คนไทยนี่หาเช้ากินค่ำจริงๆ!
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2560 พบว่าในกลุ่มผู้สูงอายุมีการออมอยู่ระหว่าง 100,000 – 399,999 บาท มากที่สุด (ร้อยละ 31.0) สำหรับมูลค่าการออมตั้งแต่ 400,000 บาทขึ้นไป มีร้อยละ 36.0 ในจำนวนนี้เป็นการออมระหว่าง 400,000 – 699,999 บาท และ 1,000,000 – 2,999,999 บาท (ร้อยละ 14.2 และ 10.4 ตามลำดับ) นอกจากนี้มีผู้สูงอายุที่มีการออมในมูลค่าน้อยกว่า 50,000 บาท ร้อยละ 18.0 ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งต้องทำงานเพื่อหารายได้เพิ่ม พบว่าแหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุในปี พ.ศ.2560 มาจากบุตร (34.7% ซึ่งลดลงเรื่อยๆ) จากการทำงาน 31% จากเบี้ยยังชีพของทางราชการ 20%(เบี้ยยังชีพมีเพียง 600-1,000 บาทต่อเดือน) บำเหน็จ บำนาญ 5.9% คู่สมรส 4.6% ดอกเบี้ยเงินออม เงินออม 2.3% ฯลฯ 35.1% ของผู้สูงอายุในปี พ.ศ. 2560 มีงานทำ 47.7% ทำงานเพราะยังแข็งแรง แต่ 43.4% ทำงานเพราะต้องการรายได้ รวมทั้งผู้สูงอายุทำงานเฉลี่ย 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์?!
ผมอยากให้ผู้สูงอายุ (และทุกๆ คน) มีอิสรภาพทางการเงินก่อนเกษียณ (financial freedom) ความหมายของอิสรภาพทางการเงิน
ก็คือ มีรายรับจากสินทรัพย์มากกว่ารายจ่ายต่อเดือน สินทรัพย์ก็คือ เงินฝากธนาคาร พันธบัตร หุ้นกู้ LTF RMF กองทุนรวม บ้านให้เช่า รถให้เช่า ฯลฯ โดยไม่ต้องทำงานในยามสูงอายุเพื่อหารายได้ แต่ถึงแม้สบายแล้ว มีอิสรภาพทางการเงินแล้ว ผมก็ยังอยากให้ผู้สูงอายุมีงานทำ
หาอะไรทำ เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน เพื่อป้องกันสมองเสื่อมและเพื่อช่วยเหลือสังคม เช่น ทำงานเป็นอาสากาชาดให้สภากาชาดไทย ฯลฯ
และข้อมูลเร็วๆ นี้จากศูนย์วิเคราะห์วิจัยพฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้าธนาคารทหารไทยพบว่า “คนไทยมีเงินเหลือใช้ไม่ถึง 6 เดือนเมื่อหยุดทำงาน” เมื่อดูวินัยการออมมีเพียง 38% ที่ออมก่อนใช้และแยกบัญชีชัดเจน ในขณะที่ 49% ใช้ก่อน และอีก 13% ยังไม่คิดออม อีกทั้งยังมองการวางแผนการใช้จ่ายหลังเกษียณเป็นเรื่องไกลตัวโดย 21% ยังไม่เคยคิดถึงการวางแผนการเงินหลังเกษียณอายุ?!
ด้วยเหตุนี้เองผมจึงอยากเชิญชวน กระตุ้น สนับสนุน ให้ทุกๆ ท่านที่ทำงานแล้ว เริ่มออมตั้งแต่บัดนี้- ถ้ายังไม่เคยออมมาก่อน สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ก็อยากให้ฝึกนิสัยให้รู้จักการออม เช่น ได้เงินไปโรงเรียนจากคุณพ่อคุณแม่ หรือได้เงินจากใครก็ตาม ให้รู้จักออมบางส่วนไว้ รวมทั้งไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยขอเงินจากคุณพ่อคุณแม่ ฯลฯ สำหรับท่านที่ยังไม่ได้ทำงาน ผมอยากให้เริ่มออมทันทีที่เริ่มทำงาน ที่ได้รับเงินเดือนครั้งแรก โดยขอให้แบ่ง 10% ของรายได้จากการทำงานทันที โดยให้ธนาคารหักยอดออมนี้จากบัญชีเงินเดือนไปสู่บัญชีต่างหากเลย ที่เหลือ 90% จึงค่อยๆ นำไปใช้ และต้องใช้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 ของเรา ถ้ารู้สึกว่าใช้ไม่พอ ควรทำงบประมาณและงบรายรับ-รายจ่าย จะได้รู้ว่ามีรายจ่ายอะไรบ้างที่ไม่จำเป็นที่ลดได้ และควรมีก้อนเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 6 เดือนของรายจ่าย
นอกจากนี้ ต้องแล้วแต่ว่าท่านทำอะไร ถ้าเป็นพนักงานบริษัท ควรออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นการสมัครใจ ออมได้ 2-15% ของเงินเดือนโดยนายจ้างจะสมทบให้ระหว่าง 2-15% และนำเงินไปลงทุนให้เรา ถ้าเป็นข้าราชการอย่างน้อยต้องออม 3% ของเงินเดือนและออมได้ถึง 15% โดยหลวงจะออกให้ 3% เท่านั้น ข้าราชการควรลงให้เต็ม 15% โดยต้องไปถามด้วยว่าแผนการลงทุนมี 5 อย่าง มีอะไรบ้าง ควรหาความรู้และเลือกแผนที่ดีที่สุดสำหรับตัวท่าน ถ้าเป็นแรงงานนอกระบบควรลงทุนกับ กอช. (กองทุนการออมแห่งชาติ) ฯลฯ
ถ้ายังมีเงินเหลือและต้องเสียภาษี ควรซื้อLTF, RMF เท่าที่หักภาษีได้เท่านั้น ถ้ายังมีเงินเหลือ ควรซื้อกองทุนรวมแบบดอกเบี้ยทบต้น (เงินที่เราลงทุนต้องเป็นเงินเย็น) และพยายามไม่ถอนเงิน เก็บไว้ใช้ตอนเกษียณ
โดยท่านต้องมีแผนว่า อยากจะเกษียณเมื่อไหร่ เกษียณแล้วจะใช้เงินเดือน เดือนละเท่าไหร่ และจะมีอายุยืนไปอีกกี่ปีหลังเกษียณ แล้วจึงเอาข้อมูลต่างๆ นี้มาคำนวณว่า เราจะต้องมีเงินเมื่อเกษียณเท่าไหร่ จึงจะพอ ทั้งนี้อย่าลืมคำนวณเรื่องเงินเฟ้อด้วย โดยเฉพาะถ้าเราคิดที่จะเกษียณอีก 30 ปีข้างหน้า
เช่น อยากเกษียณอีก 30 ปีข้างหน้า และจะอยู่ต่ออีก 20 ปี ต้องการจะใช้เงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท (เงิน 20,000 บาทตอนนั้นจะมีค่าน้อยกว่า 20,000 บาท ตอนนี้ ฉะนั้นจึงต้องคิดส่วนนี้ด้วย ถ้าคิดว่าเงินเฟ้อปีละ 3% อีก 30 ปี ตัวคูณจะเป็น 2.4 (หาได้จาก internet) ฉะนั้นถ้าจะให้เงินอีก 30 ปีข้างหน้ามีราคาเท่ากับ 20,000 บาทตอนนี้ต้องเอา 2.4 มาคูณด้วย 20,000 บาท คือ 48,000 บาท ฉะนั้นถ้าจะใช้เดือนละ 20,000 บาท อีก 30 ปีข้างหน้าซึ่งก็คือ 48,000 บาท และใช้ไปอีก 20 ปี จะต้องเอา 48,000 x 12 x 20 ซึ่งก็คือ 11,520,000 บาท!!!
แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะท่านน่าจะมีเงินที่ออมไว้กับ กบข. กอช. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ LTF, RMF กองทุนรวมต่างๆ แล้วแต่กรณี ฯลฯ
ประเด็นอยู่ว่า ท่านต้องรีบเริ่มออมทันที จะได้ไม่มีปัญหาตอนเกษียณ ถ้าท่านไม่มีความรู้ ไปถามได้ที่บริษัทจัดการการลงทุนต่างๆ หรือศึกษาจาก online, YouTube, TV Money Channel (ช่อง 782) ฯลฯ
ขอให้เริ่มออมตั้งแต่วันนี้ครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี