังคมที่ยุติธรรมทุกด้าน” โดยเฉพาะด้านกฎหมาย แต่เราก็ได้แต่เรียกร้องเอาจากสังคม...ซึ่งมันไม่มีตัวตน แต่เป็นผลรวมของสำนึกและไร้สำนึกของคนทุกคนในสังคมประเทศนี้
เราเรียกร้องเอาจากคนอื่น โดยลืมนึกถึงตัวเองว่าเป็นอย่างไร?
นับแต่ “รัฐบาลทักษิณ” (ไม่ว่าจะชื่อพรรคอะไร) เถลิงอำนาจปกครองประเทศเมื่อต้นปี 2544 พลเมืองของประเทศก็ถูกแบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...แม้ในช่วง 6 ตุลาคม 2519 ที่นักศึกษาถูกปราบปรามและหนีตายเข้าป่าไปอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยก็ยังมีการแบ่งฝ่ายไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้
ผมเห็นว่าการแบ่งฝ่ายครั้งนี้เป็นการสืบต่อการแบ่งฝ่ายในยุค 6 ตุลาคม 2519 ดังกล่าว และย้อนไปถึงยุค “คณะราษฎร” ครองเมือง เพราะมีเป้าหมายเดียวกัน
ผลของการแบ่งฝ่ายนับจากอดีตมาจนถึงวันนี้ก็คือ ไม่มีฝ่ายไหนฟังฝ่ายไหน หรือไม่มีใครฟังใคร ไม่ว่าจะมีเหตุผลหรือไม่มีเหตุผล ทุกฝ่าย – ทุกคนต่างก็เข้าข้างฝ่ายตัวเองและตัวเอง
ลองดูกรณีต่อไปนี้...
1. จะอะไรกันนักหนา แค่เสือดำตายตัวเดียว?
มันอาจจะมีเบื้องหน้า – เบื้องหลังอะไรที่มากกว่าเรื่องเสือดำตายก็ได้! และโลกนี้ก็มีสัตว์ป่าตายทุกวัน
2. กะแค่เรื่องนาฬิกายืมเพื่อนมาจะเอาถึงตายเลยหรือ? ท่านทำคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติมาทั้งชีวิตนะ
3. เงินที่ตำรวจยืมเสี่ยมา 30 ล้านนั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
มันเทียบไม่ได้เลยกับเรื่องที่ทักษิณ – ยิ่งลักษณ์ทำไว้!
(ส่วนฝ่ายทักษิณก็ไม่เคยเห็นว่าฝ่ายตนทำอะไรผิด ทุกสิ่งทุกอย่างทำเพื่อประชาชน ทำเพื่อความยุติธรรมและความเท่าเทียม ฝ่ายตรงข้ามต่างหากผิด)
ทั้ง 3 กรณีข้างต้นผมสรุปมาจากเพจต่างๆ ด้วยความรู้สึกทั้งขำทั้งเคือง แต่ก็สรุปต่อได้ว่าสังคมประเทศเรานั้นอยู่กันด้วย “หลักการเปรียบเทียบ” และ “หยวนๆกันไปในฝ่ายเดียวกัน”
เราไม่ได้อยู่ร่วมกันด้วย "หลักการปกครองประเทศ" ที่เรียกว่า “นิติรัฐ – นิติธรรม” อย่างนานาประเทศ? (แม้จะมีหลายคนพล่ามอยู่แทบทุกวันก็ตาม)
ฝ่ายเราทำผิด ก็พยายามเปรียบเทียบกับความผิดของฝ่ายตรงข้าม ว่าฝ่ายเราทำผิดน้อยกว่า - เล็กกว่า และพยายามกลบเกลื่อนให้ลืมๆกันไป
ถ้าฝ่ายตรงข้ามทำผิด เราต้องขุดคุ้ย บิดเบือน และกระทืบแม่งให้ตายคาตีน!
หมาคนอื่นขี้ในที่สาธารณะเราโวยไม่เลิก หมาของเราขี้ เราก็ทำมึนๆเดินจากมาเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนที่พยายามแถว่าเรื่องการฆ่าเสือดำเป็นแค่สัตว์ตายตัวเดียวนั้นมีอยู่ 2 พวก คือพวกที่ต้องการปกป้องรัฐบาลกับพวกที่ต้องการปกป้องคนยิงเสือ ทั้งสองพวกนั้นต่างก็ตกอยู่ในอาการเดียวกันคือ “กลัว”
พวกปกป้องรัฐบาลนั้นกลัวว่าเมื่อรัฐบาล “เสื่อม” ความนิยม – ความน่าเชื่อถือ ก็จะเป็นเหตุให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับคะแนนนิยมและกลับมามีอำนาจ...เมื่อฝ่ายที่ตัวเองปกป้องหรือใช้เป็น “ไม้กันหมา” สูญเสียอำนาจไป ตัวเองจะไม่มีที่เกาะที่พึ่ง และอาจจะต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในวงวนแห่งความชั่วร้ายอีก
ส่วนฝ่ายที่ปกป้องคนยิงเสือดำนั้นเป็นเหตุผลส่วนตัว คือต้องการผลประโยชน์จากคนยิงเสือ หรือไม่ก็เป็นพวกพ้องคอเดียวกัน
แต่ทั้ง 2 พวกนั้นกลับนำความเสื่อมมาสู่รัฐบาลมากขึ้นอีก เพราะประเทศนี้ไม่ได้มีแต่คนขี้กลัวจนลืมเหตุผล
– ไม่เคารพหลักการปกครองของประเทศ และไม่เชื่อมั่นในพลังของตนในฐานะพลเมือง แต่ยังมีคนที่ยืนหยัดในหลักการปกครองประเทศอยู่อีกจำนวนมหาศาล...คนเหล่านี้เขาไม่เลือกฝ่าย - เลือกนายคุ้มหัวอยู่แล้ว
ส่วนพวก “ผู้นำฝ่าย” หรือ “ผู้ครองอำนาจ” ก็ขี้กลัวเหมือนกัน แต่ขยันทำผิดกฎหมายเพราะหลงอำนาจ ทำผิดแล้วก็พยายามแถว่าตนไม่ได้ทำผิด (อย่าง 3 กรณีตัวอย่างข้างต้น)
สุดท้าย...ประเทศนี้จึงไม่มีหลักการการอยู่ร่วมกัน (นิติรัฐ – นิติธรรม) ของคนทุกฐานะอาชีพ แต่อยู่ด้วยอำนาจของฝ่ายตน ซึ่งก็คือฝ่ายใครฝ่ายมัน
เราจึงต้องสนับสนุนและปกป้องผู้นำหรือผู้ครองอำนาจของฝ่ายตนเอาไว้ ไม่ว่าพวกเขาจะทำผิดหรือทำถูกก็ตาม ด้วยการหันมาทำลายล้างกันเอง
ส่วนพวกผู้นำหรือผู้ครองอำนาจก็ได้ใจ อยากทำเหี้ยอะไรก็ทำได้ เพราะมีสมุนบริวารคอยสนับสนุนและปกป้องอยู่แล้ว
เกือบ 17 ปีมาแล้ว...นับแต่รัฐบาลทักษิณครองเมือง ที่ผมเห็นทั้ง 2 ฝ่าย (ฝ่ายเอาทักษิณกับฝ่ายไม่เอาทักษิณ) ก่นด่ากันไปมาว่าอีกฝ่าย “กินหญ้า” แต่ผมไม่เคยเห็นคนที่สรุปว่า ฝ่ายไหนหรือใครบ้างที่กินหญ้าจริง
ที่แน่ๆ พวกผู้นำหรือผู้ครองอำนาจของแต่ละฝ่ายนั้นเห็นมานานแล้ว ทั้งพวกที่ลอยหน้าอยู่ในประเทศและพวกที่ลอยหน้าอยู่นอกประเทศนั่นแหละ “ว่าใครกินหญ้า!” ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะออกมาลอยหน้า “พูดอะไร - ทำอะไรก็ได้” เหมือนพลเมืองไม่มีสมองหรือ? (ดู 3 กรณีตัวอย่างข้างต้น หรือจะรวมกรณีเผาบ้านเผาเมืองก็ย่อมได้)
ส่วนเรื่องเสือดำถูกฆ่านั้น ไม่ว่าใครจะแถหรือแก้ต่าง หรือโยงออกไปสู่เรื่องอื่นๆอย่างไร ความจริงก็ประกาศตัวมันเองอยู่ตรงหน้าทุกวันว่า เสือดำถูกฆ่าโดยฝีมือของพวก "รวยแล้วต้องเหี้ย"
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี