ร้านครัวเจ๊ง้อ มีมากกว่า 10 สาขาในกรุงเทพฯ อยู่กระจายกันไปทั่วทุกทิศ นักชิมจะรู้จักกันดีว่าถ้าอยากกินอาหารจีนที่ สด สะอาด รสชาติอร่อยมีรสมือดี ก็จะนึกถึงครัวเจ๊ง้อเป็นร้านแรกๆ จากร้านแรกที่สี่พระยาเมื่อ 16 ปีก่อน ได้เติบโตมาเรื่อยๆ จวบจนปัจจุบันสื่อทุกแขนงให้การชื่นชมและแนะนำมาตลอด ที่สาขาสุขุมวิท 20 นั้นมีนักชิมชาวฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น มาอุดหนุนกันเนืองแน่นทุกวัน ล่าสุด “มิชลินไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ ได้จำเพาะเจาะจงยกย่องให้ ครัวเจ๊ง้อ สาขาสุขุมวิท 20 เป็นร้าน Bib Gourmand หมายถึงร้านอาหารชั้นดีในราคายุติธรรม ถึงแม้จะยังไม่ให้ดาว แต่ก็จัดเป็นร้านควรจับตาไว้ว่ามีโอกาสจะได้ดาว เพราะว่าในแต่ละปี มิชลิน จะสำรวจให้มีร้านรับดาวเพิ่มหรือลดดาวก็ได้ อีกหนึ่งรางวัลได้รับมาจากนิตยสารอาหารและการท่องเที่ยวทั่วโลกของฮ่องกงตั้งแต่ปี 2014 มอบให้ในฐานะเป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมของกรุงเทพฯ
ผัดผักบุ้งฝอย มองเผินๆ หนแรกนึกว่าเป็นผัดหมี่หยก เมื่อชิมได้ความกรอบจึงถึงบางอ้อว่าเป็นยอดผักบุ้งไทย เจียดซอยเป็นเส้นทีละต้นเป็นฝอยปานเส้นไหม แล้วผัดไฟแดงกับกระเทียม พริก ของง่ายๆแต่ผ่านการปรุงจากคนครัวมีฝีมือ กลายเป็นอาหารภัตตาคารรสชาติลงตัวอย่างสบาย
ปูผัดพริกไทยดำ ปูทะเลตัวโตคัดมาเป็นพิเศษ ปูเป็นเนื้อแน่นสับเป็นชิ้นแล้วทอดจนได้ที่ จึงนำมาผัดกับซอสพริกไทยดำ กลิ่นปูพริกไทยดำผัดส่งกลิ่นจรุงจมูกชวนหิว ฝีมือคนไทยที่นี่โดดเด่นไม่แพ้ใครในโลกไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองบินตามไปกินถึงสิงคโปร์
เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด เป็นความภูมิใจของเจ๊ง้อที่เป็นผู้คิดค้นรายการนี้เอง ครั้งแรกเมื่อได้ชิมผักยอดกระเฉดไฟแดง ที่อรัญประเทศ เกิดจินตนาการลองนำมาผัดกับเส้นหมี่และกุ้งสด เบื้องหลังความอร่อยนั้นเจ๊ง้อไม่เคยปิดบังว่าจะต้องใช้ยอดผักกระเฉดน้ำหนึ่ง (หมายถึงผักกระเฉดแรกผลิที่เก็บเกี่ยวครั้งแรก) ต้นผักที่ยาวเป็นฟุตนั้นเด็ดใช้แค่ 2 ท่อน ส่วนที่เหลือทิ้งหมด จึงได้ยอดที่อวบกรอบ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวโดยพบว่าผักกระเฉดคุณภาพดีที่สุดนั้นต้องเป็นผลผลิตจากปราจีนบุรี นำมาผัดกับเครื่องแกงรสค่อนข้างจัด แซมเปรี้ยวเล็กน้อยพร้อมกุ้งทะเลตัวโต จานนี้มาร้านนี้ทั้งที นักชิมต้องสั่งแทบทุกโต๊ะ
ปลาผัดเจ้าสัว อยู่มาวันหนึ่ง มีเจ้าสัวใหญ่ขาประจำคนหนึ่งขอเข้าครัว และบงการให้พ่อครัวเตรียมเครื่องปรุงตามสูตรอันมีเนื้อปลาบู่ตัวโต กระเทียมโทนเชียงใหม่ ต้นหอม พริกไทยดำ แล้วยืนบงการการผัดทอดจนเสร็จ เจ๊ง้อชิมแล้วชอบใจขอสูตรใส่ในเมนูประจำร้านทันที จนเป็นอีกเมนูอร่อยฉมัง
ขาห่านอบบะหมี่ ขาห่านพื้นเมืองในประเทศไม่พอกับความต้องการ จึงต้องนำเข้าขาห่านแช่แข็งจากยุโรปตะวันออกที่ใหญ่เหมือนขาหงส์ ต้มพะโล้จนเปื่อยนุ่มเครื่องเทศซึมลึก แล้วจึงมาปรุงกับเส้นบะหมี่ ทำให้เส้นบะหมี่พลอยได้รสชาติที่ล้ำลึกไปด้วย
ข้าวผัดปลาแซลมอนเค็ม สังเกตได้ว่าข้าวผัดปลาเค็มจานนี้ ไม่มีกลิ่นคาวรุนแรงของปลาเค็มเลยโดยทั่วไปจะใช้ปลากุเลาเค็มหรือปลาอินทรีเค็มแต่เจ๊ง้อไม่หวงวิชาเปิดเผยเคล็ดลับที่รสข้าวผัดหอมมันเพราะใช้ปลาแซลมอนทำปลาเค็มเอง
ชุดข้าวต้มกับ ธรรมเนียมคนจีนแต้จิ๋วแต่โบราณนั้นการกินข้าวต้มเป็นวิถีชีวิตประจำวัน ถึงแม้ว่าจะกินอาหารภัตตาคารราคาแพง แม้จะอิ่มท้องแต่ก็ไม่อิ่มเอมใจจนกว่าจะได้กินข้าวต้มส่งท้าย
เจ๊ง้อรักษาธรรมเนียมนี้โดยจัดชุดข้าวต้มตบท้ายอาหารหนัก มีกับ 6 อย่าง ไข่เจียวไชโป๊วเค็ม หมูสับผัดหนำเลี้ยบ ปลาเค็มแซลมอนฝอยทอดหมูสับนึ่งปลาเค็ม ผักบุ้งฝอยผัด ทั้งๆ ที่อิ่มท้องแล้ว บอกตรงๆ ว่าเป็นกับข้าวต้มที่เลอรสจนอดไม่ได้ เมื่อกินต่อแล้วรู้สึกสบายกระเพาะ กลับบ้านหลับสบาย
เผือกหิมะ เผือกหนึ่งลูกปอกแล้วน้ำหนักหายไปเกือบครึ่ง ได้แท่งเนื้อเผือกที่นวลละเมียด ไม่ผัดให้หวานจัดเกินไปนัก
ยี่สิบกว่าปีก่อน เจ๊ง้อได้ไปชิมเผือกหิมะที่ฮ่องกงแล้วติดอกติดใจ กลับบ้านทดลองฝึกทำเองบ้าง หมดเผือกไปมากกว่าร้อยกิโลกรัมจนได้สูตรที่ลงตัว นำมาเผยแพร่จนใครๆ ก็ทำเผือกหิมะเป็นเพียงแต่มีเคล็ดลับว่าต้องปอกเปลือกเผือกให้หนาจนไม่เหลือเสี้ยน ให้เหลือเพียงใจกลางเผือกที่ละเอียดร่วน แล้วผัดกับน้ำเชื่อมจนตกผลึกเคลือบชิ้นเผือกสุกได้ที่
เจ๊ง้อเล่าว่าคอยดูแลปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ สูตรอาหารในครัวมีการชั่งตวงวัดให้เป็นมาตรฐาน และหากลูกค้ามีคำชี้แนะก็จะรีบแก้ไข นอกจากอาหารจีนแต้จิ๋วที่ได้วิพากษ์ข้างต้นแล้วยังมีจานเด่นอีกหลายรายการ เช่น กั้งทอดกระเทียม กั้งผัดพริกเกลือ กุ้งอบวุ้นเส้น ออส่วน แฮ่กึ๊น เป็นต้น ส่วนอาหารไทยจำพวกต้มยำ ผัดไทย ส้มตำ พล่าต่างๆ มีไว้บริการเช่นกัน อีกทั้งยังมีอาหารเจระดับเหลาเพื่อผู้นิยมอาหารมังสวิรัติอีกด้วย
โดยภูมิหลัง เจ๊ง้อ เป็นนักชิมตัวยง เมื่อชิมแล้วก็จะขวนขวายศึกษาวิเคราะห์ทดลองจนค้นพบเครื่องปรุงส่วนผสมของอาหารจานนั้นอย่างมีความสุข ด้วยความที่เป็นคนละเอียดลออไม่ยอมให้ส่วนใดส่วนหนึ่งขาดตกบกพร่อง จึงไปจ่ายตลาดด้วยตัวเอง พิถีพิถันการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศไทย ตลอดจนไปซื้อจากจีนและฮ่องกง
ทุกวันนี้ เจ๊ง้อ หรือ ณชนก แซ่อึ้ง ยังทำหน้าที่ควบคุมมาตรฐานวัตถุดิบ และสูตรอาหาร ตลอดจนฝึกอบรมพ่อครัวของทุกสาขาด้วยตัวเอง และสาขาสุขุมวิท ซอย 20 มี นิพนธ์ สัจจาวุธ เป็นผู้ดูแลอีกแรงหนึ่ง
นอกจากนั้นยังได้เปิดโรงเรียนสอนการทำอาหารอีกส่วนหนึ่ง เพราะเสียดายความรู้ที่สั่งสมมาชั่วชีวิต ต้องการถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบังไม่ให้ความรู้สูญหาย จึงมีชาวต่างชาติมาสมัครเรียนกันมากโดยเฉพาะชาวฮ่องกง
ครัวเจ๊ง้อสาขานี้ ตั้งอยู่ในถิ่นสุขุมวิท ย่านที่ดินราคาแพงลิบลิ่วของกรุงเทพฯ ตัวร้านนี้เป็นอาคารชั้นเดียวขนาดโอ่โถงหรูหรา อยู่กลางๆ ซอยสุขุมวิท 20 มีที่จอดรถอันกว้างขวาง สามารถจอดได้ถึง 50 คัน
Facebook : เถ่าชิ่วสุทัศน์ ศุกลรัตนเมธี
ครัวเจ๊ง้อ สาขาสุขุมวิท 20
68/2 ถนนสุขุมวิท 20 กรุงเทพฯ
โทร.02-2588008-9
เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30 -22.30 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-22.30 น.
Website http://www.jengorsukhumvit.com
Email : jengorseafoodsukhumvit20@gmail.com
มีบริการ Delivery สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกมาที่ร้าน (ในรัศมี 20 กิโลเมตร)
สามารถโทร.สั่งได้ที่ ChefXP1767 และ foodpanda
อนึ่ง เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์นี้ ร้านครัวเจ๊ง้อ (สุขุมวิท 20) เปิดบริการเป็นปกติทุกวัน หากคิดไม่ออกว่าจะไปกินอาหารร้านไหน ให้นึกถึงครัวเจ๊ง้อสุขุมวิท 20 เพื่อฉลองเทศกาลนี้อย่างชื่นมื่น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี