มักจะมีคำถามในโลกออนไลน์อยู่บ่อย ว่า “เราจะปราบคนโกงได้อย่างไร?” ต่างก็แสดงความคิดเห็นกันต่างๆนานา แม้มีคนจำนวนมากพูดประชด แต่ทุกคนปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมืองทั้งนั้น
คำถามนี้เกิดขึ้นบ่อยก็เพราะคอรัปชั่นระบาดเหมือนห่าลงในสมัยคนรุ่นปู่ย่าตายายของเรา และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ส่วนคนทำหน้าที่ปราบคอรัปชั่นหรือรัฐบาลนั้นก็ไม่มีน้ำยามาทุกยุคทุกสมัย ซ้ำยังเป็นตัวสร้างปัญหาคือโกงเสียเอง
คนที่คอรัปชั่นก็คือพวกนักการเมืองและข้าราชการ...ทุกประเภทนั่นแหละ เพราะคนเหล่านี้ “มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย” จึงใช้อำนาจหน้าที่ของตนคอรัปชั่น มีอำนาจมากก็โกงได้มาก มีอำนาจน้อยก็โกงได้น้อย โกงทั้งเงินหลวงและรับสินบนจากบุคคลภายนอก อย่างพ่อค้านักธุรกิจ เป็นต้น
เมื่อเป็นอย่างนี้ก็แปลว่า “คนโกงต้องทำหน้าที่ปราบปรามคนโกง” จึงมีคำถามต่อมาว่า “คนโกงจะปราบปรามคนโกงได้อย่างไร?”
คำตอบที่ไม่ได้ประชด แต่เกิดขึ้นจริงก็คือ “คนโกงจะต้องโกงให้ได้มากกว่าคนโกงคนอื่น เพื่อคนโกงอื่นๆจะได้โกงน้อยกว่า!”
แปลว่าต่างคนต่างโกง และพยายามโกงให้มากกว่า...มากที่สุด
เมื่อ 40 ปีก่อน ผมอ่านหนังสือ “สิ้นชาติ” ของ เหงียน เกา กี แกบรรยายการโกงไว้อย่างน่าตกใจมาก จนกล่าวได้ว่าในประเทศของแกไม่มีใครไม่โกง โดยเฉพาะพวกข้าราชการและพ่อค้า ข้าราชการโกงเงินหลวง พ่อค้าโกงประชาชน ยิ่งเกิดสงครามยิ่งแข่งกันโกง สงครามยิ่งรุนแรงยิ่งโกงกันมากขึ้น และโกงกันอย่างหน้าด้านๆ แต่พอไซ่ง่อนแตก ทรัพย์สินที่โกงไว้มหาศาลนั้นกลับเอาติดตัวตอนหนีตายไปได้คนละนิดละหน่อย บ้างก็เอาชีวิตไม่รอด บ้างก็ถูกกวาดต้อนเข้าคุกหรือใช้แรงงานที่เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์
ผมเชื่อว่ามีคนโกงอยู่ทั่วโลก มากน้อยเท่าไรไม่ทราบ ในประเทศไทยก็เหมือนกัน โกงกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งในช่วงเกือบ 20 ปีมานี้นับว่าโกงกันอย่างเอิกเกริกและด้วยจำนวนเงินมหาศาล สั่นสะเทือนทั้งประเทศ (แต่มีคนจำนวนมากไม่รู้สึกรู้สาเลย) ทั้งโกงแบบวิธีเก่าๆเดิมๆ และโกงผ่านนโยบายต่างๆของนักการเมือง
การโกงอย่างมหาศาลผ่านนโยบายของนักการเมืองนั้นได้รับการสนับสนุนและปกป้องโดยพวกที่คิดว่าตนเองเป็น “ลิเบอรัล” เพราะจอมโกงหัวโจกนั้นประกาศโดยไม่ต้องประกาศว่า “โกงเพื่อเป็นทุนให้พวกลิเบอรัลและคอมมิวนิสต์ต่อสู้เพื่อยึดอำนาจรัฐ” ! จึงมีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ใครได้ใครเสียใครฮุบเงินที่โกงไว้ต่างก็รู้อยู่แก่ใจกันดี
มาถึงยุครัฐบาล คสช. พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะปราบปรามคอรัปชั่นอย่างจริงจัง แต่จนวันนี้สภาพการโกงโดยทั่วไปก็ดูเหมือนไม่ได้ลดน้อยลง (ในระดับพื้นผิว) ส่วนที่ลึกเข้าไปในเนื้อในของระบบราชการทุกประเภท รวมถึงการปกครองส่วนท้องถิ่น...อตบ. อบจ. เทศบาล ไม่เว้นแม้กระทั่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน...หน่วยงานการศึกษาระดับโรงเรียนประถมศึกษาใกล้บ้านผมก็โกง...ดูเหมือนทุกหย่อมหญ้ามีแต่คนโกงและการโกง
การเปิดโปงขบวนการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นั้นก็ไม่ใช่ฝีมือของพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวคณะปกครองประเทศ หรือมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่นักศึกษาคนนั้นเรียนอยู่ แต่เป็นสำนึกของ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา กับนางสาวณัฐกานต์ หมื่นพล อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นเอง
ทั้งรัฐบาลและมหาวิทยาลัยนั้นไม่มีน้ำยาอะไรกับเรื่องพรรค์นี้หรอก เพราะมันเป็นแหล่งปัญหาคอรัปชั่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว...อย่างเก่งของพล.อ.ประยุทธ์ก็ออกมาประกาศขึงขังสนับสนุนให้จัดการกับคนผิด ซึ่งแน่อยู่แล้วว่าต้องประกาศอย่างนี้
“ช้างตายทั้งตัวจะเอาใบบัวปิด” ได้อย่างไร?
ส่วนมหาวิทยาลัยแห่งนั้น...ที่ลงทุนจัดงานสดุดี – เชิดชูเกียรตินักศึกษาที่มีสำนึกดี สำหรับผมก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่า “การแก้ตัว – เอาหน้า” ต่อสาธารณชนเท่านั้น
ไม่ว่า “อันดับ” จากการประเมินปัญหาคอรัปชั่นในประเทศไทยจะสูงขึ้นหรือต่ำลง มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรในความเป็นจริง เพราะคนโกงและการโกงก็ยังคงมีอยู่ต่อไป
ถ้าเปรียบ “ประเทศนี้” เป็นบ้านสักหลัง มันก็ถูกปลวกกัดกินเนื้อไม้อยู่ภายในมานานแล้วและมากขึ้นทุกวัน
แม้มันจะปรากฏบนพื้นผิวไม้ให้เห็น แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจจริงจังที่จะกำจัดมัน
เพราะจะให้ปลวกกำจัดปลวกด้วยกันย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
อย่างเก่งสุดก็แย่งกันกัดกินให้มากที่สุด ก่อนที่บ้านจะพังทลาย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี