นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูล พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินมากผิดปกติ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่ากว่า 896 ล้านบาท
ทรัพย์สินดังกล่าว ประกอบด้วย
เงินฝากธนาคารพาณิชย์ในชื่อ พ.ต.วีระวุฒิ อดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติและผู้ใกล้ชิด จำนวน 53 บัญชี คิดเป็นเงินรวมมูลค่ากว่า 567 ล้านบาท
เงินลงทุนในชื่อพ.ต.วีระวุฒิ อดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติและผู้ใกล้ชิดจำนวน 6 แห่ง มูลค่ากว่า 260 ล้านบาท
ที่ดินในชื่ออดีตคู่สมรส บุตร เครือญาติ จำนวน 12 แปลง ในกรุงเทพฯ มูลค่ามากกว่า 57 ล้านบาท
ห้องชุดในชื่อเครือญาติ ได้แก่ ห้องชุดชื่อศาลาแดง โคโลเนต สีลม กรุงเทพฯ 1 ห้อง มูลค่า 6.2 ล้านบาท
รถยนต์ 6 คัน ในชื่อของเครือญาติและผู้ใกล้ชิด มูลค่ามากกว่า 6.3 ล้านบาท
ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินของ พ.ต.วีระวุฒิ รวมมูลค่ามากกว่า 896 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน
นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยแบ่งเป็นนักการเมือง 5 ราย และเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ราย อีกด้วย
1. หาก ป.ป.ช.เดินหน้าปราบโกงเด็ดขาด เอาจริง ต่อเนื่อง จะนับเป็นผลงานสำคัญ อาจกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนสู่องค์กรได้
กรณีนี้ ยังน่าสนใจติดตามว่า จะสามารถติดตามยึดทรัพย์ได้จริงๆ เท่าใด?
เพราะก่อนหน้านี้ หมอโด่งหนีคดีอาญาไปแล้ว จะไม่ยักถ่ายถ่ายโอนทรัพย์สินหนีออกไปดอกหรือ?
อายัดไว้แล้วมูลค่าเท่าใดบ้าง?
2. หมอโด่งเป็นตัวละครสำคัญในการระบายข้าวจีทูเจียะ ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์
ยังไม่มีคำพิพากษาอาญาสำหรับหมอโด่งโดยตรง เพราะศาลจำหน่ายคดีชั่วคราวตามกฎหมาย เนื่องจากเจ้าตัวหนีไป ไม่ยอมมาต่อสู้ในชั้นศาล
สำนวนไต่สวนของ ป.ป.ช.ระบุถึงบทบาทของหมอโด่งไว้อย่างน่าสะพรึง
บทบาทของนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ (ประธานคณะอนุกรรมการระบายข้าวเมื่อปี 2554-2555) จำเลยที่ 1 และบทบาทของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ (ประธานคณะอนุกรรมการระบายข้าวเมื่อปี 2555) จำเลยที่ 2
จะว่าไปแล้ว ยังไม่ท้าทายเท่ากับหมอโด่ง ซึ่งอยู่ในตำแหน่งอยู่ในกรรมการสำคัญเกี่ยวกับการระบายข้าวยุคยิ่งลักษณ์มาโดยตลอดต่อเนื่อง
ราวกับเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริง หรือเป็นผู้เล่นสายตรงของใครสักคนที่มีอำนาจในขณะนั้น
เพราะพ่อค้าข้าวที่ต้องการจะได้ข้าวจากโกดังรัฐบาลเวลานั้นจะต้องโทรศัพท์คุยกับหมอโด่ง เพื่อตกลงราคา จ่ายเช็ค แลกกับการได้รับข้าวของรัฐไปโดยไม่ต้องประมูล ไม่ต้องทำสัญญากับรัฐ
บรรดาเอกชนที่เป็นพยานในคดีข้าวจีทูจี ให้การสอดคล้องต้องกัน
บางราย ไปพบนพ.วีระวุฒิ ที่ห้องทำงานกระทรวงพาณิชย์ รับทราบเงื่อนไข จะต้องจ่ายเงินเป็นเช็ค แล้วอยากจะได้ข้าวชนิดใดขอให้บอก จะให้ไปตรวจสภาพข้าวในโกดังได้ด้วย แล้วจะได้รับข้าวโดยไม่ต้องประมูลซื้อจากกรมการค้าต่างประเทศ ไม่ต้องทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ ทั้งๆ ที่ ข้าวนั้นเป็นข้าวที่อยู่ในสัญญาขายแบบจีทูจี
บางรายติดต่อพูดคุยกับหมอโด่ง แล้วก็มอบให้ประสานกับนายนิมลต่อไป ทั้งเรื่องการส่งมอบเช็ค การรับมอบข้าว ฯลฯ
3. ในการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยนัดหนึ่ง คดีจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ปรากฏว่า นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปขึ้นให้การ ได้มีการเบิกความในประเด็นเกี่ยวกับหมอโด่งด้วย
อัยการซักว่า นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ในอดีตเคยเป็นกรรมการบริษัท สยามรักษ์ จำกัด ต่อมาได้เข้ามาเป็นเลขานุการรัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์ และเป็นกรรมการ รวมถึงอนุกรรมการเกี่ยวกับการระบายข้าวหลายคณะด้วยกัน ตรงนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยตรวจสอบที่มาที่ไปก่อนหรือไม่?
นายสุรนันทน์ เบิกความสรุปได้ว่า การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ยึดตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ.2535 มีการระบุคุณสมบัติอยู่ในนั้นแล้ว และการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ กขช. รวมถึงรัฐมนตรีในกระทรวงพาณิชย์ ที่ลงนาม ก่อนจะเสนอเรื่องให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก่อนส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติเห็นชอบ เรื่องจึงผ่านการกลั่นกรองเรื่องมาตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์ จนถึงที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นผู้อนุมัติ
อัยการซักว่า ข้อมูลจากคนวงในกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า นพ.วีระวุฒิ ไม่ใช่คนสนิทของนายบุญทรง แต่เป็นคนสนิทของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตสส.เชียงใหม่ น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกเลือกเข้ามาให้ดูแลด้านระบายข้าว ส่งผลให้การตัดสินใจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ขึ้นอยู่กับนพ.วีระวุฒิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ตรวจสอบหรือไม่?
นายสุรนันทน์ เบิกความสรุปได้ว่า ตอนนั้นไม่มีใครทราบเรื่องตามที่อัยการถามมาก่อนเลย
4. ต้องติดตามต่อไปด้วยว่า ในทางคดีอาญานั้น ทางอัยการได้ดำเนินการร้องขอต่อศาลฎีกาฯ เพื่อให้พิจารณาดำเนินกระบวนการคดีระบายข้าวจีทูจี ในส่วนของหมอโด่งต่อไปแล้วหรือยัง ซึ่งตามกฎหมายปัจจุบัน สามารถเดินหน้าคดีต่อไปได้ แม้ตัวจำเลยจะหลบหนีคดีไป (คล้ายๆ กรณีทักษิณ)
นักการเมืองอย่างนายบุญทรงกับนายภูมิ ต้องโทษคนละ 40 กว่าปี 30 กว่าปี
น่าสนใจว่า หมอโด่งจะมีชะตากรรมอย่างไร?
แล้วจนถึงวันนี้ คนที่ส่งหมอโด่งเข้ามาเป็นเลขาฯ ขอโทษประชาชนบ้างหรือยัง? แสดงความรับผิดชอบอะไรบ้างหรือยัง? แล้วมีตัวการใหญ่ที่อยู่เหนือหมอโด่งอีกหรือไม่?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี