ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจรที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้แจกเอกสารต่อที่ประชุมครม.โดยตอนหนึ่งของเอกสารความยาว 12 หน้าระบุว่า มีผู้ไม่หวังดีเจตนาไม่บริสุทธิ์ยังคงพยายามอยู่จนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้ก็คือ สื่อและนักการเมืองที่มีปัญหาพยายามจะล้มรัฐบาลและคสช.ให้ได้ในช่วงนี้ กฎหมายคำสั่งทุกฉบับจะแก้ไขให้กลับไปที่เดิมและมีข้าราชการที่ไม่สุจริตร่วมมือ
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับขบวนการจ้องล้มรัฐบาลต่อที่ประชุมครม.เชื่อว่าคงได้รับรายงานด้านการข่าวบางประการถึงขบวนการที่ออกมาเคลื่อนไหวโดยมีเป้าหมายแอบแฝงขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองนับวันจะแหลมคมและร้อนแรงมากขึ้นทุกขณะโดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การช่วงชิงอำนาจรัฐหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าที่คาดว่าจะมีขึ้นในปลายปีนี้
ขบวนการจ้องล้มรัฐบาลที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้มีทั้งพรรคการเมืองบางพรรค เครือข่ายภาคประชาชน รวมทั้งขบวนการเผยแพร่ข่าวเท็จเพื่อบ่อนทำลายอำนาจรัฐทางโซเชียลมีเดีย และอาจรวมถึงขบวนการที่จ้องรอโอกาสสร้างสถานการณ์ก่อเหตุร้ายเหมือนในอดีตซึ่งขบวนการเหล่านี้ล้วนเป็นเครือข่ายเดียวกัน แต่เคลื่อนไหวในลักษณะแยกกันเดินแต่ร่วมกันตี
อย่างไรก็ตามแม้จะมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลจริง แต่สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันก็คืออำนาจรัฐปัจจุบันภายใต้คสช.เองก็เกิดเรื่องอื้อฉาวที่ถูกตั้งข้อสงสัยในเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบอยู่หลายเรื่องซึ่งสร้างความคลางแคลงใจของสังคม โดยเฉพาะที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาวขณะนี้คือกรณีนาฬิกาหรูราคาแพงเกือบ 30 เรือนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงใส่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยไม่แจ้งในการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
แม้ พล.อ.ประวิตร จะอ้างว่าเป็นนาฬิกาของเพื่อนที่ให้ยืมใส่และคืนไปหมดแล้ว แต่ดูเหมือนข้ออ้างดังกล่าวจะไร้น้ำหนักในสายตาสาธารณชน ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องกดดันให้พล.อ.ประวิตร แสดงสปิริตลาออกก่อนที่จะลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤติศรัทธาทั้งต่อพล.อ.ประยุทธ์ อำนาจรัฐคสช.รวมไปถึง (ป.ป.ช.)ชุดปัจจุบันที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจซึ่งเป็นอดีตลูกน้องคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน โดยป.ป.ช.กำลังสอบสวนกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตรท่ามกลางวิกฤติศรัทธาของประชาชนที่ดูจะไม่ค่อยเชื่อถือป.ป.ช.ชุดปัจจุบันภายใต้การนำของ พล.ต.อ.วัชรพล และสังคมกำลังจับตารอดูผลการสอบสวนของป.ป.ช.ว่าจะออกมาอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมาหรือปกป้อง พล.อ.ประวิตรแบบค้านสายตามหาชน
ดังนั้นแม้ พล.อ.ประยุทธ์จะระบุว่ามีสื่อและกลุ่มการเมืองเฉพาะบางกลุ่มหน้าที่มีปัญหาจ้องล้มอำนาจรัฐ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า หากอำนาจรัฐไร้แผลก็ไม่ต้องกลัวใครจ้องล้ม โดยเฉพาะกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร ต้องแยกออกจากขบวนการจ้องล้มรัฐบาลเพราะในกรณีอื้อฉาวนี้แม้แต่ผู้ที่เคยเป็นกองหนุนแนวร่วมของคสช.ก็ยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตรแสดงสปิริตลาออกเพราะจำนนด้วยข้อเท็จจริง ทั้งนี้ประชาชนฝากความหวังไว้กับคสช.ว่าจะเข้ามาปฏิรูปประเทศให้ใสสะอาด แต่หากอำนาจรัฐคสช.ปล่อยให้คนในอำนาจรัฐทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องส่อทุจริตประพฤติมิชอบเสียเอง อำนาจรัฐคสช.ก็คงไม่ต่างจากเหล่านักการเมืองแบบเดิมๆที่ถูกมองว่าน้ำเน่าซึ่งประชาชนต้องการปฏิรูปให้หมดไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี