ในแต่ละปีรัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณมากมายไปกับการศึกษาดูงานต่างประเทศของส่วนราชการต่างๆ แทบจะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันไปแล้วของผู้บริหารระดับสูงที่ต้องไปดูงานต่างประเทศ
เมื่อไม่นานนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) โดยที่ประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) มีมติเห็นว่า การไปศึกษาดูงานต่างประเทศของกรรมการสภามหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งที่ประเทศเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส รวม 9 วัน ไม่ได้มีการศึกษาดูงานการบริหารและการจัดการศึกษาตามที่ระบุไว้ในโครงการศึกษาดูงานที่ของบประมาณแผ่นดิน แต่เป็นเพียงการไปเยี่ยมชมท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญต่างๆ เท่านั้น
โครงการดังกล่าวรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นผู้ขออนุมัติ และอธิการบดีเป็นผู้อนุมัติโครงการ โดยทั้งสองคนได้ร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งสองคนจึงผิดวินัยอย่างร้ายแรงและต้องรับผิดทางละเมิดคืนเงินจำนวน 6,040,487.13 บาท ให้กับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งนั้นอีกด้วย
ถือเป็นการประเดิมศักราชใหม่เกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตภาครัฐที่ สตง.เร่งตรวจสอบงบศึกษาดูงานต่างประเทศของหน่วยงานราชการที่ปล่อยปละละเลยกันมานาน หรือการปิดหูปิดตาของบรรดาข้าราชการด้วยกัน ทั้งที่เรื่องแบบนี้มีมาทุกยุคทุกสมัย นอกจากเข้าไปตรวจสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งนั้นแล้ว สตง.กำลังตรวจสอบการศึกษาดูงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม สถาบันพระปกเกล้า และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)อีกด้วย เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายประหยัดงบประมาณไม่มีนโยบายให้ส่วนราชการศึกษาดูงานต่างประเทศ การดูงานต่างประเทศจึงมีได้เฉพาะหลักสูตรต่างๆ ของผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานดังที่กล่าวมา โดยเฉพาะ กกต.เคยได้รับการท้วงติงจากหลายฝ่ายก่อนหน้านี้ และสังคมยังกังวลเรื่องการใช้งบศึกษาดูงานของ กกต. เพราะในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ยังไม่มีการเลือกตั้งแต่อย่างใด และการเลือกตั้งไม่ได้มีเป็นประจำทุกปี
ขณะที่หน่วยงานใกล้ตัวรัฐบาลเองอย่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ เป้าหมายเพื่อสร้างผู้ช่วยผู้ตรวจราชการมืออาชีพ ด้วยการดูงานเชิงเปรียบเทียบกับต่างประเทศ แต่กลับมีภาพถ่ายในโลกออนไลน์คล้ายกับการจัดเที่ยวต่างประเทศ เช่น ที่ Universal Studios สวนสนุกชื่อดังระดับโลก ซื้อของที่ Vivo City สถานที่ช็อปปิ้งใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ชมวิวชิงช้าสวรรค์ยักษ์ Singapore Flyer และอีกหลายสถานที่ ใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 960,000 บาท จากงบที่ตั้งไว้ 1,350,000 บาท
การที่ สตง.ปฏิบัติการลงดาบอธิการบดีและรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏดังกล่าว เหมือนกับการเชือดไก่ให้ลิงดู แต่ควรจะจัดการให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมดไม่ใช่เลือกปฏิบัติเฉพาะองค์กรใดองค์กรหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีองค์กรอื่นๆ อีกมากมายที่ปฏิบัติเช่นนี้
เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของมหา’ลัยนั้น คนที่เป็นผู้บริหารน่าจะใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินที่นักศึกษาบางคนต้องทำงานไปด้วยในระหว่างศึกษาเล่าเรียนและหามาด้วยความยากลำบาก เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าหน่วยกิตให้กับทางมหาวิทยาลัย
การจัดศึกษาดูงานต่างประเทศมีความจำเป็น หากคนที่ไปนำความรู้กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับหน่วยงานของตน และต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้มา เพื่อนำไปพัฒนาองค์กรให้เกิดความเจริญก้าวหน้า แต่ที่เป็นปัญหาเพราะการดูงานต่างประเทศแต่ละครั้งของบรรดาข้าราชการส่วนหนึ่ง องค์กรอิสระ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่ง มีแต่ภาพถ่ายตนเองหรือเซลฟี่ ช็อป กิน เที่ยว จึงทำให้สังคมเคลือบแคลงและสงสัยกับการตั้งงบประมาณใช้จ่ายในส่วนนี้ของแต่ละองค์กร
ในส่วนของหน่วยงานที่ควรได้รับความชื่นชมในขณะนี้ คือ ศาลปกครองสูงสุดที่ได้ทำตามนโยบายรัฐบาลด้วยการตัดงบการศึกษาดูงานต่างประเทศ และถือเป็นองค์กรอิสระเดียวที่ทำตามนโยบายรัฐบาล ทั้งที่จริงทุกหน่วยงานหรือทุกองค์กรควรทบทวนเกี่ยวกับงบศึกษาดูงานต่างประเทศได้แล้วว่า เกิดประโยชน์มากแค่ไหน โดยไม่จำเป็นต้องรอนโยบายจากรัฐบาลแต่อย่างใด
ภายใต้การนำรัฐบาลปัจจุบันได้เน้นปราบการทุจริตภาครัฐการสอบทุจริตของมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง เป็นเพียงปัญหาส่วนหนึ่งของการทุจริต ที่หลายคนมองข้ามและมองเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ในความเป็นจริงได้กัดกร่อน สร้างความบอบช้ำแก่วงการราชการมานาน การละเลยหรือเพิกเฉยของคนที่เกี่ยวข้อง ได้สร้างค่านิยมที่ผิด ทำให้คิดว่าการไปศึกษาดูงานต่างประเทศคือเบิกงบประมาณไปเที่ยว ไปช็อปปิ้ง แล้วถ้าไม่ไปดูงานต่างประเทศ งบประมาณที่ได้จากรัฐบาล ต้องคืนกลับแก่แผ่นดิน
การเบิกงบศึกษาดูงานต่างประเทศของมหาวิทยาลัยราชภัฏดังกล่าวคราวนี้ คงเป็นอุทาหรณ์ให้บรรดาข้าราชการทั้งหลาย หน่วยงานรัฐหรือองค์กรอิสระ ได้เป็นอย่างดีว่าควรใช้จ่ายงบประมาณด้วยความระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย หรือผิดวัตถุประสงค์
ล่าสุดคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)ได้เสนอแนวความคิดยกเลิกการจัดสรรงบประมาณการดูงานต่างประเทศของสมาชิกรัฐสภา เพราะพบว่ามีการเที่ยวมากกว่าดูงานที่เป็นประโยชน์
บทบาทหน้าที่ของสตง. ในการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน จึงควรทำด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่ากับองค์กรหรือหน่วยงานใดๆ ใช้งบประมาณไม่ตรงวัตถุประสงค์ก็ดำเนินคดีไปตามกรอบกฎหมาย และควรส่งเสริมสร้างจิตสำนึกให้ผู้นำแต่ละองค์กรนำเงินจากภาษีประชาชนไปก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี