2561 ไร้คนจนหรือเตี้ยอุ้มค่อม
เรียน คุณวิภาวดีฯที่นับถือ
พ.ศ.๒๕๖๑ ประเทศไทยจะไร้คนจนหรือเป็นสังคมเตี้ยอุ้มค่อมกันแน่
พ.ศ.๒๕๖๐ มีคนไทย ๑๓ ล้านคนครอบครองบัตรคนจน ซึ่งในปีหน้าที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของนาวาสามแป๊ะประกาศว่า“ประเทศไทยจะไม่มีคนจน” นั้น คาดว่าจะมีผู้ครอบครองบัตรคนจนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า ๑๕ ล้านเพราะมีคนตกสำรวจเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องตั้งปุจฉาว่า เมื่อผู้ครอบครองบัตรคนจนมากขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่มีคนจนได้อย่างไร คุณวิภาวดีช่วยกรุณาวิสัชฉนาด้วยครับ
อีกเรื่องหนึ่งคือประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย เพราะจะมีวุฒิสมาชิก หรือ สว. ๒๕๐ คน และหนึ่งในห้าของประชากรก็เป็น “ซีนาย ซิติเซ้นต์” หมายความว่า จะมีผู้สูงวัยหรือ สว. ๑๓ ล้านคน (อ้างอิงกับจำนวนประชากรไทย ๖๕ ล้านคน) เมื่อรวมกับคนจนหรือผู้ครอบครองบัตรคนจน ๑๕ ล้านคน จะเหลือประชากร ๓๗ ล้านคน ในจำนวนนี้ก็ต้องมีเด็กที่ยังประกอบอาชีพไม่ได้, มีคนพิการที่ประสิทธิภาพไม่ถึง ๑๐๐% รวมถึงพระภิกษุและนักบวชอีกจำนวนหนึ่ง ประมาณว่าอย่างน้อย ๑๐ ล้านคน ทำให้เหลือประชากร ๒๗ ล้านคน ที่ต้องหาเลี้ยง ๖๕ ล้านคน หรือหนึ่งคนต้องหาเลี้ยง ๒.๕ คน
นั่นหมายความว่า ครอบครัวสามีภรรยาในวัยทำงานต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวเกือบ ๕ คน เป็นภาระที่หนักอึ้ง โดยเฉพาะเมื่อค่าครองชีพเพิ่มขึ้นตลอดเวลาเพราะรัฐไม่ควบคุม ทำให้ต้องตั้งปุจฉาว่า “ประเทศไทยจะไม่มีคนจนจริงหรือ” ถ้าไม่มีคนจนจริง ก็มิได้หมายความว่าประเทศไทยจะอุดมด้วยคนรวยจริงหรือ เพราะเมื่อมีคนรวยเพิ่มขึ้นหนึ่งคนก็หมายความว่า ต้องมีคนจนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยหรือเป็นพันคน ดังนั้นคำพูดหัวหน้าทีมเศรษฐกิจนาวาสามแป๊ะที่ประกาศก้องว่า “ประเทศไทยจะไม่มีคนจน” จึงเป็นเพียงส่วนเดียว พ.ศ.๒๕๖๑ ประเทศไทยจะไม่มีคนจน แต่จะมีคนไม่มีจะกินหรือกินไม่อิ่มท้องทั้งประเทศไทย เพราะจะมี “พยาธิการเมือง”สูบน้ำเลี้ยงมากขึ้นอีก
ดังนั้นพ.ศ.๒๕๖๑ ไทยจะเป็นสังคมเตี้ยอุ้มค่อม อัตราส่วนคนวัยทำงาน : ผู้สูงวัย+เด็กที่ยังไม่เข้าวัยใช้แรงงาน+ผู้พิการทุพพลภาพ+นักบวช+คนจนที่รัฐโอบอุ้ม = ๑ : ๒.๕ มิใช่สังคมไร้คนจนเพราะรัฐให้บัตรคนจนที่มีมูลค่าเดือนละ ๒๐๐ บาท ทำให้รัฐตีความว่า ได้ช่วยเหลือแล้ว จึงทำให้ไม่มีคนจนหลงเหลืออยู่ ทั้งที่ผู้ครอบครองบัตรคนจนบอกว่า “สินค้าร้านธงฟ้าที่มีมูลค่า ๒๐๐ นั้น ไม่ทำให้เขาหายจนได้” นอกจากนั้น ยังมีประเด็นคนคนเดียวจะได้รับสวัสดิการทุกอย่างหรือไม่ เช่น เป็นทั้งคนจน คนพิการ คนชรา จะได้สวัสดิการครบทั้งสามหรือไม่ ถ้าได้ไม่ครบ น่าจะไม่เป็นธรรมเพราะคนชราที่พิการย่อมด้อยสมรรถนะกว่าคนชราที่ไม่พิการ และทั้งคนชราและคนพิการก็เป็นคนจนด้วยเช่นกัน ดังนั้นอาจจะเข้าข่ายแจกแต่แดง ไม่แจกเหลืองก็ได้นะครับ
นั่นคือผลงานทีมเศรษฐกิจเป็น “กระทงหลงทาง” หรือแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เพราะประชานิยมนั้นเปรียบเสมือน “โปรยทานงานบวชหรือเทกระจาด” ซึ่งเป็นฝนตกไม่ทั่วฟ้า นอกจากนั้นยังเป็นนโยบายแอบแฝงเพราะเจตนาที่แท้จริงของประชานิยมก็คือ“เพื่อหวังผลในทางการเมือง”มากกว่าเพื่อแก้ปัญหา
เตี้ยอุ้มค่อมอีกเรื่องก็คือ การที่คุณสมชายแอ่นอกรับรองความประพฤติพี่น้องร่วมนาวาสามแป๊ะว่าเป็นคนดี ไม่โกง คงหวังว่าประชาชนที่ชื่นชอบตัวเอง จะเชื่อตาม แต่ปัญหาคือประชาชนส่วนใหญ่จะคล้อยตามหรือไม่เท่านั้น ถ้าส่วนใหญ่ไม่เชื่อถือ ก็เป็นเหมือน“เตี้ยอุ้มค่อม” เหมือนเช่นแบ่งประชาชนออกเป็นคนจนและคนไม่จนด้วยรายได้ปีละสามหมื่นบาท ทำให้คนไม่จนที่มีจำนวนน้อยกว่าหนึ่งคน ต้องแบกคนจนบนบ่าเกือบสามคน ซึ่งก็คงเดินไปได้กี่ก้าวก็ต้องล้ม
การกระทำของแป๊ะใหญ่หรือถ้ายอมรับว่าเป็นผลงานสามแป๊ะก็ได้ เรื่องเดียวที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับก็คือ การแต่งตั้งประธาน ป.ป.ช.ที่ทำให้ผลงาน ป.ป.ช.ไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน แต่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูก ป.ป.ช.ชุดที่แล้วกล่าวหาซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับแป๊ะใหญ่ ถ้าแป๊ะเล็กเลือกที่จะอุ้มแป๊ะใหญ่ ไม่สนใจประชาชน ก็เปรียบได้กับเตี้ยอุ้มค่อมเช่นกัน จะอุ้มไปได้อีกนานเท่าใด เพราะการกระทำของป.ป.ช.เรื่องนี้ บ่งบอกว่า การใช้อำนาจแบบไร้ธรรมาภิบาลจะทำให้กลายเป็นศัตรูกับประชาชนเหมือนเช่นการใช้อำนาจของระบอบทรราช
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่า ทุกวันนี้คนไทยจำนวนมากยอมรับความชั่วเป็นความดี ยอมรับความผิดเป็นถูกเพราะผู้กระทำความผิดเป็นญาติพี่น้อง แบบตัวกูของกูต้องมาก่อนเสมอ ทำให้เกิดความขัดแย้งในสมาชิกไลน์ สมาชิกเฟซฯมาแล้วมากมาย
โกบักโกรก
ตอบ คุณโกบักโกรก
ผมคงวิสัชฉนาได้เลยว่า การประกาศ “ปีหน้าประเทศไทยจะไม่มีคนจน” เป็นเรื่อง “ขี้โม้ทั้งเพ” ซึ่งการโม้แบบนี้ ก็เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งชายหน้าเหลี่ยมบอกจะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯให้หมดไปภายใน 6 เดือน หรือเรื่องที่จิ๋วหวานเจี๊ยบก็เคยประกาศถ้าได้เป็นนายกฯ จะแก้ไขไม่ให้มีคนจนอีก แล้วผลเป็นไง โม้ไปก็มีแต่ทำลายเครดิตตัวเองเปล่าๆ
วิภาวดี หลักสี่
กดดันมากไป หาภัยใส่ตัว
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ที่นับถือ
ตกลงคำถาม “6 ข้อ” ของท่านนายกฯต้องการฟังคำตอบหรือไม่ ถ้าต้องการ ก็ควรเปิดใจกว้าง หรือถ้าไม่ต้องการให้ตอบ ก็ควร “รอบคอบ” ก่อนตั้งคำถาม จริงๆ แล้วคำถามทั้ง 6 ข้อเอาไปคุยให้เป็นที่เฮฮาในครม.น่าจะเหมาะกว่า เมื่ออยากให้เป็นข่าว “ร้อน,หนาว”ท่านต้องทน ถ้าไม่มีอะไรน่าวิตก ท่านคงไม่เปิดประเด็นนี้ขึ้นมา หรือหวั่นเกรงว่า หากหมดสิ้น “อำนาจ” จะถูกตามเก็บตามกวาดเหมือนคนอื่นเขาหรือไม่ เป็นแค่ความสงสัยของผมเท่านั้น ที่รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงบอก”ผมดูทีวีเมื่อคืนนี้ มีข่าวรายงานถึง 6 คำถามท่านนายกฯ ประชาชนส่วนใหญ่ยังบอกว่าเหมาะสมเลย ส่วนคำถามที่มองว่าชี้นำนั้น พวกคุณไปคิดกันเอง และยืนยันว่า คสช.ไม่ได้หาเสียงทางอ้อมแต่ประการใด” ฟังท่านพูดแล้ว ภูมิใจเหลือเกินพับผ่า ผมขออนุญาตเรียนให้ทราบไว้ตรงนี้ ผมก็ดูทีวีเหมือนท่าน ได้สอบถามเพื่อนพ้องน้องพี่ ทุกคนให้ความเห็นตรงกันข้ามกับที่ท่านกล่าวถึง ซ้ำเหน็บแนมฝากมาด้วย ถ้ากรณีนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำ ไม่ได้หาเสียงทางอ้อม กรณีของ“คุณหญิงหน่อย”ที่ขึ้นรถตระเวนหา“ดอกดาวเรือง” ก็ย่อมไม่เข้าข่ายเช่นกัน เวลานั้น“พวกท่านคิดไปกันเองใช่หรือไม่” ใครก็ได้ช่วยตอบให้หายข้องใจทีเถิด
ในความรู้สึกของผม รัฐบาลอยู่ในภาวะที่ศรัทธาดิ่งจมลงมาก คำถาม “4 ข้อ” ครั้งก่อน กี่เสียงครับที่ราษฎรตอบรับ วันนี้ “6 คำถาม” ตั้งขึ้นใหม่ เชื่อว่า...คำตอบคงไม่ห่างไกลครั้งแรก ประเภท “ลืมตัว,หลงอำนาจ” เห็นมานักแล้ว สุดท้ายไม่มีใครยืนยงองอาจได้สักคน ถ้าคิดว่าจะอยู่ “ค้ำฟ้า” เป็นเรื่องที่“คนใกล้บ้า”เขาคิดกัน
ไม่ว่ามาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย หรือมาจากการยกกำลังเข้าไปยึดอำนาจจากเขา ถ้าไร้ซึ่งความยุติธรรม ส่วนมากจะล้มคว่ำไม่เป็นท่า ที่พรรคการเมืองมาเคลื่อนไหว นักการเมืองออกมาด่ารัฐบาล กลับไปมองตัวเองซิ เป็นผู้จุดชนวนให้เกิดร้าวฉานขึ้นหรือเปล่า ออกกฎระเบียบบังคับไม่ให้เขาเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ “มหาดไทย”ดำเนินการอยู่เวลานี้ จะให้เข้าข่ายเกี่ยวข้องในเรื่องใด และถ้าทุกพรรคการเมืองเขาจะนำวิธีที่ท่านนายกฯทำอยู่มาใช้บ้าง จะขัดขวางหรือไม่ ผม “สอพลอ” ไม่เป็น ผิด, ถูกอย่างไรก็นำสิ่งที่พบเห็นมาบอกกล่าว ถ้ารู้จักฟังคำคิดเห็นผู้อื่นเสียบ้าง บาดหมางไม่มีแน่
ทัศนคติของผมมีแค่ 2 ประโยค“บ้านเมืองต้องพิทักษ์ สถาบันต้องรักและเทิดทูน”
สมควร บุญสมเกียรติ
p p p
-กดดันมากไป หาภัยใส่ตัว-
แค่คำถาม“4ข้อ”แทบท้อถอย ร่องรอยความชื่นชม...เกือบจมหาย
เสียงตอบรับน้อยนิด...ผิดคาดไป วันนี้เคลื่อนไหวอีกครั้ง หยั่งท่าที
เพิ่มคำถามเป็น“6ข้อ”หวังต่อยอด ถ้าไม่รอด ควรไปตาย อยู่อายผี
ผลงานที่ผ่านตามา“3ปี” ดีไม่ดี เห็นอยู่...รู้ทั่วกัน
เศรษฐกิจยังแย่พ่อแม่เอ๋ย ทำเมินเฉยปล่อยไว้ น่าไหวหวั่น
เสียงให้“พยุงราคา”ยินมาหลายวัน วันนี้ดันไป“ต้อนเขา”นำเข้า“กรมฯ”
ทัศนคติของใครก็ไม่รู้?? เห็นประชาชนเป็นศัตรู เฝ้าขู่ข่ม
ถ้ายังดื้อดึงดัน“ขยันผูกปม” การปลุกระดมต่อต้าน...เบ่งบานเอย-
“เบี้ย”
wvvipawadee1@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี